27 กันยายน 2550 09:54 น.
ไหมไทย
เมื่อกดเหล็กปลายแหลมแต้มสีสัน
บนผิวพรรณเกิดร่องรอยถ้อยความหมาย
ก่อกำเนิดจิตรกรรมบนเรือนกาย
เป็นรอยสักเส้นสายลายสื่อตน
ค่านิยมความเชือสังคมผ่าน
นับเวลาเนิ่นนานสานเหตผล
จดจารึกเรื่องราวอย่างแยบยล
เป็นทางเลือกของคนแต่โบราณ
อักขระศักดิ์สิทธิ์ติดร่างกาย
จุดมุ่งหมายคุ้มครองแผ้วภัยผ่าน
อีกนัยหนึ่งเพื่อตีตราประจาน
โดยทางราชการนักโทษไทย
กาลเวลาเปลี่ยนแปรพัฒนา
แม้มนตราจารึกนิยมใหม่
ไร้ขอบเขตเลือกสรรพึงพอใจ
ก้างล้ำไปในชีวิตต่อสังคม
ศิลปะติดกายหรือตราบาป
ร่องรอยคราบบนร่างติดสะสม
จะกลายเป็นส่วนเกินเคยชืนชม
หลงนิยมงมงายลายสักกัน
25 กันยายน 2550 10:46 น.
ไหมไทย
แค่ยืดอกพกถุง
ด้วยจุดมุ่งหมายตระหนัก
โรคร้ายภัยความรัก
ความคึกคักคึกคะนอง
เชิญชวนปวงร่วมต้าน
เอดส์รุกรานตายทั้งผอง
สัมพันธ์ผิดครรลอง
เพื่อพวกพ้องรู้ป้องกัน
สองเท้าก้าวจากบ้าน
โลกีย์บานน่าหวาดหวั่น
เตรียมพร้อมรู้เท่าทัน
สิ่งสำคัญต้องคิดครวญ
ผู้ใหญ่หรือวัยรุ่น
คิดหมกหมุ่นใจปั่นป่วน
เรื่องรักมากเกินควร
ต้องเชิญชวนพกถุงยาง
ใส่ถุงอย่างรอบรู้
ต้านต่อสู้ช่วยขัดขวาง
ถุกหลักไม่หลงทาง
ช่วยกันสร้างเสริมชีวี
22 กันยายน 2550 15:08 น.
ไหมไทย
ลึกลงไปในเรือนร่างที่ว่างเปล่า
แม้ไร้เงาอาภรณ์เข้าห่อหุ้ม
เป็นร่างกายเปลือยเปล่าทุกซอกมุม
มีเส้นบางขีดคลุมกั้นเจตนา
ความเปลือยเปล่าเปล่าเปลือยของชีวิต
ลองพินิตคิดตรองผองปัญหา
เป็นภาวะว่างเปล่าจิตวิญญา
เป็นที่มาความไม่เที่ยงไร้ตัวตน
เปรียบเสมือนกระจกเงาสะท้อนภาพ
ให้รับทราบสัจธรรมหลักเหตผล
พึงสลัดหัดปล่อยวางสาธุชน
จิตเปี่ยมล้นเมตตาเป็นอาจิณ
ปลดปล่อยพันธนาการจากความทุกข์
แสวงหาสุขทางใจรักษาศิล
ยึดหลักธรรมคำสอนดั่งใจจิณน์
ล้างมลทินสิ้นจากใจให้เปล่าเปลือย
16 กันยายน 2550 12:27 น.
ไหมไทย
จับก้อนเมฆเรียงร้อยถ้อยคำคิดถึง
เกาะติดตรึงแผ่นฟ้าอันกว้างใหญ่
ลอยไปถึงแดนดินถิ่นคนไกล
เพียงบอกให้ไม่ลืมเลือนต่อกัน
จับเอาแสงจันทราสาดฉายส่อง
เปล่งแสงมองด้วยห่วงใยในจอมขวัญ
ฉาบด้วยรักภักดีด้วยแสงจันทร์
ความสุขสันต์นั้นคลุมครอบรอบตัวเธอ
จับเอาแสงอรุณอุ่นยามเช้า
สลายเงามืดมัวสว่างเสมอ
ชีวิตงามสุกสกาวพราวเลิศเลอ
พบเจอะเจอสิ่งดีโดดเด่นชัย
นำกลิ่นหอมบุปผานานาพันธิ์
เป็นของขวัญกำนัลหัวใจให้
มิตรภาพห่างเหินตามทางไกล
แต่สายใยโยงรัดเป็นสำคัญ
2 กันยายน 2550 21:18 น.
ไหมไทย
ขอบคุณที่ทำให้มีรอยยิ้มบนใบหน้า
ขอบคุณที่ทำท่าถามไถ่ความสุขี
ขอบคุณที่แต้มฝันอันโสภี
ขอบคุณทีมีน้ำใจให้วันวาน
เคยหงอยเหงาก็กลับรับสดชื่น
เคยขมขื่นก็กลับรับแสนหวาน
เคยเดียวดายก็กลับชื่นดวงมาน
เคยร้าวรานก็กลับสุขทวี
แม้วันวานผ่านพ้นไม่หวนกลับ
จะเก็บพับรับจำสิ่งสุขศรี
ยังซาบซึ้งถึงกลิ่นไอของไมตรี
แนบฤดีนี้คำนึงทุกยามยล
ฝากลายลักษณ์อักษรบทกลอนสื่อ
ฝากลายมือลิขิตด้วยเหตผล
มิตรภาพตรึงเตือนหัวใจตน
หญิงหนึ่งคนขอบอกว่า"ขอบคุณ"