22 พฤศจิกายน 2550 06:30 น.
ใบคา
วันหนึ่ง โทนี่ ออกมาทำหน้าเศร้าด้วยความว้าเหว่ ณ ชายคาระเบียงห้อง 15 อยากจะซื้อเบียร์ตัวใหญ่มากระดกให้คลายโศก แต่ทำไม่ได้ เพราะเป็นแค่จิ้งจกลายเทาเท่านั้น ไม่ใช่มนุษย์
โทนี่อาศัยในห้อง 15 มาหลายชั่วอายุคน มันหมายความว่าหลายช่วงคนเช่าซึ่งนานบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ปัจจัยต่างๆ แต่เท่าที่เห็นยังไม่มีใครอยู่เกิน 2 ปี โทนี่เคยบอกเล่าเรื่องราวลักษณะนี้ให้จิ้งจกรุ่นหลานฟังเสมอ
โทนี่เป็นจิ้งจกตัวใหญ่ (และอายุมากกว่าจิ้งจกธรรมดา) แต่ปราดเปรียว ด้วยเหตุนี้มันจึงรอดชีวิตจากหนังยางอยู่เสมอ และส่งผลให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของห้องเช่าอย่างละเอียด เดิมทีมันไม่มีชื่อ และเกือบจะไม่ได้ใช้ชื่อนี้ด้วยซ้ำ เพราะชื่อของมันมี 2 ตัวเลือกให้เลือก คือ เทากับโทนี่ คนตั้งชื่อเป็นเพื่อนของเจ้าของห้องชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นชุดเดียวที่เช่านานที่สุด 2 ปี และเป็นชุดที่โทนี่มีความผูกพันอย่างมาก หลังจากที่เถียงกันอยู่นานโทนี่ก็กลายเป็นตัวเรียกขาน ด้วยเหตุผลที่ว่าอย่างน้อยห้อง15 แห่งนี้ก็มีหนึ่งสิ่งล่ะที่เมื่อเอ่ยชื่อฝรั่งแล้วนึกถึงหรือเห็นสัตว์ ไม่ใช่เทวดาเหมือนข้างนอก
บ่อยครั้งที่ผู้เช่าซึ่งมีสมาชิก 3 คน ปองร้ายต่อมัน แต่ก็จนปัญญา เพราะไม่อาจสู้ความไวของโทนี่ได้ จนพวกเขาไม่คิดเอาชีวิตของมันอีกแล้ว ทุกครั้งที่กินข้าวเสร็จเม็ดข้าว 3 4 เม็ดจะถูกวางไว้ริมเสาห้องเสมอ หลังๆ ก็มีน้ำเมามาด้วย ก็หลังจากที่พวกเขาสังเกตุเห็นว่ามันแอบลงมาเลียตอนที่เจ้าของห้องเมามายไม่ได้สตินั่นแหล่ะ
นึกถึงคืนวันอันแสนสุขแล้วอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว โทนี่อยากเล่าเรื่องนี้ให้เหลนๆ ฟัง แต่ถูกจิ้งจกวัยกระเตาะด่าว่าเหลวไหล ครั้นจะลงไปบอกกล่าวกับเจ้าของห้องกลุ่มใหม่ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง แถมยังกรีดร้องโวยวาย แล้วยังจะฆ่ากันอีก แต่มันก็รู้นะว่าถึงยังไงก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก คงเป็นเพราะความคิดถึงกระมังทำให้มันเป็นได้ถึงเพียงนั้น แค่อยากบอกว่าเมื่อวันวานห้องนี้มีสีสันมากแค่ไหนเท่านั้นเอง
มันยังคงจำได้ขึ้นใจกับคติพจน์ของห้อง 15 ที่เจ้าของห้องชุดนั้นช่วยกันร่าง เราชาวห้อง 15 ให้เป็นอะไรก็เป็นได้ ขออย่างเดียวคืออย่าให้เป็นคนเลว
พวกเขากินเหล้ากันอย่างไม่คิดถึงวันรุ่งขึ้น ไม่สนแม้เงินในกระเป๋า ถึงจะกินกันเพียงเดือนละ 2 ครั้งเท่านั้นก็ตาม คือ วันคู่และวันคี่ แรกๆ โทนี่ก็ไม่ชอบหรอก เพราะทั้งเสียงดังทั้งรำคาญ จนกระทั่งได้ลิ้มรสเบียร์ตัวใหญ่นั่นแหล่ะถึงได้รู้ว่าสวรรค์มีจริง
แสงแดดอ่อนๆ ของเย็นวันนี้โทนี่อยากจะบอกใครสักคนที่สนใจจะฟังว่า...
