8 ธันวาคม 2551 15:40 น.
ใยไหม
๏ ยามจันทราเริ่มแล้ว........ส่องแสง
ร้าวเจ็บยิ่งแสดง...............แผ่ฟื้น
หนาวเหน็บดั่งลมแรง........พัดโบก
เย็นเยือกยิ่งเจ็บสะอื้น.......อกนี้สั่นหนาว ๚
๏ วอนลมช่วยโบกพริ้ว.....พัดพา
ขอจิตย้ำเตือนมา............ร่วมพ้อง
หนาวสั่นจิตตรึงตรา......คอยอยู่
เพียงพี่มาร่วมคล้อง........ดั่งครั้งก่อนกาล ๚๛
๏๏๏ อาศรมชาวโคลง ๒๐๓ โคลงความคิดถึง ๏๏๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7294070/W7294070.html
3 ธันวาคม 2551 00:29 น.
ใยไหม
๏ เราหยุดกำ หยุดเดิน มานานแล้ว
มีดวงแก้ว สุกใส ไว้เป็นเพื่อน
คอยชี้ชัด ส่องสว่าง พรางย้ำเตือน
ว่าให้เบือน ออกไป ไกลหนทาง
เราหยุดใจ ที่ถลำ มานานแล้ว
แต่ดูแวว คอยตาม ไม่หายห่าง
โมหะจริต ครอบงำ มิวายวาง
คงอยากเฉือน ฉีกร่าง ให้วายชนม์
เราหยุดยื้อ แย่งใจ มานานแล้ว
ขอคลาดแคล้ว ความใน ที่สับสน
ผันผ่านไป จงไป ไม่กังวล
ไม่ดิ้นรน ไข่วคว้า มานมนาน
เราหยุดฝัน วันเก่า มานานแล้ว
เมื่อมันไร้ วี่แวว แล้วอ่อนหวาน
เลยส่งไป ห่างใจ ไม่ต้องการ
ขอวันวาน สลายไป ในทันที ๚๛
~ใจเราหยุดโมหะจริตมานานแล้ว..
9 มกราคม 2551 22:23 น.
ใยไหม
๏ ธ เสด็จกลับแล้ว.......................สู่สวรรค์
ไทยต่างโศกจาปัลย์........................ทั่วหล้า
จริยวัตรงดงามอนันต์....................จารอยู่ ใจเฮย
ขอเสด็จสู่ชั้นฟ้า............................นิราศพร้อมสุขเกษม ฯ
๏ ทรงประดุจหยาดฟ้า.....................ประทานมา
ให้เหล่าชาวประชา...........................กลับฟื้น
พระกรณียกิจมั่นตรา.......................ตรึงอยู่ เสมอเฮย
ไทยทั่วต่างสุขรื้น............................หยั่งน้ำพระทัยเสมอ ฯ
๏ ขอเสด็จกลับสู่ห้วง......................แห่งพรหม
ขอ ธ ทรงเสวยสม..........................สุขพร้อม
ขอ ธ มิ่งบรม...................................พิสุทธิ์อยู่
ขอเหล่าเทวาน้อม..............................สู่ห้วงเถลิงสวรรค์ ฯ
ควรมิควรแล้วแต่จะทรงโปรด
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะข้าพระพุทธเจ้าครอบครัววุฒิมานพ
นางสาวกอบกุล วุฒิมานพ ผู้ประพันธ์
26 สิงหาคม 2550 14:40 น.
ใยไหม
๏ ยาวนานปานสุดฟ้า...........ฤดีดาย
วันล่วงคืนผ่านมิวาย.............เจ็บร้าว
วังเวงแว่วแผ่วคลาย................เหงาโศก ใจเฮย
ลึกลึกยิ่งอะคร้าว..................ซ่านซึ้งใจหมอง ๚
๏ เส้นทางผ่านทุกข์ห้วง.........ยาวไกล
ฟันฝ่าอีกเพียงไร...................ผ่านพ้น
โศกยิ่งกว่าโศกใด..................มาเปรียบ
ชลเนตรหลั่งรินล้น..................โศกนี้ยังครอง ๚
๏ ผ่านกาลใช่ผ่านพ้น..............จารจำ
นานเนิ่นที่จิตทำ.......................อ่อนล้า
ประหนึ่งเพิ่งผ่านคำ...................ย้ำโศก
ตะวันอาบฉาบหทัยข้า................อาจสิ้นความหมอง ๚๛
14.20 260807
16 สิงหาคม 2550 13:43 น.
ใยไหม
ระยิบระยับวับวามอร่ามฟ้า
อยากรู้ว่าหมู่ดาราเหว่หว้าไหม
ไม่เงียบเหงาปวดร้าวกันบ้างหรือไร
เหมือนฟ้าทิ้งแรมไกลไปนานแล้ว
แสงอร่ามทาบทาบนฟ้าหาย
แล้วเยี่ยมกรายเสียงเรไรให้เจื้อยแจ้ว
เพื่อรับรู้คืนค่ำย่ำเยือนแล้ว
ไร้วี่แวววันใหม่ไป อีกนาน....
ถึงพลบค่ำความสว่างเริ่มจางหาย
เห็นดาวพร่างกระจ่างพรายกายสะท้าน
เพราะเหน็บหนาวกอดใจให้ร้าวราน
จนคืนผ่านยาวนานจารจำไว้
19.46 130807
................................