3 มิถุนายน 2548 21:40 น.
ใบบอนแก้ว
....หมายเพียรขอ พอเขียน เรียนปีกฟ้า
ผู้สามัญ สรรมา เว็ปอย่าเสีย
เดี๋ยวสายเหล้า เศร้าหลาย หมายคลอเคลีย
เว็ปเฮ้งเจีย เฮียเจ้ง จะเซ็งเอา.....(เว็ปล่ม สมาชิกลงแดงตายได้นะครับ.... ขอบอก)
....ท่านใจเย็น เห็นแล้ว แก้วประเสริฐ
กลอนประสิทธิ์ คิดเลิศ เฉิดเฉลา
เฉกเฉลี่ย เกลี่ยความ งามไม่เบา
แง่ไม่เบื่อ เมื่อเรา เข้ามาดู.....(เข้าไปอ่านแต่ไม่กล้าล้อเล่น ด้วยเห็นเป็นบทกลอนที่ซ่อนนัยนะครับ...ขอบอก)
....เห็นผู้เฒ่า เฝ้ามอง น้องน้อยน้อย
เป็นผู้คอย เผื่อแผ่ แก่หนูหนู
ท่านเตือนว่า อย่าอ้าง ข้างคูคู
คำกลอนหรู ถ้อยงาม ความดีดี....(ข้อความดี มีจังหวะ ฉันทลักษณ์พร้อม เหนี่ยวน้อมใจผู้อ่านนะ...ขอบอก)
....ยิ่งปู่ลิง ยิ่งเก๋ เท่ห์ที่สุด
เป็นจอมยุทธ เมรัย ใส่ศักดิ์ศรี
ท่านร่ายโคลง โยงกาพย์ ฉาบฉันท์มี
ทุกวลี กลอนย้ำ ช่ำชองจริง....(น่านำผลงานมาลงบ่อยๆนะครับ...ขอบอก)
....เมื่อพรั่งพร้อม จอมรัว พ่อครัวใหญ่
พ่อเรไร ซอยรี่ เหมือนผีสิง
กับข้าวเขา เอาซิ ใครติติง
ผมนั่งนิ่ง อ้ำอึ้ง ถึงขั้นจัง....(ใครได้ไปเป็นพ่อครัวประจำบ้าน หน้าบานตัวกลมเลยนะครับ....ขอบอก)
....เสียงกีต้าร์ พาเพลิน จำเริญจิต
ทำนองติด ลีลาศ สาตมนต์ขลัง
ดาวอังคาร ท่านทำ นำเพลงดัง
มีใหม่เก่า เฝ้าฟัง เกือบทั้งคืน....(ไม่มีเพลงรักข้ามขอบฟ้า.. ว่าแต่เพลงทะเลใจ ผมไม่ได้ยินเลยนะครับ....ขอบอก)
....เหมาเสื่อสาด กวาดเสียหมด กลัวอดเหมา
ฝืนขอโทษ ครับผมเมา เขายังฝืน
ยืนมองฝน หล่นใส่ตัว มัวแต่ยืน
เรายังฟื้น ลุกขึ้นไหว ได้หรือเรา....(ดีนะนี่ที่ขอโทษล่วงหน้า เพราะว่ามีหลักฐานนะครับ....ขอบอก)
..... ป.ล. ต่อท้าย ใครไม่ถึง
สักวันหนึ่ง มาแจม จะแถมให้
รออีกนิด คิดหน่อย ร้อยเรียงไป
ใครเป็นใคร ไว้ต่อ ขอตัวเมา.....
2 มิถุนายน 2548 06:32 น.
