(๑) สายฝนหลั่งพรั่งฟ้าวสันต์กาล ผ่านเนิ่นนานพลันฉ่ำชื้นยามสาย เจิดตะวันพรรณพร่างกระจ่างพราย ไป่มลื้นดุจคล้ายหทัยบาน (๒) มวลวิหกนกน้อยคอยเคียงติด พินิจคิดเพียงเยี่ยงเย้าเรียงขาน ขับสำเนียงเสียงส่งบ่งแลนาน ดุจเพลงกานท์เฝ้าหมั่น เร้าราวโสดม* (๓) รุ้งทอแสงแหล่งหล้า ณ นภาเพริศ ยิ่งบรรเจิดหาเลิศใกล้เฉิดโฉม กัลยาหาสิ่งอิงแม่โพยม พร่างพราวโสมไล้จ่ม*ใว้ชมเชย (๔) ทุกทิวาว่าใว้ไป่หลงจิต แน่วพินิจคงชิดเชื้อคิดเอ่ย เนื่องอนงค์ตรงไฝ่บ่งเปรียบเอย สบถเอ่ย เปรยเอื้อเพื่อ ใกล้เนื้อนวล ฯ