27 เมษายน 2550 17:37 น.
๏ พริกไทยดำ ๏
อีเมล์เมล์ฉบับหนึ่งมีข้อความเขียนบอกไว้ว่า ช่วยฉันด้วย
ศาสตรา ชายหนุ่มผู้เป็นนักท่องเว็บมือฉกาจและเป็นนักแชตตัวยงคนหนึงเขามักใช้ชื่อในการท่องอินเตอร์ว่า นัมเบอร์ไนน์
ศาสตรา ได้รับข้อความนี้เมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันหนึ่งมันถูกส่งมาในกล่องข้อความขยะรวมกับอีเมล์ขยะอื่นๆ ทั้งที่เขาไม่อยากเปิดเมล์ฉบับนี้ขึ้นมาอ่านเพราะคิดว่าเป็นแค่เมล์ขยะแต่ด้วยความอยากรู้หรือมีบางอย่างทำให้เขาต้องเปิดมันขึ้นมา
ข้อความนั้นผู้ส่งใช้ชื่อมาว่านางฟ้าหมายเลขเก้า
ภายในอีเมล์ มีแค่ประโยดเดียวที่เขียนเอาไว้
หลังจากที่ศาสตราได้อ่านอีเมล์ฉบับนั้นแล้วเขาก็ลบมันทิ้งไปทันทีเพราะเขาไม่ได้สนใจกับมัน
ตีสองสิบห้านาทีหลังจากที่เขาลบเมล์ฉบับนั้นไปแล้วประมาณสองชั่วโมง...เขาได้รับอีเมล์อีกหนึ่งฉบับ..มันเป็นชื่อผู้ส่งเดียวกับเมล์ฉบับนั้น เขาพอจะจำชื่อนั้นได้
เขาเปิดมันอ่านอีกครั้ง ข้อความนั้นเขียนว่า ช่วยฉันด้วย มันเป็นประโยคเดิมที่เคยถูกส่งมา
แต่คราวนี้อีเมล์ฉบับนั้นเขาไม่สามารถที่จะลบมันทิ้งไปได้ ขณะที่เขากำลังพยายามจะลบมันออกเขาก็เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
ศาสตราเริ่มรู้สึกว่าคอมพิวเตอร์ของเขามีอาการผิดปกติหน้าจอของเขาเริ่มเลื่อนจากจอทางด้านซ๊ายไปทางขวามันเริ่มไปช้าสิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนคือสีหน้าจอเริ่มเป็นสีแดงขึ้นเรื่อยๆ
เขากำลังพยายามจะปิดเครื่องแต่เหมือนมันไม่สามารถทำอะไรได้เลย...ข้อความนั้นยังคงค้างขึ้นอยู่ที่หน้าจออยู่
เขาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นศาสตรา รีบขว้าโทรศัพท์ เพื่อนจะโทรไปหา วิวัฒน์ เพื่อนของเขา ศาสตราได้เล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับวิวัฒน์ฟัง
วิวัฒน์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ ศาสตราตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเขาทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกันมาตลอด...แต่เมื่อสองปีก่อนแฟนของวิวัฒน์ได้เสียชีวิตลงเพราะเธอถูกข่มขืนแล้วโดนฆ่า
แฟนของวิวัฒน์เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอชอบเล่นอินเตอร์เน็ตและเป็นนักแชตคนหนึ่งทีเดียวเธอมักใช้นามแฟงว่า แองเจิ้ล ......ทั้งที่วิวัฒน์ไม่ชอบเพราะเขากลัวเธอจะนอกใจเขา แต่วิวัฒน์ก็ได้แต่หวังภายในใจว่าเธอคงรักเขาคนเดียวเพราะเขารักเธอมาก ตอนเธอเสียชีวิตทำให้เขาเสียใจอย่างมาก ... และไม่ค่อยพูดคุยกับใครแม้แต่ ศาสตรา เอง
เมื่อทั้งสองได้พูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับศาสตรา
วิวัฒน์ บอกกับ ศาสตรา ว่าเขาจะไปหาที่ห้องของศาสตราเอง
หลังจากที่วิวัฒน์มาถึงห้องของศาสตราประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น...ศาสตราได้ไล่ให้วิวัฒน์..ออกไปจากห้องของเขาด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
รุ่งเช้าที่ห้องของศาสตรา พบศพของศาสตรา ในสภาพที่นั่งคว่ำหน้าอยู่ทีคอมพิวเตอร์มือค้างหนึ่งยังคงวางอยู่ที่ แป้นคียบอร์ด พร้อมด้วยหน้าจอที่เปื้อนไปด้วยเลือด ที่ข้างตัวพบโทรศัพท์ที่ตกอยู่ในสภาพที่ทีคนกำลังจะกดหมายเลขอะไรสักย่างมันค้างไว้แค่เพียงตัวเลขเก้าแต่เหมือนทำได้แค่นั้น ที่หน้าจอยังคงมีอีเมล์ฉบับหนึ่งที่ยังเขียนไม่เสร็จ
............จาการชันสูตรของตำรวจเขาเสียชีวิตมาแล้วสี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้หลังจากที่ตำรวจได้รับข้อความฉบับหนึ่งที่ส่งมาที่สถานีโดยไม่ทราบชื่อว่าใครส่งมามีเพียงชื่อที่ถูกส่งมาเป็นหมายเลข ไอพีแอดเดสหลังข้อฉบับนั้น
............................
