๏ กาพย์เห่เรือ กระบวนพยุหยาตราชลมารค ๏ นารายณ์จำหลักล้ำ.......เลออง- อาจเฮย ครุฑยุดนาคทรวดทรง......สง่าแท้ ลายทองล่องชาดผจง.......กระจกแต่ง ฉัตรพู่ดูเลื่อมแล้.............เลิศริ้วปลิวงาม ๚ ๏ นารายณ์หมายเทียบไท้...สยามินทร์ ทรงครุฑเยือนปฐพิน-.......ถิ่นแคว้น พระเกียรติแห่งพระจักริน...ขจัดทุกข์- เข็ญนา ทวยราษฎร์ปราศยากแค้น...เนื่องด้วยพระบาร-มีเฮย ๚ ๏ เรือเอยเรืองยิ่งแท้ ........... ล้วนเลื่อมแล้หลากสรรพนาม ลอยเด่นกลางชลตาม ...........รูปลักษณ์ล้ำงามใกล้ไกล ๏ เรียงรายเลื่อมพรายพร้อม ..เพ็ชรพลอยล้อมเหลืองอุไร ปิดทองผ่องอำไพ ................ แลทางใดล้วนงามสม ๏ พู่ย้อยห้อยระย้า ............... ลวดลายผ้าน่าชื่นชม ธงฉัตรพัดตามลม ............... เลื่อมวิจิตรโศภิษฐ์แพรว ๏ เรือทองขวานฟ้าคล้อย ..บรรเจิดลอยนำหน้าแนว เรือทองบ้าบิ่น แน่ว .........แสนปราดเปรียวสุดโสภี ๏ เรือเสือทะยานชล ..... เสือคำรนสินธุ์นาวี เคียงข้างดั่งเสนี ................. เรือดั้งปรี่มีสองลำ ๏ ตรงกลางเรืออีเหลือง .. ดูปราดเปรื่องสมน้ำคำ ฝีพายชายกำยำ .................. ยกพายจ้วงท่วงช่ำชอง ๏ เรือดั้งสามและสี่ ....... แล่นเร็วรี่มีครรลอง พร้อมเพรียงไปทั้งผอง ....... .ฝีพายคล่องเกริกไกรเกิน ๏ เรือดั้งห้าและหก ........ให้สาธกล้ำจำเริญ เรียงรายได้ยลเพลิน .............ด้วยดำเนินอย่างยรรยง ๏ เรือตำรวจนอกลิ่ว ...... หลากแพรพลิ้วทั้งทิวธง เรือดั้งเจ็ด,แปดคง ........ ลอยเลียบคู่อยู่ครบครัน ๏ เรือดั้งเก้าอยู่ซ้าย ....... ซึ่งเลื่อมลายวิไลวรรณ เรืออสุรปักษีสัณ- ........... ฐานเฉิดฉันนั้นตรึงตา ๏ เรือตำรวจในเคียง ..... .คงลำเลียงมวลเสนา อีกลำงามโสภา ................... เกียรติก้องหล้ามาเนิ่นนาน ๏ อสุรวายุภักษ์ .............. นามประจักษ์เลื่องชลยาน เรือดั้งสิบแหวกธาร ........ แสนวิกรานต์ห้าวหาญนัก ๏ เรือดั้งสิบเอ็ดตาม ..... .ยังคงความเก่งกาจประจักษ์ เรือดั้งสิบสองพรัก- ........ พร้อมเพรียงจักด้วยว่องไว ๏ กระบี่ราญรอนราพณ์ ... กระบี่ปราบเมืองมารใด คำชมสมพิสมัย ................... คำใดเปรียบเทียบเรืองาม ๏ เรื่อยเรื่อยมาเลียบเคียง.....อย่างพร้อมเพรียงมาติดตาม คือ เรือดั้งสิบสาม ".........น่าครั่นคร้ามทั้งยำเกรง ๏ เรือดั้งสิบสี่ นั้น.............ขุนพลนั้นช่างกล้าเก่ง จ้วงพายอย่างครัดเคร่ง..........ทั้งครื้นเครงทั้งเร่งมือ ๏ เรือดั้งสิบห้าล่อง ........ ความแคล่วคล่องต้องเชื่อถือ สุครีพครองเมืองคือ ..... นามระบือชื่อมงคล ๏ พาลีรั้งทวีป ............... ดั่งคืนชีพผลาญมารผจญ โดดเด่นเห็นงามล้น ........... อุกฤษฎ์จนดั่งเวชยันต์ ๏ เรือหนึ่งซึ่งงามนัก ........... ดั่งรูปลักษณ์เทพรังสรรค์ เรือพระที่นั่งอัน ................... แสนวิจิตรตระการตา ๏ อนันตนาคราช ........... ล้ำพิลาศทัศน์ลักขณา ลือเลื่องเฟื่องโลกา .............. สุดโสภาคราชื่นชม ๏ เรือดั้งสิบหกคล้อย ...... พลเรือคอยจ้วงพายจม งัดน้ำยามต้องลม ................ เป็นฟองแตกแปลกตาไป ๏ เห็นเรือดั้งสิบเจ็ด ....... เรือครุฑเตร็ดไตรจักรไกร เกริกกล้าเรืองวิไล ............... ลอยลำใกล้เรือแตงโม ๏ เรือครุฑเหิรเห็จห้าว .. เรือดั้งกร้าวสิบแปดโบ- ราณท่านใช้ฝ่าโต้ ............... ทัพข้าศึกทั้งฝึกปรือ ๏ เรือดั้งสิบเก้านั้น ........ แสนสำคัญนามเลื่องลือ องอาจเก่งฉกาจคือ ............. คงเกียรติกล้าเหล่าวีรชน ๏ เรือดั้งยี่สิบ แสน- .........ยานุภาพแม้นมากเหลือล้น สำเนียงเสียงขุนพล ............. พร้อมเพรียงจนมากเรี่ยวแรง ๏ เรือดั้งยี่สิบเอ็ด ......... .เรือลอยระเห็จดั่งสำแดง ชายชาญหาญกร้าวแกร่ง ...... จ้วงน้ำใสพรายกระเซ็น ๏ เรือดั้งยี่สิบสอง ........... แหวกธารท่องล่องลอยเห็น พลหมู่เสนาเป็น ................... เช่นมุ่งหน้าผลาญไพรี ๏ เรือหนึ่งซึ่งเกินคำ ............. ร้อยวรรณกรรมบรรยายมี ด้วยรูปทรงโศภี ................... ลวดลายสีผ้าแพรพรรณ ๏ รูปลักษณ์ล้วนวิไล ............. เรือเอกชัยหลาวทองอัน พิลาสเป็นอัศจรรย์ ............... ดั่งมุ่งมั่นผลาญศัตรู ๏ อีกหนึ่งซึ่งคงเกียรติ์ .......... ดั่งคำเธียรบรมครู บรรเจิดให้เชิดชู .................. คู่บารมีพระจักรินทร์ ๏ เอกชัยเหิรหาวห้าว ..... ผุดผ่องพราวสุดโศภิน ลายทองพ้องศาสตร์ศิลป์ . ......แสนพิพิธจิตรการตา ๏ โอ้เรือพระที่นั่ง ................. ทองสุกปลั่งดั่งจันทรา สมเกียรติ์แห่งราชา .............. ธ ผ่านฟ้ามไหศวรรย์ ๏ พระผู้ทรงผ่านฟ้า ..............ทรงบุญญาจอมราชัน ทศพิธราชธรรมมั่น .............. มากเมตตาเปี่ยมปรานี ๏ นารายณ์ทรงสุบรรณ ... เกินเสกสรรด้วยวาที ร้อยรจน์เบื้องบทกวี .......... เกินจดจารด้านงามล้ำ ๏ นารายณ์สี่กรนั้น ............... เปรียบ ธ มั่นคงคุณธรรม เมตตาปรานีนำ .................. ต่อไพร่ฟ้าประชากร ๏ ศึกใหญ่คือภัยแล้ง ............ น้ำเหือดแห้งแหล่งดินดอน ธ โปรดอำนวยพร ................. เปลี่ยนทุกข์ร้อนเป็นร่มเย็น ๏ เสกฝนแลเสกน้ำ ............. ต่างชุ่มฉ่ำไร้ลำเค็ญ ชี้ทางห่างทุกข์เข็ญ ............. เช่นคงชีพอย่างพอเพียง ๏ นารายณ์ทรงสุบรรณ ... ดั่ง ธ นั้นเฝ้ามองเมียง เสด็จไปทั่วไทยเพี้ยง- .......... องค์นารายณ์ไล่อาธรรม์ ๏ ยอดเขาสุดเขตแดน ......... ถิ่นยากแค้นแดนใดกัน ทรงย่างพระบาทพลัน .......... หมายเปลื้องทุกข์มอบสุขใจ ๏ ทวยราษฎร์ต่างแซ่ซ้อง ...... ดังกึกก้องทั้งแดนไตร ขอองค์พ่อหลวงไทย ............ ทรงสำราญนิรันดร ๏ เรือพระที่นั่งทรง ............. .ประหนึ่งองค์ธราธร เสกสร้างสถาพร .................. เสกประสิทธิ์ในโลกา ๏ เนรมิตวิจิตรนัก ............... แจ้งประจักษ์รูปลักขณา รื่นรมย์สมอุรา .................... ดุจหงส์ฟ้าสิวาลัย ๏ คือ เรือสุพรรณหงส์ .... อันสูงส่งคงคู่ไทย ล้ำหล้าเกริกเกรียงไกร ........ รอยจำหลักพิไลงาม ๏ หงส์ทองล่องสายชล .......... น้ำใสจนเห็นแวววาม ต้องแสงสำแดงภาม ............. ชดช้อยตามคำกล่าวชม ๏ ฉัตรพู่ลู่ลมระย้า ................