เดิมทีห้อง 15 อยู่ด้วยความเงียบ จนกระทั่ง จ้อย ซึ่งรอนแรมจากเมืองไกล จ.ปัตตานี ชายแดนด้ามขวาน เพราะความหัวไวของจ้อย เขาสามารถสอบเข้า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (อันเป็นที่ใฝ่ฝันของเหล่าเทคนิคทั่วประเทศ) ได้ ขณะที่เพื่อนในกลุ่มยังเคว้งกลางอากาศ ค่าครองชีพในเมืองหลวงแพงกว่าชนบทหลายร้อยเท่า อันนี้เป็นที่ทราบกันดี จึงมีความจำเป็นอย่างสูงที่เขาต้องหาเพื่อนร่วมแชร์ค่าเช่าห้อง แม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม
จนมาพบ จ๋า ซึ่งประสบปัญหาเดียวกับจ้อย คือ ตัวคนเดียวโด่เด่ ไม่ต้องสงสัย ทั้งคู่ตัดสินใจอยู่ด้วยกันทันที เพราะจ๋าคนหาดใหญ่ จ้อยคนปัตตานี ข้นตายดวยกั๋น
หนึ่งเดือนก่อนสถาบันเปิด เหน่ง ผู้ผิดหวังกับระบบการสอนของวิทยาลัยเทคนิคยะลา และปราถนามาเข้าเรียนนิเทศศาสตร์ เพราะคิดว่าชีวิตคือการเดินทาง แต่ด้วยปัญญาอันน้อยนิด ไม่หาญกล้าไปแข่งขันเอ็น
ทรานซ์กับใคร เขาจึงตัดสินใจสอบคัดเลือกเข้าเป็นศิษย์สถาบันราชภัฏสวนดุสิต (เมื่อปี พ.ศ.2545 สถาบันราชภัฏยังไม่เป็นมหาวิทยาลัย) ปรากฏว่าสอบได้ เหน่งจึงเป็นเรือพ่วงของจ้อยโดยทันพลัน เหตุผลคือ เพื่อนกัน
เรือพ่วงของจ้อยจากวิทยาลัยเทคนิคยะลายังไม่หมดแค่เหน่ง บิว ผู้ไม่ผ่านรอบคัดเลือกของการเป็นนักศึกษาในรั้ว สจพ. หวังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเมืองหลวง เอาไว้ต่อกรสังเวียนหน้าของการเข้า พระนครเหนือให้ได้ สอบติด สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลนนทบุรี หรือ เทคโนนนท์ฯ ของเหล่าเฟืองลูกวิษณุกรรมทั้งหลาย
เหตุผลเดียวกับเหน่ง บิวได้เข้ามาเป็นสมาชิกห้อง15
ด้วยกฏห้องเช่า ห้ามอยู่เกิน 3 คน จ๋าตระหนักถึงข้อนี้ดี และได้นำสัญญามาให้ดู เลือดเทคนิคทั้ง 3 อ่านจบทุกข้อ แต่ไม่เห็นข้อที่ว่าห้ามอยู่เกิน 3 คน จ๋าจึงจำยอม เพราะเป็นประชาธิปไตยพอ เสียงข้างมากย่อมบริสุทธิเสมอแม้จะไม่ถูกก็ตาม
