19 ธันวาคม 2550 09:58 น.
ไหมไทย
นั่งชมดาวพราวระยับจับแผ่นฟ้า
ดวงดาราจรัสชัดแจ่มใส
บ้างร่วงหล่นจากรอบราวฟ้าไป
ดาวดวงใหม่ใสสดออกทดแทน
แสงสีทองผ่องอำไพเป็นแนวเส้น
เบื้องหน้าเห็นขอบฟ้าอยู่ไกลแสน
มืดสว่างกางกั้นคั่นเขตแดน
ขอบพื้นแผ่นดินฟ้าน่ายลยิน
มวลหมู่เมฆราบเรียบทะเลหมอก
คลุมครอบพอกขุนเขาทั่วถ้วนถิ่น
ยะเยือกเย็นทุกหย่อมย่านทั่งธานิน
บนยอดดอยแดนดินภูฟ้าไทย
อาทิตย์เริ่มถักทอล้อขอบหล้า
หมอกเมฆาฟูฟ่องล่องลอยไหว
ลมพัดพรูลู่ยอดหญ้าพาแกว่งไกว
เพลิดเพลินใจได้ยลเยือนยอดภู
คลื่นทะเลหมอก
18 ธันวาคม 2550 11:28 น.
ไหมไทย
ดอยผาตั้งตั้งตะหง่านฝั่งแดนไทย
มองออกไปไกลตาพาแลเห็น
แผ่นดินลาวบ้านใกล้ใจร่มเย็น
ไทยลาวเป็นพี่น้องแต่นานมา
นั่งทบทวนอดีตคนเล่าลือ
แดนเวียงแก่นขึ้นชื่อเกิดปัญหา
คอมมูนิสต์ยึดครองทั่วพารา
รัฐนั้นไม่รอช้าเร่งปราบปราม
ปิดประตูมรณะเพื่อบอกชัด
จะกำจัดคอมมูเพื่อสยาม
เพื่อเสรีมีค่าสง่างาม
อย่าข่มข้ามแดนไทยให้หมองมัว
ร่วมมือกันกำจัดไม่ได้หยุด
ทั้งปิดอุดเขตแดนไปถ้วนทั่ว
คอมมุนิสต์สิ้นท่าพาเกรงกลัว
ดอยผาตั้งเป็นรั้วให้ไทยแลนด์
ดอยผาตั้งทิ้งอดีตที่ขื่นขม
ทำเป็นแหล่งรื่นรมย์ควรหวงแหน
เป็นตำนานเล่าขานนามตัวแทน
ชื่อดินแดนแห่งการพัฒนาคน
ช่องเขาขาด..มองเห็นประเทศลาวชัดเจน
ประตูมรณะ..ประตูที่ใช้เส้นเดินทางเข้าออกของไทยลาว
14 ธันวาคม 2550 09:43 น.
ไหมไทย
แม้เราอยู่ห่างไกลกันเพียงไหน
แต่ฉันได้พุดคุยกับเธอเสมอ
มโนนึกสองเรานัดเจอะเจอ
ไม่เคยเก้อเจอเธอณ.ที่ใจ
แม้เราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
แต่สัมพันธ์ภาพของเรายังสดใส
ซึ่งดำรงคงมั่นมโนใน
ตราบเท่าที่ลมหายใจฉังคงมี
เธอยังเป็นส่วนสำคัญของชีวิต
ที่สถิตย์ณ.กลางใจให้สุขี
ความห่างไกลไม่อาจกั้นฉันท์ไมตรี
ทุกวันนี้มีสุขมากเกินพอ
8 ธันวาคม 2550 20:57 น.
ไหมไทย
เมือจุดเทียนส่องสว่างทางความคิด
เพ่งพินิจจิตทบทวนกับคำถาม
ใช้สติปัญญาอย่าวู่วาม
ทดสอบความทรงจำนำไปตรอง
เป็นนักเรียนใช่ไหมในวันนี้
ทำหน้าที่ผู้เรียนเพียรสอดส่อง
หมั่นฝึกฝนค้นวิชาค่าดั่งทอง
จึงต้องมองเห็นทางก้าวหน้าไป
ยังไม่สายเกินไปใคร่ศึกษา
วันเวลาพาเปลี่ยนเรียนแก้ไข
วิทยาคืออาวุธสุดเกรียงไกร
ผ่านวิกฤติพ้นได้ด้วยวิชา
เป็นคนเก่งวิชาอย่าลุ่มหลง
ความซื่อตรงคุณธรรมนั้นล้ำค่า
คุณความดีนี้เลิศสุดพรรณนา
ธรรมนำพาพบสุขสันต์นิรันดร
4 ธันวาคม 2550 21:14 น.
ไหมไทย
ท่ามกลางมวลแมกไม้เวลาเช้า
ม่านหมอกเคล้าครอบคลุมถึงยามสาย
ลมหนาวโบกโยกกิ่งไหวถึงยอดปลาย
มองคลับคล้ายร่ายรำน่ารื่นรมย์
นั่งฟังเสียงสายน้ำดังซู่ซ่า
ไหลพัดพากระทบหินกระแทกถม
ปลาตัวน้อยลอยเวียนว่ายให้ชื่นชม
เร้าอารมณ์รื่นเริงร่าพาสุขใจ
ฟ้าสีฟ้าเจิดจ้าเวลาบ่าย
ลมหนาวคลายกลับอุ่นขึ้นมาใหม่
นกตัวน้อยบินวนแดนดงไพร
แสนซึ้งในสายตาน่ายินดี
แสงสีเทาทึบทึบครอบคลุมทั่ว
ความมืดมัวคลี่ม่านดำทุกที่
ความเงียบเหงาเข้าเยือนยามราตรี
แสงหิ่งห้อยลิบหรี่บินไปมา
นอนชมดาวพราวแพรวจากฟ้าโน้น
อยากตะโกนกู่ก้องห้วงเวหา
ฝากคิดถึงถึงคนอยู่ไกลตา
ทุกเวลาอยากแนบชิดจิตผูกพัน