ธงโสภาคราสวยสม เพริศพลิ้วทิวเทพพนม ......... แสนรื่นรมย์ยามชมพลัน ๏ เหล่าหมู่ฝีพายมาก ........... แต่งกายหลากมากแพรอัน ดิ้นเงินเดินทองนั้น ............... ช่างผ่องพรรณอันงามแล ๏ โสตสดับกาพย์ทำนอง ........ดังกึกก้องพ้องจริงแท้ เปรียบเปรยนำเผยแพร่ ..........สิ่งล้ำค่าในวารี ๏ เอื้อนอ้างดั่งเวทมนต์ ......... ศักดิ์สิทธิ์ดลในบทกวี บ่งความงามประเพณี ........... ร่ายวาทีกาพย์คำโคลง ๏ ลอยเด่นเห็นงามสง่า ........ ทองเลื่อมตาผ้าแพรโพลง จำหลักลวดลายโยง - ........... คล้ายคงชีพรีบเริงชล ๏ คือเรือพระที่นั่ง ................ สุดสะพรั่งนภมณฑล เอนกชาติภุชงค์ ดล ....... งดงามล้นพ้นพรรณนา ๏ ฉัตรตั้งตระหง่านงาม ....... ทองเหลืองอร่ามงามภูษา แต่งจนวิจิตรา ..................... พลเสนาพายพร้อมเพรียง ๏ สวมหมวกกลีบจำปา ........ ช่างแปลกตาคราระเรียง จ้วงพายคล้ายสำเนียง .......... ร่ายคำเจรียงเยี่ยงบรรยาย ๏ เรือแซง เจ็ดลำล่อง ..... แสนแคล่วคล่องมวลฝีพาย เสนีย์มีนายท้าย ................... นุ่งผ้าสีสอดไหมงาม ๏ แต่งกายลวดลายหลาก ...... พลหมู่มากหากมองตาม เลื่องลือระบือนาม ................ พรักพร้อมตามท่วงทำนอง ๏ บรรพชนคนกร้าวแกร่ง ..... มุ่งสำแดงเกียรติทั้งผอง รุกไล่ไพรีต้อง ................. .....พ่ายทัพไทยในบัดดล ๏ เรือตำรวจกรมวัง ....... คุมแนวหลังดังขุนพล ตรวจตรามาแต่ต้น ......... ......เช่นวีรชนอันเกรียงไกร ๏ นับได้ห้าสิบสอง ............... เรือลอยล่องชลาลัย โอ้แสนอวดศักดิ์ไทย ............ อันยิ่งใหญ่ในคงคา ๏ เลิศศิลป์ล้ำศาสตร์สร้าง ..... เด่นสล้างอวดศักดา ยังสุขทุกครั้งครา ................. ตรึงตราภาพมิลืมเลือน ๏ บุญแท้เกิดเป็นไทย .......... แสนสุขใจหาใดเหมือน มากสุขทุกครัวเรือน ............ ใต้ร่มหล้าพระบารมี ๏ ขอเทิดทูนบูชา- ............... พ่อหลวงฟ้าจอมจักรี จงรักและภักดี ..................... ตราบสิ้นฟ้ากว่าสิ้นลม ๖๐ ปีทรงครองราชย์ เหล่าทวยราษฏร์ถวายพระพร ๏ บารมี ธ เลิศหล้า............เลอสรวง ทศพิธราชธรรมปวง...........เปี่ยมล้น ทรงวิวรรธน์ประดุจดวง.......ดาวฤกษ์ พระอัจฉริยภาพพ้น............พรั่งพร้อมบุญญา ๚ ๏ ทรงเสด็จครองราชย์ด้วย..ราชธรรม์ พระราชกรณียกิจอัน...........สฤษฏ์แล้ บังเกิดซึ่งคุณมหันต์............แก่ราษฎร์ ดับทุกข์สร้างสุขแท้............ทั่วหล้าสุขสราญ ๚ ๏ หกสิบแห่งกาลฝน ..............พระบารมีพ้นชนชื่นชม เป็นยิ่งนโรดม ......................ในไตรโลกแต่ปางบรรพ์ ๏ พระบาททรงก้าวย่าง ..........ทุกเส้นทางอย่างมุ่งมั่น เปลื้องทุกข์ทวยราษฎร์อัน- .....ผู้ยากจนพ้นลำเค็ญ ๏ ทรงสอนให้พึ่งตน ...............เพื่อสยามชนได้อยู่เย็น - เป็นสุขไร้ทุกข์เข็ญ ................ดำรงชีพอย่างพอเพียง ๏ หากผองพื้นปฐพี ................แทนพื้นที่ให้ร้อยเรียง รจนาวรรณกรรมเพี้ยง ...........