เลือดเทคนิคยะลาเข้มข้นจนเลือดปักษ์ใต้ไม่อาจจะเข้ารวมได้ จะว่าไปแล้ว เหน่งก็กำเนิดเกิดจาก จ.นราธิวาส ส่วนบิวนั้นก็ จ.ยะลา แม้คนใต้จะรักกัน แต่เลือดคงตกตะกอนไปเข้มเอาก้นขวด
แผนการกำจัดจ๋าจึงดำเนินขึ้นอย่างเงียบๆ เริ่มจากการตั้งวงรินกินเหล้า ถ้าไม่เช้าไม่เลิก จ๋าทนไม่ไหวเริ่มหงุดหงิด (เพราะจ๋าบริโภคแต่พอควร) แต่ 3 เทคนิคยะลามีความสุข ผ่านไปนับเดือน ไม้เด็ดก็เกิดขึ้น ธรรมดาชาวห้องเช่าต้องร่วมกินข้าวเย็นด้วยกัน (ตอนกลางวันตัวใครตัวมันแล้วแต่ภาระกิจ) ในกับข้าวสำรับนั้นไม่มีส่วนของจ๋าอยู่เลย กับข้าวสำหรับ 3 คน จานใส่ข้าวสำหรับ 3 คน ในหม้อข้าวไม่มีแม้กระทั่งเศษข้าว จ๋าไม่อาจทนเป็นแกะดำได้อีกต่อไป ตัดสินใจย้ายออกใน 7 วันข้างหน้า และแล้วกฏข้อที่ห้ามอยู่เกิน 3 คน ก็ถูกมองเห็นอีกครั้ง
เมื่อห้อง15 ถูกปกครองด้วย 3 สหาย ความครื้นเครงย่อมเกิดขึ้น ก็หลังจากนี้ไม่นานนี่แหล่ะที่คติพจน์มีขึ้น
ด้วยการดื่มน้ำเมาทุกชนิดที่พอจะซื้อหาได้เริ่มเป็นกิจประจำ เหน่งที่เงินน้อยอยู่แล้วต้องออกหางานพิเศษทำ จะได้เงินมาจุนเจือโรคตับแข็ง เวลาของห้อง15 จึงเปลี่ยนไป เข้านอน 6 โมงเย็น ตื่นตอนเที่ยงคืนเพื่อมาตั้งวง เพราะเหน่งเลิกงานเวลานั้นพอดี
มาตอนนี้ถ้าใครสนใจใคร่จะถามโทนี่ว่าแล้วเวลานอนของเหน่งอยู่ที่ไหน มันก็จะอธิบายว่า จ้อยและ
บิวเรียนเช้ากลับมาตอนเย็นนอนไปแล้วย่อมโต้รุ่งได้ สำหรับเหน่งส่วนใหญ่จะเรียนบ่าย หรือถ้าเรียนเช้าก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะห้องเรียนนั้นหลับได้สบายๆ เทคโนโลยีก้าวไกล การเรียนการสอนด้วยระบบคอนเฟอเรนท์สิ่งเหล่านี้จึงไม่มีปัญหา
นี่แหล่ะคือเรื่องราวที่โทนี่อยากเล่าให้ใครๆ ฟัง มันมีความคิดว่าถ้าใครสักคนหรือตัวยอมฟังมัน มันจะเล่าแค่ถึงตอนที่กฏห้องเช่าห้ามอยู่เกิน 3 คนแต่มีสมาชิก 4 คน แล้วก็หยุดไปเฉยๆ ปล่อยให้พวกที่ฟังมันตั้งคำถามว่าเจ้าของห้องเช่าที่แท้จริงไม่มาใล่ออกไปหรือไง? แต่ไม่มีเลย ความหวังที่จะกั๊กไม่เหลือแม้เศษเสี้ยว จนมันอดคิดไม่ได้ว่า ครั้งหนึ่ง ขณะที่บิวกับจ้อยกำลังนอนตอนเย็นอยู่นั้น ห้องเช่าข้างบน