22 สิงหาคม 2551 21:10 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
ไพรเพลงพิณรินไหลสายน้ำแก้ว
กังวานแว่วแผ่วพลิ้วทิวไม้ไหว
เมโลดี้คีตการธารพฤกษ์ไพร
มวลแมกไม้ไสวช่อล้อลมครวญ
เสียงสายลมพรมสายน้ำร่ำลาเมฆ
สวรรค์เสกวิเวกขับสดับหวล
เพลงสายธารผ่านภูผาฟ้ารัญจวน
เหมือนเสียงสรวลชวนเชิญดำเนินไพร
เหล่าวิหคนกร้องก้องป่ากว้าง
ทั้งลิงค่างบ่างชะนีกวางหมีไก่
ร่วมบรรเลงเพลงธรรมชาติวาดฝันไกล
ทุ้มละไมไพเราะเสนาะทรวง
เพลงใบไม้สายธารลานเขาโขด
เหมือนตัวโน้ตโลดเล่นเส้นสายสรวง
ดุจคนธรรพ์บรรเลงเพลงดาวดวง
เลยลับล่วงหวงแหนแดนพนา
ย้อนอดีตสายน้ำย้ำรำลึก
ในไพรพฤกษ์สายธารผ่านภูผา
เหลือเพียงคำเล่าขานตำนานมา
นับวันป่าร่อยหรอรอพลิกฟื้น
ฤาหมดแล้วสายน้ำแก้วแพรวพิลาส
วิประวาสป่าจ่อมจมข่มใจขืน
ทุกคราวเยือนเตือนย้ำสุดกล้ำกลืน
ใยหน้าชื่นอกตรมชมป่าไทย
...........................................
ความเงียบสงัดในป่าดงพงไพรเมื่อ 20-30 ปีก่อน(ผู้เขียนเคยเรียน
มช. ปี 2522-2525 )
ได้ไปสัมผัสเมื่อครั้งเดินขึ้นดอย
จึงได้ยลยินเสียงดนตรีธรรมชาติจากป่าเขา
ได้ยินเสียงสายลมพรมสายน้ำ
ไหลรินคล้ายเสียงพิณบรรเลง
กังวานแว่วแผ่วพลิ้วกระทบทิวแมกไม้
ไหวระริก ดั่งเพลงใบไม้ทักทายสายลม
ประโลมลูบไล้สายธารที่กำลังร่ำลาก้อนเมฆ
เสียงสายน้ำไหลผ่านลานหิน โขดเขา
ผสมผสานกับเสียงสิงสาลาสัตว์ นกร้อง
กู่ก้องป่า จึงคล้ายกับบทเพลงแห่งธรรมชาติ
เหมือนมีคนธรรพ์มาบรรเลงตามเส้นเสียงตัวโน้ต
เพื่อขับกล่อมป่าเขาให้มีชีวิตชีวา
แต่มาบัดนี้ ผู้เขียนได้อ่านพบใน
เว็บ www.lannacorner.net/
น้ำตกห้วยแก้ว กลายเป็น อดีตสายน้ำแห่งความทรงจำ
เนื่องจากน้ำตกที่มีอยู่ แห้งสนิทไม่มีน้ำแม้แต่น้อย
พอช่วงฤดูฝนก็มีเฉพาะน้ำที่ไหลเอื่อยๆเท่านั้น
ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
จึงได้ทำน้ำตกเทียม และปรับปรุงภูมิทัศน์ด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่ม
22 สิงหาคม 2551 11:31 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
ไฟรัก ฤ ไฟรบ
มิสงบ อสงไขย
สืบสานสมานใจ
ปะทะไว้ไสวธรรม
ด้ามขวานมิราญรอบ
ระบิขอบมิตอบย่ำ
รอมชอมฤทัยช้ำ
ฐิติแจ้งแถลงไข
เข้าใจและเข้าถึง
ก็คะนึง ธ ห่วงใย
ร่วมพัฒนาไทย
นิรนัย วิกฤตผล
เข้าถึงและเข้าที่
สุรสีห์ สิ พึงยล
ปรองดอง ฤทัยดล
ท ม ข่มถล่มภัย
17 สิงหาคม 2551 10:24 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
พระห่วงใยใส่พระทัยในป่าไม้
ดำริไซร้ใช้หญ้าแฝกแทรกพฤกษา
แฝกใบสดลดป่าแห้งแล้งพนา
ชุ่มชีวาเขียวชอุ่มคลุมพื้นดิน
กรองตะกอนก้อนดินสู่แอ่งน้ำ
ยามฝนฉ่ำไม่ร่วงหล่นลงอ่างหิน
แม้นน้ำเซาะไหลเลาะระรวยริน
ผืนแผ่นดินมิถล่มทลายมา
รากชอนไชไร้กัดเซาะเพราะช่วยยึด
ด้วยแรงฮึดคงมั่นปานภูผา
ชลอไหลสายน้ำลำธารา
ฝายขวางหน้ากั้นดินไว้ไม่ไหลลง
แม้นชื่อแฝกผิดแผกแปลกจากหญ้า
แต่คุณค่ามากมายหลายประสงค์
ทั้งปกป่ากั้นน้ำไหลใฝ่จำนง
รณรงค์คงคู่ป่าแฝกหญ้าเอย
..........................
สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
..........................
10 สิงหาคม 2551 13:41 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
เห็นกันอยู่หลัดหลัดมาพลัดพราก
ด่วนมาจากไปไกลอาลัยแสน
ในหน้าที่ภาคใต้แถบชายแดน
เพื่อแว่นแคว้นแหนหวงปวงชาวไทย
ทั้งทัพบกทัพฟ้าชีวาวาตม์
วายชนม์เพื่อชาติทหารกล้าน่าเลื่อมใส
ทดแทนคุณแผ่นดินจวบสิ้นใจ
เหลือทิ้งไว้สุดอาลัยร้องไห้กัน
จงไปสู่สุคติในสัมปรายภพ
หอมอวลอบพบห้วงสรวงสวรรค์
สู่สถานทิพย์พิสุทธิ์ดุจเทวัญ
สรวงไกวัลชั้นเมืองแมนแดนวิมาน
.....................................................
เนื่องจากครั้งหนึ่งผู้เขียนกลอนนี้
เคยเป็นนายทหารจัดการศึกษา
ทำหน้าที่จัดการฝึกอบรม
ที่โรงเรียนรวมสายวิทยาการ
กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ
ผู้เขียนได้รู้จัก(แม้ว่าไม่ได้สนิทสนม)
กับผู้ที่เสียชีวิตใน ฮ. ตก แต่เกือบทั้งหมด
ทุกคนที่เสียชีวิต(ทอ.) ด้วยเคยตรวจทาน
รายชื่อผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆ
จึงได้เขียนกลอนไว้อาลัย.......
...............................................
8 สิงหาคม 2551 13:44 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
ร่วมเก้าเดือนแม่อุ้มท้องประคองขวัญ
กล่อมชีวันในครรภ์พลันหวั่นไหว
เฝ้าสวดมนต์อ้อนวอนพรคุ้มภัย
ขอดวงใจแม่รอดคลอดเป็นคน
ยามลูกน้อยร้องกวนชวนเห่กล่อม
แม่ถนอมแก้วใจไว้ท่วมท้น
อุ้มลูกรักแนบกายใจอดทน
เหมือนมีมนต์ดลสะกดรักหมดใจ
ครั้นเจ็บป่วยช่วยบรรเทาเฝ้าเช้าค่ำ
อุปถัมภ์พยาบาลทุกกาลสมัย
เฝ้าดูแลโบกพัดปัดริ้นไร
คอยห่วงใยอาทรมิคลอนแคลน
ยามเติบใหญ่มีเหย้าเรือนเพื่อนชีวิต
ขัดข้องจิตปรึกษาได้ไม่หวงแหน
ยากจักหานางใดในดินแดน
มาทดแทนรักแท้เท่าแม่รัก
ลูกจักขอบูชาพระคุณแม่
ด้วยดูแลใส่ใจให้ประจักษ์
พระคุณแม่ยิ่งใหญ่กว่าใครนัก
กราบแทบตักรักแม่แน่นิรันดร์