หลังจากที่ศาสตราเสียชีวิตไปแล้วสงวันดูเหมืนว่า วิญญาณของศาสตายังคงวนเวียนยู่แถวนั้นและเหมือนจะมีวิญญาณอีกดวงคอยวนเวียนอยู่แถวนั้นด้วย
........และทุกครั้งที่วิญญาณเขาเข้าเล่นอินเตอร์เน็ตเขาก็จะได้รับข้อความที่ตัวเองส่งมาเสมอ.......
ข้อความสุดท้ายที่เขาได้เขียนไว้ "ช่วยฉันด้วย"
24 เมษายน 2550 15:53 น.
๏ พริกไทยดำ ๏
กริ้ง...กริ้ง...กริ้ง.กริ้ง...กริ้ง...กริ้ง
เสียงโทรศัพท์ดังมาจากบ้านหลังหนึ่ง...
ปราการ ชายหนุ่มผู้ซึ่งอยู่บ้านไกล้กับบ้านหลังนั้น ...หนวกหูจังโว๊ยยยย!!!! ความคิด...ขณะที่กำลังอยู่นอนบนที่นอน
ทำไมไม่มีคนรับวะ -!! นี่เป็นครั้งแรกของคืนที่เขาได้เปล่งเสียงออกมาด้วยความรำคาญหลังจากที่รู้สึกตัว
.
..ครั้งนี้นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เสียงโทรศัพท์นั้นดังขึ้นมา ก่อนหน้านี้ประมาณเจ็ดวันที่แล้วที่เสียงโทรศัพท์นั้นดังขึ้นมาทำให้เขาต้องตื่นขึ้น...และก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ต้องตื่นขึ้นมาด้วยความรำคาญ
...........ปราการ เป็นผู้ที่เข้ามาอาศัยในบ้านหลังนี้เมื่อประมาณ หนึ่งอาทิตย์ก่อน หลังจากที่เจ้าของเดิมพึ่งย้ายออกไปได้สองวัน เขาต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยเพราะโดนไล่ออกจากงานเก่าและได้งานใหม่ที่นี่ เขาสมัครเป็นพนักงานขายประกันบริษัทแห่งหนึ่ง
กริ้ง...กริ้ง...กริ้ง เสียงโทรศัพท์ยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง หลังจากนั้นไม่นานอีกสองนาทีก็สิ้นเสียงลง...คล้ายๆกับว่ามีคนรับสายโทรศัพท์นั่นแล้ว หรือไม่ก็เป็นเพราะไม่มีสายเข้ามา
.......ปราการยังคงตื่นอยู่บนที่นอน มันทำให้เขาหลับไม่ลงซะแล้วเวลานี้. เขาหันหน้าไปมองที่นาฬิกามันเป็นเวลา ตีสองสิบเก้านาที นี่เป็นคืนที่เท่าไหร่แล้วละเนี๋ยที่เราตื่นมาเวลานี้ เขาคิดอยู่ภายในใจ
มันอะไรกันหนักหนาวะไอ้บ้านนั้น....คำพูดดังขึ้นมาอีกครั้งจากปากเขา...
ตั้งแต่ปราการมาพักอยู่ที่นี่เขายังมีไม่โอกาสได้พบหรือเจอกับเจ้าของบ้านหลังนั้นเลย....ทั้งที่บ้านก็อยู่ติด..ด้วยความหงุดงิดที่ต้องตื่นนอนและด้วยความที่ไม่รู้จักเจ้าของบ้าน ปราการเริ่มคิดที่จะเข้าไปทำความรู้จักกับเจ้าของบ้านหลังนั้น
.... อือม์...พรุ่งนี้วันอาทิตย์นี่นะ
เขาเริ่มลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปที่ริมหน้าต่างมองตรงไปยังบ้านหลังนั้น..คืนนี้เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงแสงของดวงจันทร์ทำให้เขาสามารถที่จะพอมองเห็นตัวบ้านหลังนั้นในยามค่ำคืน สภาพบ้านที่เขาเห็นเป็นบ้านไทยหลังหนึ่งทีมีสภาพค่อนข้างใหม่เหมือนกับว่าบ้านหลังนี้ถูกดูแลรักษามาเป็นอย่างดี แต่บรรยากาศรอบบ้านหลังนั้นทำให้เขารู้สึกหนาวขึ้นมาในทันที
เขาเริ่มรู้สึกว่าอากาศเย็นขึ้น....มาอาจเป็นเพราะหน้าต่างที่เขาเปิดทิ้งไว้ ...หลังจากนั้นเขาเริ่มดึงบานหน้าต่างที่เขายืนอยู่เพื่อที่จะปิดมัน...ขณะที่สาตตาของเขามองไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้งเขาได้เหลือบมองเข้าไปภายในหน้าต่างบานหนึ่งของบ้าน......ที่ยังคงเปิดอยู่
ภาพที่เขาเห็นมันทำให้เขาต้องชะงักขยับมือขยับไม่คงได้แต่ยืนนิ่งเหมือนคนที่โดนเวทย์มนต์สะกดและทันใดนั้นเอง.......
............... To Be Contenued .................