มาถึงตอนนี้มันจะเล่าว่าห้องเช่าของตึกนี้มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นละ 3 ห้อง เมื่อคูณสามสี่สิบสอง ทุกคน/ตัวต้องงง แล้วห้อง15 มาได้อย่างไร มันก็จะหัวเราะร่า แล้วอธิบายว่า ก็เจ้าของต้องการให้ดูเหมือนมีห้องเยอะน่ะสิว่ะ และมันจะบอกต่อไปว่า ที่คุณคำนวนน่ะถูกแล้ว นับว่าคุณมีไหวพริบพอตัว แต่ผมจะบอกให้ว่าชั้น 1 ตึกนี้ไม่มีห้องเช่า เพราะฉะนั้นต้องคำนวนสูตรว่าสามคูณสามเท่ากับเก้าถึงจะถูก แล้วจะไม่ให้เป็นการนับเลขห้องให้ดูเยอะของเจ้าของห้องได้อย่างไร แล้วมันก็จะยิ้มอย่างจิ้งจกมีภูมิ
เมื่อความฝันพังทลายโทนี่ก็ต้องมาเกาะเพดานระเบียงห้องถึงวันเก่าๆ ต่อไปว่า เมื่อหนที่จ้อยกับ
บิวนอนพักผ่อนเอาแรงรอโต้รุ่งกับเหน่งนั้น ห้องข้างบนซึ่งเป็นชั้น 4 เคาะน้ำแข็งลงพื้นโดยตรง จึงทำให้เสียงดังลงมาถึงห้องข้างล่าง แล้วยังจะเมาพูดจาเสียงดัง เป็นว่าจ้อยและบิวไม่สามารถข่มตาหลับขับตานอนได้ แต่ไม่เป็นไร เหน่งกลับมาเรื่องเหล่านี้ก็เข้าสู่โสตประสาท เหน่งเริ่มประกาศศึกด้วยการเอาน้ำแข็งเคาะบนเพดานห้อง ด้วยการต่อโต๊ะอย่างยากลำบาก แล้วเริ่มบรรเลงเพลงสุรา คลอเคล้าด้วยเสียงขับขานของธงชัย และ อ.ไข่ คธาวุธ สมัยที่ยังไม่แยกวง ศึกแรกจบลงด้วยเสียงไก่ขัน ชั้นบนคงยังไม่รู้สึกเพราะความเมาเมื่อหัวค่ำ
อีก 3 วันถัดมา พวกเขานัดเพื่อนร่วมรุ่นจากวิทยาลัยเทคนิคยะลา ที่กระจัดกระจายทั่วเมืองกรุง มาสังสรรค์เฮฮา วันนี้เหน่งลงทุนไม่ไปทำงาน เพลงของสหายสุราบรรเลงตั้งแต่หัวค่ำยันตี 2 เสียงโทรศัพท์เตือนของเจ้าของห้องเช่าก็ดัง กริ้งๆๆ ติดๆ กัน เป็นที่รู้กันดี เพราะว่าถ้าสายภายในจะดังลักษณะนั้น แต่ถ้าเป็นเสียงข้างนอกจะดัง กริ้ง...กริ้ง...กริ้ง... เหน่งบอกให้ทุกคนเงียบเสียง คอยให้โทรศัพท์ดังไปสักพัก แล้วเขาก็ยกหูขึ้นมาพูด สวัสดีครับ ด้วยเสียงงัวเงีย
หนูๆ ห้องหนูหรือเปล่าที่เอะอะโวยวายน่ะ เสียงจากสาย
อ๋อ! ไม่ทราบนะครับ เนี่ยผมก็นอนไม่ค่อยหลับเลย เสียงดังมากๆ
เหรอจ้ะ ขอโทษด้วยนะที่รบกวน
ดังต่อ เหน่งบอกเพื่อนๆ
