15 ตุลาคม 2548 10:31 น.
ใจกระดาษ
เมื่อสามวันก่อน..ฉันอกหัก..แยกทางกับผู้ชายที่ฉันรักมากที่สุด.....
เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าอาการผิดหวังในความรักมันทำให้เราเศ
ร้า แล้วก็หดหู่ขนาดนี้ โตมาจนป่านนี้เพิ่งจะรู้......น้ำตามันเอ่อออกมา
ตลอดเวลา แค่นึกขึ้นมาว่าเค้าได้พูดอะไรกับเราก่อนทุกอย่างจะจบลง
มันก็ไหลออกมาเป็นทางหยุดไม่ได้ ฉันไม่อยากนอนเพราะกลัวฝัน ขนาดฝันยัง
ร้องไห้มันเศร้าจริงๆ
เมื่อคืนนี้.....พ่อมานั่งลงตรงเก้าอี้สนามข้างๆ ฉัน เอามือมาขยิ้หัว
ฉัน แล้วถามฉันว่า....
ลูกจำได้รึปล่าว ว่าลูกเคยเสียใจมากที่สุดเรื่องอะไร
ฉันกลั้นน้ำตาตอบพ่อโดยไม่ต้องคิดเลย...
ครั้งนี้แหละค่ะ หนูเสียใจ แล้วก็ร้องไห้มากที่สุดในชีวิตเลย หนูไม่มีทาง
ลืมความเจ็บปวด ความเสียใจคราวนี้ง่ายๆ ค่ะพ่อ
หนูรักเค้ามากเหรอลูก พ่อยังคงถามฉันต่อมาก
พ่อคะ.....มีผู้ชายแค่สองคนที่หนูรักเท่าชีวิตของหนู คนแรกก็คือพ่อ คนที่
สองก็คือเค้า หนูไม่รู้จริงๆ ว่าวันข้างหน้า หนูจะรักใครได้เท่านี้อีกรึปล่าว
พ่อยิ้มแล้วดึงฉันเข้าไปนั่งใกล้ๆ คราวนี้ฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว
พรั่งพรูความเจ็บช้ำเสียใจทุกอย่าง.. พ่อโอบฉันไว้นิ่งๆ จนฉันหยุด
พ่อก็ถามฉันว่า
ลูกว่าตอนที่พ่อตีลูก เพราะจับได้ว่าลูกขโมยเงินพ่อน่ะ ลูกเจ็บมากรึปล่าว
น่าจะเจ็บนะ ก็พ่อฟาดหนูด้วยเข็มขัดนี่หน่า ตีทีเดียวแต่น่องหนูแดงเป็น
ปื้นไปหลายวันเลย หนูจำได้ว่าย่าต้องแอบเอายามาทาให้หนู แต่พ่อ
ค่ะมันเจ็บไม่ถึงครึ่งของครั้งนี้เลย หนูเจ็บมาก เจ็บจนบอกไม่ถูก
ลูกจำไม่ได้หรอก พอพ่อตีลูกแล้ว ลูกก็ขึ้นไปนอนร้องไห้ พ่อตามไปถามว่าลูก
จะทำอีกมั๊ย....ลูกบอกพ่อว่าลูกเข็ดแล้ว ลูกเสียใจมาก จะไม่
ทำอีกแล้ว ครั้งนั้นลูกก็เสียใจใช่มั๊ยล่ะฉันรับคำพ่อเบาๆ เพราะความเสียใจ
ครั้งนั้นมันเลือนรางมากแล้ว
แล้วตอนลูกสอบไม่ผ่านล่ะ ลูกจำได้รึปล่าว ว่าลูกเสียใจขนาดไหน
ครั้งนั้นหนูผิดหวัง โกรธตัวเองที่ทำไม่ได้ เสียใจที่ทำให้พ่อผิดหวัง
ฉันจำได้ดีว่าฉันเสียใจ ร้องไห้สะอึกสะอื้นที่สอบไม่ได้ ร้องไห้ พ่อแม่
ต้องปลอบอยู่เป็นอาทิตย์กว่าฉันจะทำใจได้
อืม...เทียบกับครั้งนี้....ตอนไหนเสียใจมากกว่ากันล่ะ
ฉันยังคงยืนยันว่าครั้งนี้ฉันเสียใจมากจริงๆ มันคงต้องอาศัยเวลา
นานกว่าทุกครั้งกว่าฉันจะทำใจได้...
พ่อโอบฉันแน่นขึ้น แล้วพูดว่า
นานแค่ไหน ลูกก็จะลืมมันได้ จะช้าหรือเร็วมันก็จะผ่านไป กลายเป็นแค่ความ
ทรงจำเก่า ต่อไปพอลูกนึกถึง ลูกก็แค่จำได้ว่าลูกเสียใจ แต่
ลูกจะไม่รู้สึกเสียใจอีกแล้ว เชื่อพ่อสิ....เหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา....
อนาคตมันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกลูก วันข้างหน้าลูกก็อาจจะเจอ
เรื่องร้ายๆ กว่านี้ ลูกก็จะบอกพ่อว่าลูกเสียใจที่สุดในชีวิต ลูกทำใจไม่ได้อีก
ฉันนิ่งฟังพ่อ เข้าใจดีถึงสิ่งที่ท่านพยายามจะบอกฉัน
ฉะนั้นอะไรที่ลูกคิดว่า รักที่สุด เสียใจที่สุด มันไม่จริงหรอกลูก วัน
ข้างหน้าลูกก็จะเจอสิ่งที่เป็นที่สุดของ
ที่สุด และทางที่ลูกยังต้องเดินมันอีกยาวไกล ลูกต้องแข็งแรง แล้วก็ตั้งสติดีๆ
ฉันกอดพ่อนิ่ง ไม่รู้จะขอบคุณด้วยวิธีไหนได้ดีกว่านี้ ............