ใบบอนแก้ว
....ลาจากวัน วันจากลา ครบอาทิตย์
มิตรบ้านไกล ไกลบ้านมิตร ให้คิดถึง
มาย้อนบอก บอกย้อนมา ว่าคำนึง
หนึ่งครั้งนั้น นั้นครั้งหนึ่ง ติดตรึงใจ
หวนให้หา หาให้หวน สวนวังแก้ว
แวววาววับ วับวาวแวว แจ๋วแจ่มใส
เสียงคลื่นสาด สาดคลื่นเสียง เหมือนเสียงใคร
ได้มิครึ่ง ครึ่งมิได้ ในความจริง
คลื่นเสียงซ่า ซ่าเสียงคลื่น คราคืนค่ำ
ช้ำชอกเหมือน เหมือนชอกช้ำ คำชายหญิง
ให้ยอกย้อน ย้อนยอกให้ ใจประวิง
ทิ้งที่เหลือ เหลือที่ทิ้ง ยิ่งช้ำเกิน
เหมือนใจเจ็บ เจ็บใจเหมือน ถูกเฉือนร่าง
ต่างทรายน้ำ น้ำทรายต่าง ไม่ห่างเหิน
ต่างคนเรา เราคนต่าง มาหมางเมิน
เยินยับจน จนยับเยิน เดินต่างกัน
หาให้หวน หวนให้หา มากล่าวผ่าน
บ้านแห่งมิตร มิตรแห่งบ้าน สมานฉันท์
จักรู้ได้ ได้รู้จัก รักผูกพัน
นั้นไออุ่น อุ่นไอนั้น อันจุนเจือ
สิ่งทุกที่ ที่ทุกสิ่ง ล้วนยิ่งใหญ่
ไว้เล่าเรื่อง เรื่องเล่าไว้ ใต้ออกเหนือ
จากถิ่นเยือน เยือนถิ่นจาก มากคลุมเครือ
เหลือหลงไม่ ไม่หลงเหลือ เมื่อนานวัน....
26 พฤษภาคม 2548 23:29 น.
ใบบอนแก้ว
....กอดกันเกลียว เกี่ยวกันไกล่ ใกล้กอกก
สงสัยศก ศึกสุดเสี่ยง เสียงสาวสาว
รุมเร้าเร้น เล่นเล่าเรื่อง หลายเรื่องราว
หนึ่งหนุ่มนั่น นั้นโน้มน้าว หนาวนอกใน.....(อยากได้คนกอดบ้างนะ จะบอกให้)
....ทะเลใจ ใจทะเล อาจเหว่ว้า
รับรู้มา มารับรู้ ดูสดใส
พลาดพลั้งเฉียด เฉียดพลาดพลั้ง หมดทั้งใจ
ตอนรู้ได้ ได้ตอนรู้ ว่าหนูเมา.....(เสียดายตอนนั้นจริงๆนะ จะบอกให้)
....ชมอักษร ออดอ้อนดี หญิงสีม่วง
ชมชอบช่วง ยิ้มสดใส ไม่เหมือนเขา
ชมวาจา น่าฟังนัก ทั้งหนักเบา
ชมจนเรา เกิดอ้ำอึ้ง ถึงงงงวย....(ชอบชมจริงๆนะ จะบอกให้)
....ภูตะวัน ตะวันรอน ซ่อนเหลี่ยมเขา
มีเหลือเพียง เหลือเพียงเงา เค้าความสวย
ตะวันหนึ่ง วันหนึ่งล้ำ เอื้ออำนวย
ให้ร่ำรวย ร่ำรวยล้น จนเต็มภู....(น้องๆรอส่วนแบ่งอยู่นะ จะบอกให้)
....อามิตัน อัลมิตรา ที่น่ารัก
สุขใจนัก สักใจหนุก ทุกคู่หู
ร้องรวมพรรค รักรวมพ้อง ต้องตามดู
แต่ไม่รู้ ตู่ไม่แล แม้เมียงมอง....(อยากรู้ใจไปอยู่ไหนจริงๆนะ จะบอกให้)
....พระจันทร์เศร้า เฝ้าสุขใจ เมื่อไกลบ้าน
พระจันทร์เศร้า เหมาทั้งร้าน ด้านเบียร์ป๋อง
พระจันทร์เศร้า เฝ้าอะไร ในระยอง
พระจันทร์เศร้า เอาแต่มอง กระป๋องเบียร์....(สิงห์ข้างกระป๋องเบียร์ ตัวเมียหรือตัวผู้ ล่ะครับ)
..... ป.ล. ต่อท้าย คงไปถึง
ค่อยๆดึง มาแจม แล้วแถมให้
รออีกนิด คิดอีกหน่อย ค่อยเขียนไป
ใครเป็นใคร ไม่รู้พอ ผมก็เมา.....
