22 พฤษภาคม 2550 07:51 น.
ไผ่ดำ
ที่เมืองกาญจน์ บ้านฉัน นั้นไม่ด้อย
มีเงินน้อย ก็ไป เที่ยวกันได้
มีน้ำตก แม่น้ำแคว และรถไฟ
ใครได้ไป ต้องติดตรึง ทึ่งทุกคน
ไปนอนแพ เย็นฉ่ำ ทำอาหาร
รับประทาน แล้วเล่นน้ำ ไหลหลากล้น
ทั้งล่องแก่ง ปีนผา ก็น่ายล
เชิญทุกคน ไปเที่ยว ที่เมืองกาญจน์..
อยู่ไม่ไกล กรุงเทพ เท่าไรนัก
ขับรถสัก สองสาม ชั่งโมงนั่น
มีของดี มากมาย ให้ชมกัน
ภิพิธภัณฑ์ ทหารยุ่น อยู่ไม่ไกล
มีข้าวของ สมัย สงครามโลก
แสนเศร้าโศก ทหาร เชลยไพร่
ต้องสูญเสีย ชีวี เพราะโรคภัย
หลายคนตาย เมื่อตอน สร้างสะพาน
ดูชีวิต ของเชลย จากภาพเก่า
ชีวิตเขา หาค่า ไม่ได้นั่น
ถูกใช้แรง จนตาย วายชีวัน
สร้างสะพาน จนจบ ลบชื่อไป
มาวันนี้ ยังพอมี รอยอดีต
ช่วงชีวิต คนแก่เก่า เขาเล่าไว้
เป็นตำนาน บันทึก ปึกใหญ่ใหญ่
ใครสนใจ ผ่านมา ค้นคว้ากัน
ยังมีที่ น่าเที่ยว อีกหลายแห่ง
เอาไว้แจ้ง ให้ทราบ ตอนหน้านั่น
ต้องจบก่อน ตอนนี้ ก็แล้วกัน
ฝากทุกท่าน ผ่านไปมา..อ้าแขนรอ..
22 พฤษภาคม 2550 05:27 น.
ไผ่ดำ
เช้าวันใหม่ ทำใจเรา ให้สะอาด
อภิวาท น้อมจิตใจ ใฝ่กุศล
เตรียมอาหาร หวานคาว เจ้าน่ามล
เราทุกคน พร้อมใจ ใส่บาตรกัน
ทิวแถวเหลือง เยื้องย่าง อย่างช้าช้า
เดินก้มหน้า ผ่านมา หน้าบ้านฉัน
ทั้งคนแก่ คนเฒ่า ชราการ
เด็กใกล้บ้าน ของฉัน นั้นก็มา
เราพร้อมใจ ถวาย พัชตราหาร
มีของหวาน ของคาว ที่จัดหา
ถวายแด่ ตัวแทนองค์..ศาสดา
ผู้เลอค่า บนสวรรค์ ขั้นนิพพาน
ขออุทิศ บุญกุศล อันยิ่งใหญ่
ที่ทำไว้ ให้แก่ ท่านผู้อ่าน
กลอนบทนี้ จงได้รับ โดยทั่วกัน
อย่าพบพาน สิ่งร้าย ให้ร่มเย็น
ให้ปลอดโรค ปลอดภัย หายสนิท
ใครที่มี ชีวิต แสนยากเข็น
ให้ร่ำรวย สุขใจ ทั้งเช้าเย็น
ความทุกข์เข็ญ ใดใด อย่าให้มี
ใครที่พลาด ผิดหวัง จากความรัก
ให้แน่นหนัก ทำบุญไว้ อย่าหน่ายหนี
ไม่นานนัก จักได้ คู่ชีวี
ต่อแต่นี้ ที่หวังไว้ ให้สมพร............สาธุ.
20 พฤษภาคม 2550 16:54 น.
ไผ่ดำ
ศาลาน้อย หลังนี้ เป็นที่พัก
ของคนยาก ผ่านมา ได้อาศัย
พอหายเหนื่อย เมื่อยล้า ก็ลาไป
ช่างเหมือนใจ ของฉัน ที่ถูกลืม
ศาลาเศร้า เจ้าของใจ หมองหม่น
ดั่งเมฆฝน พัดมา ฟ้ามืดครึ้ม
อยากตัดใจ ตัดรัก หักใจลืม
แต่ก็ลืม แสนยาก หนักหัวใจ
ฉันนี้เป็น เจ้าของ ศาลาเศร้า
ทนเงียบเหงา เนิ่นนาน เกินขานไข
เขาใยแกล้ง รักฉัน แล้วจากไป
สิ้นเยื่อใย ไม่หวนมา ลาสักคำ.
20 พฤษภาคม 2550 14:13 น.
ไผ่ดำ
..ชีวิตฉัน วันนี้ เหมือนติดกรอบ
ที่มาครอบ มีกฏ บังคับไว้
ฉันอยากมี ความสุข ให้สมใจ
แต่ก็ทำ ไม่ได้ เกรงสายตา
คนรอบข้าง จะมอง ฉันเสียหาย
หน้าที่ใหญ่ ต้องเป็น ผู้นำหน้า
ฉันอยากหนี ไม่แคร์ เลยสายตา
เพราะชีวา ของฉัน นั้นเหงาจัง
อยากจะคบ หาใคร ยังต้องเลือก
ทั้งที่เปลือก ใจเปิด เพื่อความหวัง
มองหาใคร อิงภักดิ์ รักจริงจัง
แต่ก็ยั้ง ใจคิด ติดกฏเกณฑ์
ฉันอยากหนี กรอบชีวิต ที่ครอบไว้
สักวันหนึ่ง คงได้ ออกไปเล่น
อยู่นอกกรอบ หนีกฏ หมดลำเค็ญ
อยากหลีกเร้น หลบหน้า มาให้ไกล
อยู่เงียบเงียบ กับใจ ที่ปล่อยว่าง
อยู่ข้างข้าง คนรักเรา ไม่ไปไหน
แม้วันนี้ ต้องทิ้ง ทุกสิ่งไป
สร้างรักใหม่ อยู่นอกกรอบ ที่ครอบตน.
19 พฤษภาคม 2550 14:52 น.
ไผ่ดำ
ถึงเรือนแพ นี้เป็น เพียงไม้ไผ่
แต่ก็ไม่ สะท้าน หวั่นคลื่นไหว
มีเพียงฉัน คนเศร้า แสนร้าวใจ
เริ่มหวิวไหว เมื่อรักร้าง ห่างทุกที
ฉันไม่เข้ม..แข็งเหมือน เรือนไม้ไผ่
เผชิญไป ฝ่าแดดฝน ทนทุกที่
ช่างแตกต่าง กับฉัน หวั่นฤดี
ต่อแต่นี้ เป็นเช่นไร ยังไม่รู้
ได้แต่รอ ความหวัง ทั้งริบหรี่
หมดแรงที่ ฉุดรั้ง ให้ฮึดสู้
เธอสิ้นรัก เยื่อใย ไม่เอ็นดู
แล้วจะอยู่ ต่อไป ทำไมกัน
รักของเรา เหมือนแพ ที่ต้องแตก
ต่างย้ายแยก ต่างไป ไม่เหหัน
เธอใจร้าย เกินกว่า คืนหากัน
เมื่อถึงวัน ต้องไป ไม่หวลคืน.