จารึกซึ่งพระบุญญา ๏ ด้วยน้ำมหาสมุทร ..............ต่างหมึกสุดร่ายพรรณนา เขียนพื้นแผ่นพสุธา ...............ทั้งโลกหล้าเบื้องมหาศาล ๏ ร่ายรจน์ด้วยบทกวี ..............ล้ำวาทีทั้งจดจาร บรรยายซึ่งอุปการ .................แห่งภูมินทร์ผู้ทรงธรรม ๏ สิ้นฟ้าแลปฐพี ....................สิ้นหมึกที่มหาสมุทรนำ กล่าวเกริ่นสรรเสริญคำ ..........มิอาจจดบทอ้างคุณ ๏ ทวยราษฎร์น้อมภักดี ..........จอมจักรีผู้เปี่ยมบุญ ผู้ทรงพระการุณ ....................ให้ทรงเกษมทั้งเปรมปรีดิ์ ๏ ด้วยคุณพระไตรรัตน์ ...........ความพิพัฒน์บังเกิดมี คุณเทพเรืองฤทธี ..................ทั้งจักรวาลอันศักดา ๏ คุณงามความศักดิสิทธิ์ .......เสถียรสถิตไตรโลกา ปกปักแลรักษา ......................ซึ่งองค์พระสยามินทร์ ๏ ให้ทรงพระเจริญยิ่ง ............อยู่เป็นมิ่งขวัญชีวิน ทวยราษฎร์ข้าแผ่นดิน ............ตราบร้อยพันวสันต์กาล ๏ ธ ประสงค์พุทธางกูร ...........จงสมบูรณ์ด้วยนฤพาน สรรเพชญพระโพธิญาณ .........ยิ่งไพศาลในบัดดล ๏ ศรีสวัสดิ์นิรันดร ..................จตุรพรสัมฤทธิผล เทิดไท้พระภูมิพล .................ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ๚ะ๛ เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลยิ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าอัลมิตรา สมาชิกเวปบ้านกลอนไทย
7 มิถุนายน 2549 23:01 น. - comment id 582562
งามมากขอรับพี่อัล ตบมือให้ขอรับ......... หาอ่านยากจริงๆครับโคลงแนวนี้
8 มิถุนายน 2549 00:22 น. - comment id 582573
ข้าน้อยขอคารวะ หลังจากที่ฝีมือฝืด ปัจจุบันแต่งได้ก็เก่งแล้ว อิอิ
8 มิถุนายน 2549 00:29 น. - comment id 582575
เป็นผลงานชุดพิเศษ ที่ป้าไม่มีวันทำได้ ชื่นชมค่ะ
8 มิถุนายน 2549 03:18 น. - comment id 582592
8 มิถุนายน 2549 03:30 น. - comment id 582600
ขอบคุณนะอัลมิตรา ผมรอมานานแล้ว
8 มิถุนายน 2549 04:22 น. - comment id 582601
คำก็งามงานก็สวยด้วยวรรณศิลป์ เขียนตำนานแห่งแผ่นดินถิ่นสยาม กาพย์เห่เรือพระราชพิธีมงคลนาม คุณอัลฯ ก็คงงามไม่แพ้งาน
8 มิถุนายน 2549 05:56 น. - comment id 582609
ยาวงี้ เห่ได้ถึงอยุธยาเลย เมื่อไหร่จะเอารูปที่ถ่ายมาลงมั่งง่ะคับ
8 มิถุนายน 2549 11:55 น. - comment id 582662
ยากจะหาคำอธิบายงับ ชื่นชมจริงๆงับ
8 มิถุนายน 2549 12:18 น. - comment id 582669
สรรพนาวาล่องล้อม ปิ่นสยาม พระเฮย เหล่านิกรทั่วสารคาม แซ่ซร้อง พยุหยาตรางาม กลางสมุทร ไพเราะจับจิตพร้อง ซาบซึ้ง ตรึงจินต์ สรรพสำเนียงเห่ร้อง ก้องนที อัลมิตราร่ายพจี แจ้งไว้ ฉลองราชย์เฉลิมศรี พระเสด็จ ชลเฮย ประมวลราชนาวาให้ เพื่อนพ้อง ยินกระแส
8 มิถุนายน 2549 12:23 น. - comment id 582672
รูปถ่ายสวยมาก............. กาพย์แห่เรืองดงามทุกบทโคลง ใช้อักษรบทกาพย์สะท้อนให้ภาพจริงๆ ขอชื่นชมพี่อัล...มืออาชีพมากๆ ขออนุญาตนำไปสอนเด็กดอย...นะครับ..