...................................สวัสดีครับ...................................
7 ตุลาคม 2547 19:48 น.
ใบบอนแก้ว
...หากรักมี ดีอยู่ ดูคึกคัก
ไม่ยึกยัก สู้ได้ ไม่ถอยหนี
ยอมด่าวดิ้น สิ้นใจ ให้รอยมี
เข้าต่อยตี ดีกว่า มาซานซม
แต่รักเธอ เกร่อจน ล้นจิตใน
มิคิดใคร่ รักนั้น มันหวานขม
ล้วนแรงร้าย หมายฆ่า มานานนม
ยิ่งบานบ่ม เกินสู้ รู้ไกกล
เหตุรักฉัน มันฟ้อง ต้องผิดพลาด
ที่คิดคาด ตายเป็น เห็นไหมผล
ยอมย่ำแย่ แพ้พ่าย คล้ายใจจน
ยอมไหม้หม่น เลิกพร่ำ ทำทีคอย
หากรักมี ดีอยู่ ดูคักคึก
ไม่ยักยึก สู้ได้ ไม่หนีถอย
ยอมด่าวดิ้น สิ้นใจ ให้มีรอย
เข้าตีต่อย ดีกว่า มาซมซาน
แต่รักเธอ เกร่อจน ล้นในจิต
มิใคร่คิด รักนั้น มันขมหวาน
ล้วนแรงร้าย หมายฆ่า มานมนาน
ยิ่งบ่มบาน เกินสู้ รู้กลไก
เหตุรักฉัน มันฟ้อง ต้องพลาดผิด
ที่คาดคิด ตายเป็น เห็นผลไหม
ยอมย่ำแย่ แพ้พ่าย คล้ายจนใจ
ยอมหม่นไหม้ เลิกพร่ำ ทำคอยที...
หมายเหตุ....เป็นกลอักษร ชื่อ...ลิ้นตะกวดคำน้อง...
23 กันยายน 2547 22:11 น.
ใบบอนแก้ว
...ใจเหงาเหงา เฝ้าคิด ว่าผิดไหม
เรื่องซึ้งซึ้ง ตรึงใจ ยามให้หา
เหมือนรุ่มรุ่ม รุมร้อน กร่อนชีวา
จนหมองหมอง มองฟ้า พาหม่นใจ
มานึกนึก ตรึกตรอง เมื่อมองฟ้า
เรื่องต่างต่าง ค้างคา ควรปราศรัย
กล่าวดีดี มีเหลือ ซึ่งเยื่อใย
รักดีดี ที่ให้ คงได้มา
เคืองใครใคร ได้เล่า เรื่องเรานั่น
เรื่องมั่วมั่ว พัวพัน นั้นแน่นหนา
สิ่งต่างต่าง ร้างไกล ไปทันตา
สิ่งใดใด ไร้ค่า เวลาเคือง
ดูหม่นหม่น ต้นหญ้า พาบ่งชี้
ใบเขียวเขียว เดี๋ยวนี้ เป็นสีเหลือง
เฝ้าคิดคิด ผิดหนัก รักมาเปลือง
เพียงนิดนิด คิดเปลื้อง มากเรื่องดู
ใจเหงาเหงา เฝ้าครวญ ให้หวนหา
เคยใกล้ใกล้ ไยมา พาอดสู
คิดนิดนิด คิดเล่น ผิดเป็นครู
อยากกอดกอด ยอดชู้ เคยดูใจ
เธอเธอเธอ เธอรัก อีกสักนิด
ฉันเหงาเหงา เฝ้าคิด จะผิดไหม
สิ่งดีดี ที่รัก เคยจากไป
มาเติมเติม เริ่มใหม่ ได้ไหมเธอ...
หมายเหตุ....บังคับพิเศษ 1. ซ้ำคำที่ 2 และ 3 ในแต่ละวรรค
2. ซ้ำคำแรกของวรรคสดับกับคำสุดท้ายของวรรคส่ง