14 มิถุนายน 2549 19:20 น.
ไม่ใช่ความเป็นจริง
มนุษย์แต่ละคนมีเวลาในการใช้ชีวิตเพียงไม่นานก็ต้องลาโลกนี้ไปทั้งที่มีความสุขและทุกข์ เมื่อเราหันย้อนกลับมามองตัวเองก็จะพบว่าตัวเราเองนั้นได้ใช้เวลาไปจำนวนหนึ่งแล้วทั้งๆ ที่บางคนยังไม่ได้ทำความดีที่น่าภาคภูมิใจเลยสักนิด การดำเนินชีวิตในแต่ละวันก็เป็นไปด้วยความประมาทหารู้ไม่ว่าสักวันชีวิตของเราจะจบลงเมื่อใดก็ไม่มีใครที่จะสามารถล่วงรู้ได้ เราเพียงคิดแต่ว่า "วันพรุ่งนี้ค่อยทำดี" หากเราคิดเพียงเท่านี้เราก็คงไม่มีโอกาสในการทำดี ทำสิ่งที่ตัวเราเองต้องการ ฉะนั้น หันมาทำดีกันเถอะ อย่าใช้ชีวิตอย่างประมาทอีกเลย เพื่อตัวเองและคนที่เรารัก อย่าให้มันสายเกินไปแล้วจะมานั่งเสียใจภายหลัง "เป็นกำลังใจให้ทุกคนทำดี"
4 ธันวาคม 2548 13:37 น.
ไม่ใช่ความเป็นจริง
การเริ่มต้นของความรักนั้นมันช่างหวานชื่น แต่พอนานไปมันก็เหี่ยวเฉา เหมือนเป็นสัจจธรรมของชีวิตอีกข้อหนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม
คนเราจึงยอมที่จะเจ็บในขณะที่มีรัก..คิดดูแล้วมันเหมือนเรื่องน้ำเน่า หากใครไม่ได้เจอคงไม่รู้หรอกว่า มันรู้สึกเจ็บแสบเช่นไร..การที่เรารักใครสักคนแล้วดูเหมือนเค้าไม่มีความรู้สึกใดๆ กับเรามันลำบากยิ่งกว่า หากคนรักแล้วต้องเจ็บ เพื่อนๆ ยอมมั๊ย???.. เจ็บทั้งๆ ที่ยังรัก โดยที่เราพยายามถอนตัว ถอนใจขึ้นมาจากจุด ๆนั้น แต่มันก็ทำได้ยากลำบากมากทีเดียว บางครั้งมันทำให้เรานึกถึงการวิ่งไล่ ไขว่คว้าสิ่งที่เรามองไม่เห็นไม่รู้ว่าวันใดที่เราจะจับต้องสิ่งนั้นได้สักที..มันแสนทรมานกับเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ เคยพยายามหลีกไกลจากคนๆ นั้น แต่มันก็ทำได้ไม่นาน มีสิ่งมาคอยทดแทนแต่มันก็ทดแทนกันไม่ได้...ความรักของฉันเหมือนคำที่เค้าพูดกันว่า"รักแล้วตาบอด ก็อย่ารักเลยดีกว่า"..
ขอบคุณเพื่อนๆ มากที่กรุณาอ่านบทความนี้...
28 กรกฎาคม 2548 13:22 น.
ไม่ใช่ความเป็นจริง
สำหรับชั้นการเชื่อใน "ปฎิหาร์" เพราะเป็นสิ่งที่เกิดกับชั้นแล้ว ตอนแรกชั้นคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป แต่มันไม่ใช่... จริงอยู่ สิ่งที่เราหวังมันเป็นปฎิหาร์จริงชั้นรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก แต่มันก็ไม่นานเหมือนกับเรากำลังยืนอยู่บนกองทรายมีความสุขกับมันอย่างสนุกสนานแต่พอไม่นานเมื่อมีคลื่นมาซัดมันเข้ามันก็เริ่มที่จะพังทลายลงมาเรื่อยๆ ซึ่งมันไม่ต่างอะไรไปจากชั้นเลย มีความสุขเพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวมันก็พังทลายลงมา ชั้นคิดว่าตัวเองกำลังเป็นคนที่โง่งมงายไปกับเรื่องที่มันทำให้เราเจ็บอยู่เรื่อยๆ แบบไม่รู้จักจำ ยึดมั่นอยู่กับสิ่งที่เค้าคนนั้นไม่เคยรับรู้เลยว่าชั้นกำลังรู้สึกแบบใด "มั่นคง ศรัทธา ของความรัก.. มันผิดมั๊ย???????" หากปฎิหาร์ไม่เกิดขึ้นมามันก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน ถ้าเกิดแล้วต้องมานั่งเจ็บแบบนี้ก็อย่ามีปฎิหาร์เลยดีกว่า
3 มีนาคม 2548 13:49 น.