8 มิถุนายน 2549 12:36 น. - comment id 582674
สวัสดีค่ะ คุณอัลมิตรา กลอนงานจังเลยค่ะ อ่านแล้วเหมือนได้เห็นภาพ ขอบคุณสำหรับผลงานดี ๆ ค่ะ
8 มิถุนายน 2549 13:46 น. - comment id 582690
8 มิถุนายน 2549 15:11 น. - comment id 582714
8 มิถุนายน 2549 15:21 น. - comment id 582715
สวยภาพกาพย์ไพเราะ เห่ลัดเลาะตามสายชล ดุจเทพบันดาลดล เป็นบุญล้นของคนไทย ในโลกนี้จะมีชนชาติไหนจะมีบุญเท่าคนไทย ที่จะได้รับความประทับใจที่ยิ่งใหญ่อลังการ อัลมิตราสามารถยิ่งจริงๆ
8 มิถุนายน 2549 18:37 น. - comment id 582752
ขนลุกเลย
8 มิถุนายน 2549 18:42 น. - comment id 582753
น่าจะเอาไปวิ่งไว้ที่หน้าหนึ่งนะครับ
8 มิถุนายน 2549 18:54 น. - comment id 582756
พี่อิมค่ะ บัวทั้งอ่านทั้งฟัง บัวทั้งปริ้นเก็บไว้ ไพเราะเป็นที่สุดค่ะ
8 มิถุนายน 2549 21:41 น. - comment id 582772
ชื่นชมผลงานงามของคุณอัลมิตราจริงๆค่ะ
8 มิถุนายน 2549 21:44 น. - comment id 582773
กนกวัจนะนี้..พราวแสน กรองกล่อมวิมานแมน..ม่วนแท้ ทวยไทซึ่งเริงแดน..อวยเอ่ย พรเฮย หนุนเนื่องยินเยี่ยมแล้..ยิ่งย้ำนิยมขยาย ------------------------ ผมมาขอบคุณคุณอัลมิตราครับ ผมได้รับหนังสือที่คุณอัลมิตราส่งให้แล้ว และเพิ่งอ่านได้ 5 บทครับ สนุกครับสนุก ขอบคุณอีกครั้งครับผม
8 มิถุนายน 2549 22:30 น. - comment id 582787
..งดงามมากด้วยดิคะ..พี่อัลมิ
8 มิถุนายน 2549 22:44 น. - comment id 582789
9 มิถุนายน 2549 01:04 น. - comment id 582802
ไม่ได้อ่านจนครบทุกบทครับ แต่ก็ได้นั่งนับเรือจนครบทั้ง ๕๒ ลำได้ในรอบที่ ๕ ครับ
9 มิถุนายน 2549 01:43 น. - comment id 582807
ขอพระองค์ทรงพระเจริญเป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยให้ได้อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารตลอดกาลนานเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะข้าพระพุทธเจ้า : นางสาวเบญญาภา ************************************* และขอชื่นชมผลงานของคุณอัลมิตรามา ณ ที่นี้ด้วย
9 มิถุนายน 2549 08:09 น. - comment id 582829
9 มิถุนายน 2549 12:30 น. - comment id 582851
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
9 มิถุนายน 2549 13:04 น. - comment id 582858
คุณอัลมิตรา ผมตั้งใจจะเขียนสักทบแต่เขียนไม่ออก อ่านแล้วงดงามละเอียดละออ
9 มิถุนายน 2549 13:08 น. - comment id 582860
ปลื้มใจที่ได้เกิดแผ่นดินนี้ ได้อยู่ภายใต้พระบารมี แห่งในหลวง
9 มิถุนายน 2549 14:49 น. - comment id 582868
พระเสโทที่หลั่งริน พื้นแผ่นดินสว่างไสว เรืองรองทั่วถิ่นไทย ดังทองทาบอาบแผ่นดิน.... ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
9 มิถุนายน 2549 15:18 น. - comment id 582870
บอกได้คำเดียวว่า อึ้ง ทึ่ง และสุดยอด ผมเชื่อว่าคุณอิมตั้งใจกับบทนี้อย่างมาก วรรณศิลป์ล้ำเลิศสุดๆเลยครับ
9 มิถุนายน 2549 16:21 น. - comment id 582875
ประชาราษฏร์ชื่นชมอย่างสมหวัง ผู้คนหลั่งไหลมาพาฉลอง หกสิบปีที่พระองค์ทรงปกครอง ต่างร่วมร้องพระองค์ทรงพระเจริญ.... มาทักทายคร้าบบบ.... ผลงานสุดยอดเขียนได้ยาวเป็นเทือกเขาอย่างนี้แสดงว่ามีพลังของความตั้งใจสูงส่ง.... ขอคาราวะ.... ท่านลิง... 555 ไปล่ะ
9 มิถุนายน 2549 16:31 น. - comment id 582878
สุดที่จะบรรยาย....... ไพเราะมากๆ ปลื้มปิติจริง ๆ
9 มิถุนายน 2549 19:14 น. - comment id 582891
สุดยอดเลยจ้า
9 มิถุนายน 2549 20:14 น. - comment id 582899
ชื่นชมด้วยค่ะ คุณอิม : )
10 มิถุนายน 2549 02:54 น. - comment id 582925
เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ --------------- หกสิบปี ที่ทรงดำรงมั่น.........เป็นมิ่งขวัญชาวไทยในทุกถิ่น เหนือจรดใต้ในหล้าทั่วธานินทร์.........พระภูมินทร์ทรงห่วงทุกช่วงกาล ทศพิธราชธรรม นำปกป้อง.........ไทยทั้งผองครองรักสมัครสมาน ทรงอุทิศพระองค์เพื่อทรงงาน.........เพื่อบรรดาลสุขให้ไทยทั่วแดน หกสิบปี มากกว่า หกสิบล้าน.........ยกกล่าวขาน ความดี มีปึกแผ่น ชาวสยามประเทศทั่วเขตแคว้น.........จึงเนืองแน่น เหลืองทอง ผ่องอำไพ เป็นสีแห่งแสงเรืองที่เปรื่องปราด.........พระปรีชาสามารถประกาศได้ พระราชกรณียกิจใด.........ทรงเป็นไปเพื่อปวงพสกนิกร หกสิบปี ยาวนานสืบสานต่อ.........ทรงเกิดก่อโครงการดำริห์ก่อน พัฒนาประเทศเขตดินร้อน.........แปลงดินดอนเป็นเขตเกษตรกรรม ทรงย้ำหนักหลักการมานานเนิ่น.........ทรงเผชิญเขินขาดพระบาทย่ำ ทุกภาคพื้นผืนดินถิ่นทรงธรรม.........พระทรงย้ำ พอเพียง เพื่อเลี้ยงตน หกสิบปี พ่อทรงดำรงศาสน์.........นำผองราษฎร์ทรงธรรมย้ำฝึกฝน ยกไตรรัตน์ฉัตรธงเป็นมงคล.........ทั่วสากลสยามินทร์ถิ่นแหลมทอง น้อมหลักธรรมย้ำหนักหลักการพ่อ.........รู้เพียงพอสามัคคีธานีผอง ภูมิภาคหลากหลายไทยพี่น้อง.........ร่วมปกป้องแนวเขตประเทศไทย หกสิบปี ที่พระองค์ทรงตั้งจิต.........เพื่ออุทิศชิดเชื้อเพื่อชนได้ ทุกเขตแคว้นแดนดินระบิลไกล.........เกียรติเกริกไกรใต้ร่มโพธิสมภาร เมื่อยามยากตรากตรำคร่ำงานหนัก.........ด้วยทรงรักทวยราษฎร์ประกาศผ่าน ทรงห่วงใยไทยร้อนทรงผ่อนการณ์.........ให้สมานสามัคคีนี้พ่อจริง หกสิบปี ที่พ่อทรงก่อเกื้อ.........พระโอบเอื้อผองไทยในสรรพสิ่ง วันนี้เห็นเป็นหลักได้พักพิง.........ทรงเป็นมิ่งขวัญใจไทยนิรันดร์ ขอพ่อหลวงปวงไทยไร้ทุกข์ร้อน.........ปวงพสกนิกรขมีขมัน ร่วมจัดงานเทิดไท้องค์ราชันย์.........รวมใจพลันถวายองค์ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
10 มิถุนายน 2549 19:31 น. - comment id 582995
งดงามเกินคำบรรยายใดๆค่ะ พู่ได้มีโอกาสไปดูการซ้อมพิธีเห่เรือมาเมื่อวาน เวลาเรือแต่ละลำผ่านมา นึกถึงกาพย์ของพี่ อัลมิตรา แล้ว เกินบรรยายจริงๆ
11 มิถุนายน 2549 00:58 น. - comment id 583061
ทำไงให้มีเสียงคนเห่ด้วยอะครับ ผมพึ่งเข้ามาเป็นครั้งแรก แล้วหาเสียงคนเห่จากไหนครับ บอกทีครับ พี่อัลมิตรา
11 มิถุนายน 2549 10:12 น. - comment id 583090
ลึกซึ้งและไพเราะกินใจมาก
11 มิถุนายน 2549 10:38 น. - comment id 583092
๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๖ .. มีการจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคเป็นการพิเศษ เพื่อแสดงให้กับผู้นำเขตเศรษฐกิจในการประชุมเขตการค้าเสรีประจำภูมิภาพเอเซียและแปซิฟิกหรือที่เราเรียกกันย่อ ๆ ว่า..\"เอเปก\" ครั้งนั้นอัลมิตราได้เขียนกาพย์เห่เรือฯ โดยที่ไม่มีโอกาสได้เห็นแม้แต่การซักซ้อม ทั้งหมดที่เขียนเป็นกาพย์นั้น เกิดจากการค้นคว้าและดูการถ่ายทอดสดทางทีวี กระบวนเรือในครั้งนั้นใช้เรื่อพระราชพิธีจำนวน ๕๐ ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง ๒ ลำ คือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ และเรือรูปสัตว์อีก ๑๒ ลำ และเรือประเภท เรือตั้ง และเรือแซงอีกจำนวน ๓๖ ลำ ความยาวกระบวนเรือประมาณ ๑,๒๐๐ เมตร ใช้กำลังพล และฝีพลาย จำนวน ๒,๐๘๒ นาย เรือที่ไม่ได้อยู่ในกระบวนในครั้งนั้นคือ เรืออนันตนาคราชซึ่งเป็นเรืออัญเชิญพระไตรปิฏก และ เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ซึ่งเป็นเรือพระที่นั่งรองสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ ทางกองทัพเรือได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เชิญกระบวนเรือพระราชพิธี รวมถึงการเลี้ยงรับรองและทอดพระเนตรกระบวนเรือพระราชพิธีแด่สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีจากประเทศต่าง ๆ ซึ่งเป็นพระราชอาคันตุกะ กำหนดใช้เรือพระราชพิธีทั้งหมด ๕๒ ลำ ใช้กำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือ จำนวน ๒,๒๐๐ นาย เรือพระราชพิธีที่เข้าร่วมในกระบวนพยุหยาตราชลมารค เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือประเภทต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในกระบวนพยุหยาตราชลมารค เรือเอกไชยเหินหาว เรือเอกไชยหลาวทอง เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง เรืออสุรวายุภักษ์ เรืออสุรปักษี เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือครุฑเหินเห็จ เรือครุฑเตร็จไตรจักร เรือเสือทยานชล เรือเสือคำรณสินธุ์ เรืออีเหลือง เรือแตงโม เรือทองขวานฟ้า เรือทองบ้าบิ่น เรือดั้ง จำนวน ๒๒ ลำ เรือตำรวจ จำนวน ๓ ลำ เรือแซง จำนวน ๗ ลำ ในความตั้งใจของอัลมิตรา อยากจะเห็นกระบวนพยุหยาตราชลมารคกับตาตนเองสักครั้ง เพื่อว่าจะได้นำกาพย์เห่เรือชุดที่เคยเขียนไว้เมื่อสามปีก่อนมาปรับปรุงพร้อมกับเพิ่มเติมในส่วนของบทอาเศียรวาทแด่องค์พระเจ้าอยู่หัวฯ และแล้วฝันของอัลมิตราก็เป็นจริง อัลมิตราได้มีโอกาสไปดูการซ้อมกระบวนเรือ ฯ ถึงสองครา ในวันที่ ๒ ,๖ มิถุนายน ๒๕๔๙ ซึ่งครั้งแรก อัลมิตราอยู่บริเวณท่ามหาราชบนระเบียง และครั้งที่สองอัลมิตรามองจากมุมสูงบนสะพานพระราม ๘ สิ่งที่ประจักษ์แก่สายตาในตอนนั้น อัลมิตราเองก็บรรยายไม่ถูกว่ามีความสุขมากมายแค่ไหน รู้แต่ว่าปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก รู้สึกเป็นบุญตาที่ได้เห็น ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการซ้อมก็ตาม กาพย์เห่เรือที่อัลมิตราร่างไว้คร่าว ๆ อัลมิตราอ่านทวนแล้วทวนอีกพร้อมกับมองไปยังแม่น้ำมองแล้วมองอีก เพื่อที่จะเทียบกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้น เรือ ๕๒ ลำที่เรียงลำดับการเคลื่อนกระบวน ถูกต้องตามความเป็นจริง และถึงแม้ว่าในปีนี้อัลมิตราจะไม่ได้ไปดูกระบวนเรือ ฯ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายนนี้ แต่อัลมิตราก็คงไม่พลาดที่จะจับจ้องทางทีวีอีกเช่นเคย โดยมีกระดาษที่พิมพ์งานกาพย์ชุดนี้ถืออยู่ในมือด้วย ความสุขใจที่ได้จากการเขียนในแต่ละครั้ง อาจจะมีมากมีน้อย เหมือนหรือไม่เหมือนก็คงจะแล้วแต่สภาพจิตใจของอัลมิตราในการเขียนในแต่ละครั้งนั้น ๆ แต่เมื่อเทียบกับการเขียนกาพย์เห่เรือในครั้งนี้แล้ว สุดประมาณที่จะบอกได้ว่าปลื้มปิติเป็นล้นพ้น ยิ่งในขณะที่เขียนบทอาเศียรวาท อัลมิตรานึกถึงภาพของพ่อหลวงไทย นึกถึงพระราชกรณียกิจ ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ๏ ด้วยน้ำมหาสมุทร ..............ต่างหมึกสุดร่ายพรรณนา เขียนพื้นแผ่นพสุธา .............ทั้งโลกหล้าเบื้องมหาศาล ๏ ร่ายรจน์ด้วยบทกวี ............ล้ำวาทีทั้งจดจาร บรรยายซึ่งอุปการ .................แห่งภูมินทร์ผู้ทรงธรรม ๏ สิ้นฟ้าแลปฐพี ....................สิ้นหมึกที่มหาสมุทรนำ กล่าวเกริ่นสรรเสริญคำ .........มิอาจจดบทอ้างคุณ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
15 มิถุนายน 2549 11:07 น. - comment id 583790
ใครพอจะรู้บ้างว่า บทเห่เรือที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ หาได้จากที่ไหนบ้างหรอคะ ช่วยบอกหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ chan_appasara@hotmail.com
15 มิถุนายน 2549 12:41 น. - comment id 583805
ดีจังที่ได้เห็น
15 มิถุนายน 2549 22:50 น. - comment id 583905
คุณnui .. บทเห่เรือที่เป็นภาษาอังกฤษ อัลมิตราก็ไม่รู้นะว่า จะหาได้จากที่ไหน มีแต่แบบนี้ลองดูนะคะ http://www.navy.mi.th/sctr/royal_barge_60/eng/royalbrage.php คุณมาดามมด .. ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาเยือน
23 กรกฎาคม 2549 09:08 น. - comment id 592241
อ่านจบหนึ่งรอบ คงต้องอ่านอีกหลายๆรอบ นับว่าเป็นยอดคนสมองเพชรมาเกิดหรือไร ทำไมบรรจงจินต์ได้ตามใจสั่งเช่นนี้ ยินดีกับผลงานครับ แล้วที่เสียงเห่ กลอมในวันถ่ายทอดทางทีวี เสียงคนเห่ เป็นใครกันหรือครับ และบทนี้หรือเปล่า ที่เขาใช้เห่ อยากรู้จริงๆ
23 กรกฎาคม 2549 23:41 น. - comment id 592421
คุณส.เพื่อนใจ .. เสียงที่คุณได้ยินในกระทู้กลอนนี้ เป็นเสียงของ นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย ที่ขับเห่เรือในกระบวนพยุหยาตราชลมารคในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เป็นเสียงเดียวกับที่คุณได้ยินทางทีวี :) ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
28 กรกฎาคม 2549 21:58 น. - comment id 593513
คุณอัลมิตร แต่ง เห่กล่อมหรือได้ลึกล้ำ จังเลย มีหลายคำที่ต้องพิจารณาพิจารณาอีกเพราะเป็นศัพท์ที่ลึกล้ำ กลอนคุณก็แต่งไว้เยอะ ไพเราะเพาะพริ้งนะครับ อ.ทองย้อย ท่านก็แต่งเห่กล่อม ได้สุดยอดนะครับ คุณเป็นลูกศิษย์ท่านหรอครับ แล้วอัลมิตร อยู่ไหนครับ
31 กรกฎาคม 2549 00:09 น. - comment id 593952
คุณส.เพื่อนใจ .. อัลมิตราไม่ได้รู้จักหรือเป็นศิษย์ของนาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย หรอกค่ะ อัลมิตราอยากเขียนกาพย์ชุดนี้เท่าที่จะสามารถทำได้ ซึ่งในพระราชพิธีฯ อัลมิตราได้ชมการถ่ายทอดทางทีวีเท่านั้น แต่การซ้อมกระบวนเรือฯ อัลมิตราได้มีโอกาสชมถึงสองครั้งค่ะ กาพย์เห่เรือที่คุณอ่านในกระทู้นี้ เป็นส่วนที่อัลมิตราเขียนเอง ส่วนในพระราชพิธีฯ เขาใช้กาพย์ที่นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย ประพันธ์ค่ะ อยู่กรุงเทพฯ
5 สิงหาคม 2549 02:28 น. - comment id 595200
ขอบคุณครับที่ตอบ ขอนั่งฟังเห่กล่อมสักแป๊บ ด้วยนะครับ
5 สิงหาคม 2549 19:33 น. - comment id 595288
คุณส.เพื่อนใจ .. :) คุณสามารถชี้แนะหรือแสดงความคิดเห็นเสริมได้นะคะ เพื่อที่ว่าอัลมิตราจะได้นำข้อชี้แนะ ไปปรับปรุงผลงานให้ดีขึ้นค่ะ
7 เมษายน 2550 20:26 น. - comment id 681321
สวยจนน้ำตาจะร่วงเลยคับ
15 กันยายน 2550 16:21 น. - comment id 754398
คนเห่ เห่ได้ไพเราะมากค่ะ
11 กรกฎาคม 2551 17:37 น. - comment id 872051
สวยมากครับ
3 สิงหาคม 2551 10:02 น. - comment id 881984
ดีจัง คัฟ
29 พฤษภาคม 2552 11:19 น. - comment id 991750
สวยงามมากทั้งกาพย์เห่เรือและกระบวนเรือ ได้ไปชมมา 2 ครั้งแล้วค่ะ โชคดีที่ที่ทำงานอยู่ใกล้น่ะค่ะ