22 กุมภาพันธ์ 2548 21:02 น.

เหงา...

ใยไหม



เหนื่อยเหลือใจฉันทำไมเป็นอย่างนี้
เหงาแสนเหงาเหลือเกินที่จะสดใส
คงไม่มีใครมาหาค่าหัวใจ
ถึงเหงาไปก็คงได้แต่เดียวดาย

สุดระกำช้ำหนอต่อใจฉัน
ถึงจะเหงาเฝ้ารำพันก็ไม่หาย
คงต้องอยู่ตัวคนเดียวปล่าวเปลี่ยวดาย
ใจคล้ายคล้ายโดนรบเร้าด้วยเหงาเยือน
.......				
20 กุมภาพันธ์ 2548 16:27 น.

๏ ๏ ๏ แห่ผ้าขึ้นธาตุ ๏ ๏ ๏

ใยไหม

๏ แห่ผ้าขึ้นพระธาตุ..........เมืองนครฯ
ศิลป-วัฒนธรรมสอน.........สั่งไว้
สั่งลูกสั่งหลานจร................จดว่า
จักกลับมาแห่ไซร้..............ทราบถ้วนทั่วกัน ๚

๏ วัฒนธรรมมากล้วน......ชื่นชม
เป็นที่ชนนิยม...................ยิ่งล้ำ
คุณค่ายิ่งสั่งสม..................มาแต่  บุราณเฮย
หากเปรียบได้ดั่งค้ำ...........ค่าไว้คู่เมือง ๚

๏ บรรพบรุษมอบให้...........สิ่งงาม
เพื่อฝากลูกหลานตาม.........ติดต้อง
กระทำอย่างมอบนาม..........เหนือค่า
อณุรักษ์คุณค่าคล้อง............คู่ฟ้ามลายสูญ ๚๛				
17 กุมภาพันธ์ 2548 17:16 น.

๏ ๏ ๏ เพียงถ้อย ๏ ๏ ๏

ใยไหม


๏ เนิ่นนานใช่แค่น้อย............ล่วงวสันต์  
คุณค่ายิ่งอนันต์-.....................จวบพ้น
รอคอยตราบกาลกัลป์..............ทราบซึ่ง  ใจเฮย
ใจสู่ใจท่วมท้น........................ทบถ้วนหฤทัย ๚

๏  นานตราบวสันตฤดู..............ผันผ่านกาลสู่
อีกฤดูไม่คิดแปรผัน 
รอคอยวันหนึ่งความฝัน.............จะสานร่วมกัน
ความนั้นยึดมั่นในใจ ๚

๏ เพียงพบเจอใช่พลั้ง....................ผิดไฉน
ตาต่อตาประสานใน........................จิตนั้น
เพียงเอื้อนเอ่ยด้วยใจ....................นิดหน่อย
ดั่งบ่วงที่ผูกรั้น................................ยิ่งคล้อยครวญถวิล  ๚

๏ เพียงแรกที่ได้พบเจอ........................น้ำคำของเธอ
มันเผลอซึมผ่านซ่านใจ
เข้าใจยิ่งกว่าคำไหน..............................เอื้อนเอ่ยออกไป
ให้จิตสนิทเสน่หา  ๚

๏  น้ำคำเพียงเอ่ยเอื้อน...............อุปมา
เพียงมธุรสวาจา..........................สั่นเทิ้ม
ยิ่งฟังยิ่งตรึงตรา.........................ติดอยู่  หทัยเฮย
ถ้อยดั่งทิพย์ให้เคลิ้ม..................สู่ห้วงบ่วงสวรรค์  ๚

๏  น้ำคำมธุรสวาจา........................กล่าวความเป็นมา
ยากหาถ้อยล้ำคำใด
มาแทนรักและห่วงใย....................ที่อยู่ในใจ
มอบให้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ๚

๏ ดั่งอักษรที่รื่นร้อย....................เรียงตาม
หมื่นคำสู่นิยาม...........................หนึ่งนั้น
ซ่านซึ้งยิ่งกว่าความ.....................คำเปรียบ  เทียบนอ
หากจักต้องคลายครั้น..................เคลื่อนคล้อยคงสลาย  ๚

๏ อักษรที่รื่นร้อย..........................เทียบคุณค่าคอย
เท่าร้อยพันหมื่นจากสวรรค์ 
หากจักต้องคลายหายกัน.................คุณค่าลงพลัน
ใจนั้นคงจักวายปราณ  ๚๛

....จากบทประพันธ์นี้  ผู้ประพันธ์กำลังสื่อถึงถ้อยคำของคนรัก  เปรียบได้ดั่งถ้อยคำที่มาจากสรวงสวรรค์  เหมือนดั่งการรอคอยแม้นานเพียงไร  หากได้รับซึ่งคำๆหนึ่งจากคนรักแล้วก็คุ้มค่า   ***...
....และการพบเจอเพียงครั้งย่อมเกิดความเข้าใจกันยิ่งกว่า   การพบเจอเพียงภาพมายา... 
***ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคำพูด   คำสัญญาเพียง  1  คำ  ไม่อาจเทียบได้กับการกระทำที่เป็นดั่งคำพูดและคำสัญญานั้น...

