เกรียงไกร หัวบุญศาล
เมื่อราตรีคลี่คลุมชวนรุ่มร้อน
แม่สาวน้อยไม่ยอมนอนอยู่ในบ้าน
แว่วเพลงแดนซ์ที่ดังช่างทรมาน
จึงทะยานไปเต้นร่าให้สาใจ
แม่สาวน้อยสมัยนี้ล้วนนอนดึก
เพราะใจคึกคะนองยิ่งหรือนิ่งไหว
ต้องออกร่ายส่ายเอวเย้วเย้วไป
ท่ามแสงไฟและดนตรีที่มีมนต์
ดื่มดื่มดื่มเต้นเต้นเต้นเห็นไหมนั่น
คือสวรรค์ของสาวน้อยคอยเกี่ยวผล
ในเมื่อเกิดขึ้นมาชื่อว่าคน
ต้องตักตวงความสุขล้นก่อนพ้นวัย
แค่สายเดี่ยวเกาะอกยกแข้งขา
อย่ากล่าวหาให้เห็นเป็นเรื่องใหญ่
ถือเสียว่าช่วยทำบุญหนุนกันไป
หนูไม่มาสนใจใครจะมอง
เราต่างมาร่วมสุขสนุกสนาน
ควรเบิกบานเข้าไว้ใช่ขุ่นหมอง
ชีวิตล้วนดำเนินไปในครรลอง
ใยจะต้องคิดมากไปให้