ไม่ใช่ความเป็นจริง
นานมาแล้ว ได้ยินมาว่ามีหินวิเศษอยู่ชนิดหนึ่ง ถ้าผู้ใดที่ได้ครอบครอง จะสามารถนำไปแตะกับสิ่งของอะไรก็ได้ สิ่งนั้นจะกลายเป็นทองคำ ทำให้ชายผู้หนึ่งเกิดความสนใจ อยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้เป็นคนร่ำรวยขึ้นมา จึงตามหาหินก้อนนั้นเป็นการใหญ่
เมื่อตามหาจนถึงชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยก้อนหิน เขาตัดสินใจเก็บหินขึ้นมาดูทีละก้อน ถ้าก้อนไหนไม่ใช่ก็จะขว้างมันลงทะเลไป เขาใช้ความพยายามอยู่นาน จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ก้อนแล้วก้อนเล่าก็ยังไม่ใช่สิ่งที่เขาค้นหาอยู่ดี
และในที่สุดความพยายามของเขาก็ประสบความสำเร็จจนได้ เขาได้พบกับหินวิเศษจริงๆ แต่ไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไร เขาก็ขว้างมันลงทะเลไปเหมือนหินก้อนที่ผ่านๆ มา เขาตกใจมาก ถึงกับรำพันออกมาว่า "ต้องเริ่มต้นใหม่อีกแล้วหรือเนี่ย" ในชายหาดนั้น จะมีหินวิเศษชนิดนี้สักกี่ก้อนกันเชียว เหตุผลที่ทำให้ชายคนนี้ละทิ้งสิ่งที่เขาค้นหามานานก็คือ "ความเคยชิน" นั่นเอง
บ่อยครั้งที่เราพยายามค้นหาสิ่งที่ต้องการมาตลอดชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งที่เรามี "โอกาส" พบมันแล้ว แต่ด้วย "ความเคยชิน" ในชีวิตประจำวัน เราก็มองข้าม "โอกาส" นั้นไป "โอกาส" ที่อาจจะไม่ปรากฏบ่อยนัก เราจึงต้องเริ่มต้นใหม่อยู่ร่ำไป
อย่าคิดแต่จะเริ่มต้นใหม่ เพราะสิ่งที่มีอยู่คือโอกาส สิ่งใหม่คือความหวัง ทิ้งเก่าไปหาใหม่ ก็เท่ากับ ทิ้งโอกาสที่มีอยู่ แล้วไปรอความหวังที่ยังมาไม่ถึง
24 กุมภาพันธ์ 2548 17:21 น.
ไม่ใช่ความเป็นจริง
ใครบางคน...ที่มีค่าพอให้รอคอย
ก า ร ร อ ค อ ย...เป็นเรื่องที่ทรมาน
โดยเฉพาะการรอคอยที่จะกลับมาพบกัน
หรือรอคอยใครสักคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
เพราะในเวลาแห่งการรอคอยนั้น
มันมีมากกว่า 24 ชั่วโมง
และเข็มนาฬิกาก็เดินช้าขึ้นอีกเป็นเท่าตัว...
จากเวลาที่นานอยู่แล้วจึงนานยิ่งกว่า
และการดำเนินชีวิตระหว่างการรอนั้น
ก็มีตัวแปรมากมายที่จะทำให้คนเปลี่ยนไปอยู่ทุกขณะ
เพราะทุกคนมีพื้นฐานความเหงา
และโดดเดี่ยวอยู่ในตัวเองพอๆกับความอ่อนไหว
เป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ระยะทางเป็นเครื่องวัดความรู้สึก
พิสูจน์ความแข็งแรงของความรัก
วัดการกระทำ...ความเสมอต้นเสมอปลาย
และความอดทน
ด้วยเงื่อนไขของความลำบากแห่งกาลเวลา
และตัดสินว่า...การรอคอยจะคุ้มค่าหรือไม่
ก า ร อ ยู่ ห่ า ง กั น...
จึงจำเป็นต้องพิสูจน์กันด้วยความเข้มแข็ง
ต่างคนต่างก็ต้องทำหัวใจให้เข้มแข็งกับอารมณ์ต่างๆ
ที่คอยรบกวน...และคอยชักจูงออกนอกลู่นอกทาง
เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย...ที่วันนึงเราพบว่า
คนคนหนึ่ง...คือคนที่ชีวิตเราตามหามาตลอด
และใครสักคนที่เป็นได้อย่างที่เราฝัน
มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
และคนที่จะฝ่าฟันกับการบีบคั้นแห่งการรอคอย
กลับมาหาเราได้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา...
เ พ ร า ะ ฉ ะ นั้ น...
ย่อมหมายถึง...ความรู้สึกที่เค้ามีอยู่ก็คงไม่ได้ธรรมดา
และคนคนนั้นก็ย่อมเต็มค่า
เวลาที่ชาวประมงจะเลี้ยงหอยมุก
จะต้องใช้เวลาเนิ่นนาน
และสามารถรอคอยได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เพราะเขารู้ว่า เมื่อไหร่ถึงเวลา
ที่มุกสามารถนำมาร้อยเป็นสร้อยได้
ย่อมเกิดค่ามหาศาล
...ชีวิตจึงจำเป็นต้องรอคอยใครสักคนให้ได้
หากรู้ว่าเป็นใครสักคน
...ที่มีค่าแก่การรอคอย...