   

   
				
2 กุมภาพันธ์ 2548 11:01 น.

๏๏๏มั่นรัก๏๏๏

ใยไหม

๏วันแรกพบจึ่งเพ้อ..............ลำพัง
ได้แค่เพียงหนึ่งหวัง...........อยู่พร้อม
ความคิดยิ่งเกิดพลัง..........เคียงคู่
เร็วรี่เร่งร่ายร้อม................เก็บเบี้ยใส่*เนียง๚

๏หวังขอเพียงหนึ่งน้อง...........นวลนาง
มาช่วยเดินร่วมทาง..............ชิดใกล้
รักพี่ไม่เคยจาง....................สยบอยู่
ใต้บาทของแม่ไซร้...............อย่าได้หวั่นเกรง๚

๏เคยนักเลงเก่งแล้ว.................เพียงไร
ต้องสยบอยู่ด้วยใจ................แม่แล้ว
หวังเพียงแม่อย่าไกล.............รักพี่  แน่เฮย
จิตจักอยู่มิแคล้ว...................มั่นแท้แม่นาง๚

๏กำมิวางหากน้อง....................นั้นถวิล  รักเฮย
รักจักไม่โผบิน.......................จากเจ้า
จักมั่นแม่ยุพิน.......................เพียงแค่  หมดใจ
รักจักเฝ้าคลึงเคล้า.................ตราบฟ้าดินสลาย๚๛

*เนียง  เป็นคำในภาษาถิ่นใต้หมายถึง  โอ่งหรือไห...
                                           1  กุมถาพันธ์  2548				
2 กุมภาพันธ์ 2548 10:51 น.

จากใจใครคนหนึ่ง 2

ใยไหม

๏ไม่เคยฝันซึ่งวันใหม่กับใครอีก
คิดแต่ปลีกหลีกใจให้สะท้อน
ฝากความรักใจภักดิ์ในบทกลอน
พึงสังวรฉันคนนี้คงมีกรรม

เลยเร่งคำน้อมนำสู่พระพุทธ
บริสุทธิ์ไม่จดใจให้ถลำ
ตัดกิเลสตัดเยื่อใยในความนำ
ฉันคนนี้ไม่ถือทำย้ำแต่ความดี

ดำเนินอยู่สู่สายทางพระพุทธา
ได้รู้ว่าเธอได้ใจที่เปลี่ยนสี
อยากให้เธอพบเจอสิ่ง ดี ดี
เลยกลับมาตรงนี้ที่มีเรา

ด้วยไม่คิดมีใครในใจแล้ว
ถึงคราดแคล้วกันอีกคราใช่ว่าเขลา
เพราะยังมีใจแห่งธรรมน้อมนำเรา
ถึงใจเฉาคงบางเบาเพียงไม่นาน

ทำวันนี้ทั้งนอกในให้ดีที่สุด
ไม่หวังฉุดให้ใครมาสงสาร
หากมีวันที่ต้องเจ็บอย่างทรมาน
ขอรับรู้ว่าใจหาญสู้ความจริง

เคยร้องให้ที่จิตใจน่ะเคยช้ำ
ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บนำน้ำใจหญิง
แต่ที่สานจิตใจต่อไม่ประวิง
เพราะใจจริงให้อภัยใจทุกดวง

หากคนอื่นหมื่นพันสำคัญผิด
ใจยังคิดให้อภัยใช่เพียงหวง
ไม่เกรงหรอกน้ำคำหากเขาลวง
เพราะคนกลวงทำสิ่งไรได้แก่ตน

เพียงเรามีใจแน่วแน่แลบริสุทธิ์
หากเขาฉุดเราลงเหวอีกสักหน
เขาคนนั้นคนทำกันให้หมุนวน
หากฉันดลใจไม่ได้ไม่โทษใคร

เมื่อมนุษย์ยังมีกรรมน้อมนำจิต
ผ่านชีวิตมากมายกายสั่นไหว
มีเจ้ากรรมนายเวรนำจิตใจ
หากไม่ไหวไม่ตัดต่อขอสร้างบุญ

ด้วยในจิตคิดเอาไว้ให้เสมอ
อภัยเธอเพราะหวงห่วงมีบ่วงหนุน
ฉันคนนี้ก็มีกรรมนำเจือจุน
เขามีคุณให้ประจักษ์ค่าภักดี

ไม่มีเขาฉันนี้จะมีใคร
น้อมนำใจให้ฝักใฝ่ธรรมอย่างนี้
เพียงไม่หวังต่อนี้ไปให้สิ่งดี
จะไม่มีที่จิตนี้อยากครอบครอง

หากแรงบุญหรือกรรมนำพาให้
สองจิตใจได้มาอยู่เป็นคู่สอง
จะดูแลไม่ห่างประคับคอง
เป็นเพื่อนครองที่จิตมิตรร่วมทาง๚๛				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟใยไหม
Lovings  ใยไหม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟใยไหม
Lovings  ใยไหม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟใยไหม
Lovings  ใยไหม เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงใยไหม