30 มิถุนายน 2549 17:56 น.
ไพร ป่าดง
ชีวิต ถือกำเนิดมาด้วยพันธนาการรัก
ผ่านสายสะดือที่เลี้ยงชีวิต
ห่อหุ้มไว้ด้วยน้ำคร่ำที่อบอุ่น
กันกระแทกด้วยท้องแม่
ที่แทนลูกได้ด้วยชีวิต
ชีวิต ผ่านพ้นจนได้หายใจเอง
เมื่อเรียกหาอิสระ จากการกดกั้น
แต่หากยังซุกไซร้ในอ้อมกอดแทน
ยังร้องเรียกหา ยามโดดเดี่ยว ร้อน หิว หรือ แฉะ
อิสระที่ไหนจริงแท้ ไม่มีแน่ให้แลเห็น
ชีวิต เมื่อเติบโต มองความห่วงหาอาทร
เป็นการปิดกั้น ปิดโอกาส
อึดอัด ใจแคบ โบราณ...บ้าง
แล้วแต่จะสรรหามาต่อว่า
ไม่เห็นน้ำใจ ในความห่วงใย ของแม่-พ่อ
ชีวิต
กับความเป็นอิสระของชีวิต
ชีวิตที่อิสระในความประมาท
แต่กลับยอมศิโรราบต่อกรอบสังคม
โดยดุษฎี ไม่มีเพ่งพิจ
29 มิถุนายน 2549 21:57 น.
ไพร ป่าดง
บึงบัว ใบบาน สระใหญ่
บึงใจ ใบรัก สะพรั่ง
บึงน้อง ใส-ใส ชุ่มฉ่ำ
บึงน้ำ คำรัก รัญจวน โหยหวน...จิต
สระน้อย คอยรัก จากพี่
คนดี ไม่หนี หายห่าง
คนรัก จักรอ มิวายวาง
มิร้าง ลาห่าง ไปไกล ใจ...ยังอยู่
หากจาก จริงแน่ แท้แล้ว
แม่ดอก แก้วหอม พยอมรัก
จักแด ดิ้นสิ้น ลมใจ
อยู่ไป ก็คง อยู่"ตาย"...มลายตน
รักแรก รักที่ พักมา
รักแท้ แน่หนา ว่าหมาย
รักเธอ ละเมอหา มิวาย
รัก"ตาย" ที่ว่า แน่...แท้ กว่า รัก "กิน"
23 มิถุนายน 2549 21:50 น.
ไพร ป่าดง
เช้าวันหนึ่ง วันที่ตั้งสติกับสังคมไม่ถูก
ว่าทำไมถึงได้โหดร้ายอย่างนี้
เย็นวันนั้น ตัดสินใจโทรไปบอกคนรัก
ว่า...สังคมนี้ไม่ยุติธรรม ทำร้ายผมอีกแล้ว
บ่ายวันนั้นคนรักผมพยายามให้ผมเล่าให้ฟัง
ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมบ่ายเบี่ยงที่จะบอกว่ายังไง
ผ่านไปอีกคืนนึง คนรักผมรอคำอธิบาย
เพื่อแบ่งเบาความทุกข์ แต่ไร้ผลจากคนใจหิน
คืนนั้นผมสุดทนกับความทุกข์ที่เกิดขึ้น
ตัดสินใจเล่าให้คนรักฟัง ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากเล่า
ไม่อยากเอาความทุกข์ไปฝากใครให้ทุกข์ด้วย
ผมสบายใจเป็นที่สุดที่ได้เล่าออกไป
คนรักผมอยู่ด้วย...อยู่ด้วยทั้งคืน
อยู่เพื่อบอกว่ายังไงก็ยังรัก ไม่ซักไซร้ไล่เรียง
เพียงแต่บอกว่า "คุณมีค่าเสมอ สำหรับฉัน"
"คุณมีค่าเสมอ สำหรับคนดี" เท่านี้ทุกข์ก็สลาย
ขอบคุณที่รักที่อยู่ดูแลเมื่อยามป่วย
ผมรักคุณมาก มากเสียจนไม่อยากเจอวันพรุ่งนี้
ผมอยากรักคุณเช่นตอนนี้ จะรักอย่างนี้ตลอดไป
รู้ไหมคนดี...รักเช่นนี้ สุขใจเพียงใด...สุขใจจริง ๆ
16 มิถุนายน 2549 19:14 น.
ไพร ป่าดง
น้ำคำหญิง คำ ๆ หนึ่งที่บอกแค่ว่า "คิดถึง"
คำเดียวกันจากคนหลากหลาย แตกต่างกัน
ทำไมถึงได้ต่าง...กัน ยิ่งนัก
จากความรู้สึกและการรับรู้ในจิตใจเรา
"คิดถึง" ของคนที่เรารอเพื่อสานรัก
กับ..."คิดถึง" ของคนที่เรารู้ว่าเป็นได้แค่เพื่อนรัก
และกับ "คิดถึง" ของคนที่เรารู้ว่าจะมาเพื่อครอบครอง
"คิดถึง" น้ำคำนี้ เด่นชัดนักในความต่างที่ห่างชั้นกันยิ่ง
"คิดถึง" ของใครคนนั้นที่ว่าคือ...นางฟ้าในพนาดิบ
ดู...วับวาบ หวามไหว หวิว หวิว หวั่นครั่นคล้าม
หากได้เห็น คงต้องสลาย ล้มลงตายแทบเท้านาง
เพราะเพียงแต่เสียงว่า..."คิดถึง"
7 มิถุนายน 2549 22:23 น.
ไพร ป่าดง
อ่อนล้า เหลือคณา ใด ๆ
อ่อนใจเหลือ กว่าจิตจะ ทัดไท้ได้
อ่อนแอ ที่แท้หา ใช่อ่อนใจ
อ่อนไหว ๆ ที่แท้ใช่คือ อ่อนโยน
ทานไหว ใจต้องทัด ทานได้
ละม้าย คล้ายจะขาด รอนรอน
เข้มแข็งอีก นิดจะสถิตย์ ชั่วนาน
กายต้องคาน จิตห้อยใจ ไปด้วยกัน
นิจจัง นิจจา ท่าทีรัก
สลักจิต เพิ่งพินิจ จิตหวั่นไหว
เฝ้าพนอ งอนง้อ รอนรอไป
แม้จากไกล ไปไม่นาน จะขานกลับ
มารับรอ ณ หน่อดิน...ถิ่นป่าดง แดนพงไพร