โทนี่รู้สึกรักพวกเขามากพอๆ กับน้ำสีเหลืองจากขวดนั้นเลย หลังจากที่พวกเขาย้ายออกไปแล้ว ไม่ใช่เพราะถูกไล่ออกหรอกนะ แต่เป็นเพราะเพื่อนๆ ไม่ค่อยมาสังสรรค์นั่นเอง โทนี่ก็กลายเป็นจิ้กจกปัจเจกทันที
หลังจากวันนั้นเพื่อนหลายคนก็แวะเวียนมาหาทุกวันศุกร์ ปาร์ตี้ใหญ่ก็จะเริ่มทุกวันสุดสัปดาห์นี้เหมือนกัน พวกเขาจะนัดเพื่อนมาประจำ แต่หลังจากที่โทนี่สังเกตุดูแล้ว เบื้องหน้าอาจจะเป็นการนัดดื่มกินตามประสาวัยรุ่น แต่จุดประสงค์หลักก็คือต้องการให้เพื่อนระบายความทุกข์ที่อัดอั้นตันใจ ความเมาเป็นการทำลายปราการด่านสำคัญของการถือตัว นี่แหล่ะประโยชน์ของน้ำเมา
โทนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่นึกถึงบทเพลงเพื่อชีวิตประชาชน ไม่ใช่เพื่อชีวิตนักร้องอย่างที่คนเช่าห้องกลุ่มใหม่เปิด โดยเฉพาะมาลีฮวนน่าขวัญใจของพวกเขาและเป็นวงโปรดของมันโดยปริยาย
เหน่งเมาแล้วชอบถกปัญญาธรรม ครั้งหนึ่งเขาเอ่ยขึ้นว่านรกสวรรค์ การชดใช้กรรมมีจริงไหม เพื่อนๆ มองหน้ากันแบบเอือมๆ เหน่งต่อทันทีว่า อย่างกูนับถือพุทธกูก็ต้องขึ้นสวรรค์หรือลงนรกแบบพุทธๆ แต่ถ้าไปนับถืออิสลามหรือคริสต์กูก็ต้องขึ้นสวรรค์ของพวกนั้นสิวะ เขาหยุดยกแก้วเหล้ากระดกแล้วพูดต่อ ถ้ากูไม่นับถืออะไรเลยกูก็ไม่มีบาปน่ะสิ
โทนี่ทบทวนถึงตอนนี้แล้วเริ่มรวนเร สงสัยเมื่อชาติก่อนมันคงเป็นมนุษย์ขี้เมาคนหนึ่ง (เพราะขนาดเป็นจิ้งจกยังชอบสุราเมรัย) แต่ดันไปนับถือลัทธิอะไรเข้าสักอย่างที่บัญญัติว่า สาวกคนไหนดื่มของมึนเมาต้องเกิดมาเป็นจิ้งจกในชาติหน้า แต่ถ้าอย่างนั้นจิ้งจกคงล้นโลกแน่เลย
เสียงครางอย่างมีความสุข เหมือนคนกินพริกดังมาจากห้อง15 อีกแล้ว โทนี่ตื่นจากอดีต วกหัวคลานหน้าตั้งไปยังต้นเสียง จิ้งจกสีดำที่แอบดูพฤติกรรมของมันอย่างใกล้ชิด 2 ตัว มองหน้าแล้วส่งยิ้มให้กัน
ห้อง15 ภาคสองคงจะออกมาเร็วๆ นี้ว่ะ ตัวแรกเปรย
มันคงเลิกหลงไหลรสเบียร์แล้วไปชอบน้ำอย่างอื่นแทนแน่ ตัวที่สองเสริม
************************************************************************************