9 มีนาคม 2546 22:09 น.
ใบบอนแก้ว
...เหมือนมีกรรมนำชักให้ไกลจากถิ่น
จึงถวิลยามแรมร้างห่างเคหา
เคยเห็นแม่แลพี่น้องหมองอุรา
อกรุมเร้าเศร้าหนักหนาคราจากนาง
จนนอนเพ้อเธอคิดถึงสักครึ่งไหม
แค่เหมือนใจของพี่ที่หม่นหมาง
เหมือนหมดมิตรจิตสลายแทบวายวาง
ว่าวันช่างแสนเนิ่นนานกว่าผ่านไป
ผลประดังนั่งวิเคราะห์เพราะมูลเหตุ
มาห่างเขตเคยรักฤาหรือไฉน
ฉะนั้นจึงถึงเขียนบอกออกจากใจ
จดจำกลปนกลอนไว้ใช้รำพึง
ร้อยพจน์กล่าวร้าวอุราตาบ้องแบ๊ว
ใบบอนแก้ว เฝ้าฝันหาว้าวุ่นถึง
ว่าถือสิทธิ์คิดครวญคร่ำคำคะนึง
คอยน้อมเหนี่ยวเกี่ยวใจหนึ่งซึ่งห่างตา
ให้ตรมตรอมยอมจากถิ่นสิ้นคนข้าง
เคยขัดขวางกลัวรักเหเสน่หา
ในห้องจิตคิดหดหู่อยู่เรื่อยมา
รักมีค่าจักเปลี่ยนไปไม่แน่นอน
น้องนางนี้พี่แสนรักสลักจิต
ลึกจนมิดเต็มดวงใจยากไถ่ถอน
โถถ้าน้องของพี่หน่ายคิดคลายคลอน
ใคร่ครวญก่อนเห็นรักพี่ไม่ดีพอ...
.........หมายเหตุ.....กลบท บทนี้ ให้พยัญชนะ 2 คำหลัง ในแต่ละวรรค กับ พยัญชนะ 2 คำแรกของวรรคต่อไป ต้องซ้ำตัวพยัญชนะตัวเดียวกัน
2 มีนาคม 2546 11:55 น.
ใบบอนแก้ว
...หักห้ามใจไม่อาจหยุดสุดจะหัก
เหมือนชนักแทงกลางใจเจ็บใดเหมือน
เดือนและวันผันเปลี่ยนไปตั้งหลายเดือน
คอยย้ำเตือนทุกเวลาตั้งตาคอย
พี่จากมาอย่าลืมกันขวัญใจพี่
หงอยฤดีคิดแล้วเศร้าแสนเหงาหงอย
รอยอาลัยในใจสั่นหวั่นซ้ำรอย
กลัวลดน้อยรักร้างไปใจพี่กลัว
ถึงรำพันวันเก่าเก่าเฝ้าคิดถึง
หัวใจหนึ่งนั้นทุกข์มากยากยิ้มหัว
ตัวห่างไกลใจน้องนั้นพลันลืมตัว
เคยเย้ายั่วกลับเปลี่ยนไปเหมือนไม่เคย
ไม่คิดคลายหน่ายยอดชู้รู้หรือไม่
เผยความนัยรักก่อเกิดอย่างเปิดเผย
เลยต้องทนหม่นดวงใจไม่สุขเลย
รอจะเอ่ยรักที่มีไม่รีรอ
ให้น้องนางอย่างหมดจิตคิดมอบให้
ขอทรามวัยอย่าหาญหักรักที่ขอ
ทอรักเราเอาใจร่วมรวมถักทอ
เป็นสิ่งต่อเติมอย่าให้ตายทั้งเป็น
ถึงกายห่างต่างกับจิตคอยคิดถึง
เห็นเดือนครึ่งดวงเด่นฟ้าคราได้เห็น
เย็นใจรักชักลำบากช่างยากเย็น
กลัวลำเค็ญรักเหลือครึ่งใจจึงกลัว...
2 มีนาคม 2546 00:27 น.
ใบบอนแก้ว
...ต้องซมซานซ่านซ้านจิตคิดพร่ำเพ้อ
เหมือนคอยคลายคล่ายคล้ายเก้อละเมอฝัน
สร้างวิมานม่านม้านหรูอยู่กลางวัน
ถึงมากมายม่ายม้ายนั่นนั้นไม่จริง
คนรักไกลไกล่ไกล้พลาดขาดไออุ่น
ตั้งหลายวาว่าว้าวุ่นครุ่นถึงหญิง
นานเท่าไรไร่ไร้พี่ที่แอบอิง
นึกเรื่องราวร่าวร้าวยิ่งน้องชิงชัง
รักสะอางอ่างอ้างว้างช่างว้าเหว่
ลบเลือนรอยร่อยร้อยเล่ห์แล้วเลหลัง
ให้ร้อนรนร่นร้นจิตคิดกลัวจัง
กลัวใจพลอยพล่อยพล้อยพลั้งมิตั้งใจ
จงปรานีนี่นี้พี่ที่ไกลน้อง
ปล่อยซบเซาเซ่าเซ้าต้องหมองเพียงไหน
หรือคิดรอนร่อนร้อนร้างหรืออย่างไร
ปล่อยเศร้ารุมรุ่มรุ้มให้ไม่ชื่นชม
ยิ่งการคอยค่อยค้อยหายคล้ายเป็นอื่น
สุขกลับกลายกล่ายกล้ายชื่นเป็นขื่นขม
ยินเสียงซึงซึ่งซึ้งคาดบาดอารมณ์
ฟังเสียงโอโอ่โอ้ข่มตรมเจียนตาย
กรรมใดกันกั่นกั้นให้ใจเศร้านัก
กลัวระอาอ่าอ้ารักจักสลาย
จะร้างเลือนเลื่อนเลื้อนเล่นมิเว้นวาย
เฝ้าแต่แลแล่แล้หมายภาพถ่ายนาง...