เช้าวันนี้......ฉันยิ้มได้อีกครั้ง.........กลับเป็นฉันคนเดิม.....
มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังค้างคาอยู่ในใจ คือสิ่งที่ฉันยังไม่ได้บอก
พ่อ
พ่อคะ จริงๆ ครั้งที่หนูเสียใจมากที่สุดในชีวิต ไม่ใช่ตอนที่พ่อตีหนู ไม่
ใช่ตอนที่หนูสอบไม่ผ่าน แล้วก็ไม่ใช่ตอนที่หนูเลิกกับเค้า.....แต่มันคือ
ตอนที่พ่อจากหนูไปต่างหาก หลับให้สบายนะคะพ่อ....อย่าเป็นห่วงหนูเลย.....
หนูจะเข้มแข็งและดูแลตัวเองให้ดีที่สุด..หนูรักพ่อที่สุดค่ะ
14 ตุลาคม 2548 19:29 น.
ใจกระดาษ
...ไม่รู้ตัวเลยว่า...
สายตาของฉัน อยู่ที่เธอ
ซึ่งกำลังทักทายใครๆ
มัวแต่มองเธอ อยู่ผู้เดียว
แล้วพออยู่ใกล้ๆหัวใจก็แทบจะระเบิด
...เธอจะรู้มั้ยนะ...
ความรู้สึกของฉันที่เธอไม่รับรู้
ว่าฉัน..รักเธอแค่ไหน...
จุน..เขียนยังงี้กับเขาเป็นด้วยหรอ เอริพูดขึ้น
จุนรีบเก็บกระดาษนั้นทันที
แหม..ไม่ยักรู้ว่าเขียนหวานๆเป็นด้วย..จะบอกรักใครหรอ มันก็ถึงวาเลนไทน์แล้วเนอะ แหม...ไม่เบาเลยนะจุนนี่
เธอ..เธออย่ามายุ่งเรื่องของฉันได้ไหม จุนพูดกับเอริอย่างที่ไม่เคยพูดน้ำเสียงแบบนี้มาก่อน
ฉันขอโทษนะที่ยุ่งเรื่องของเธอมากไป ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของเธออีกแล้วแหละจ๊ะ เอริก้มหน้าพูดกับจุน แล้วจึงเดินออกจากห้องเรียนไป ระหว่างทางเดินนั้นเอริก็เจอกับโซโกะพอดี เอริทำหน้าเศร้าแล้วยิ้มให้โซโกะ โซโกะถามต่อว่า
เอริ..เป็นไรหรือป่าวโซโกะพูดพร้อมทั้งจับที่มือของเอริ
ป่าว..ป่าว..ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ฉันสบายดีนี่ ฮ่าๆๆๆ เอริทำท่าทางสนุกสนานแต่หน้าตาไม่ใช่อย่างนั้น โซโกะจึงมองที่ตาของเอริอย่างเป็นห่วง เลยพูดต่อว่า
เอริไม่เป็นไรแน่นะ....เราเป็นเพื่อนกันนะ..มีอะไรก็บอกกันสิโซโกะมองตาเอริ
แล้วพอเอริจะบอกว่า ไม่ได้เป็นอะไร แล้วน้ำของเอริก็ไหลออกมาโดยที่เอริไม่ต้องการให้ไหล โซโกะได้แต่กอดเอริเอาไว้อย่างอ่อนโยน แล้วก็พลอยที่จะน้ำตาไหลไปด้วย เอริพูดกับโซโกะทั้งน้ำตาว่า
เรามันไม่ดีมากเลยใช่ไหมที่ทำให้เค้าโกรธอย่างนี้..เรามันแย่มากเลยใช่ไหม...โซโกะ...ทำไมนะ...ทำไมฉันถึงเจ็บปวดขนาดนี้ ฉันไม่เคยเห็นจุนพูดอย่างนั้นกับฉันเลย ทำไมถึงเจ็บปวดขนาดนี้นะ โซโกะได้แต่ปลอบแล้วพูดขึ้นว่า
เอริรู้มั้ย ความรู้สึกที่เอริมีต่อจุนน่ะ มันเกินเพื่อนแล้วนะ..เอริรักจุนมากเลยนะ..ฉันรู้ ..ถ้าเอริรักจุนเอริก็บอกจุนไปสิ เอริจะทนเจ็บปวดแบบนี้หรอ เจ็บครั้งเดียวแล้วรู้คำตอบ...ดีกว่าเจ็บแบบนี้แล้วไม่รู้อะไรเลยนะ
แต่เธอจะให้ฉันทำไงล่ะ เอริพูด
เธอก็ต้องบอกให้จุนรู้ถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อเข้าสิ อย่าปิดบังเลยนะ ฉันจะช่วยเธอเอง ยังไงเพื่อนก็ไม่ทิ้งกันอยู่แล้วจิงป่ะ โซโกะพูด จึงทำให้เอริพอจะยิ้มออกแล้ว
วันวาเลนไทน์ก็มาถึง....
ตั้งแต่เอริจะออกจากบ้านมาโรงเรียน เอริก็เห็นแม่ยื่นเสื้อไหมพรมให้พ่อ แล้วพ่อก็หอมแก้มแม่ด้วยน้ำตาคลอแล้วพูดว่า ผมรักคุณนะมันทำให้เอริรู้สึกดีมากๆ และระหว่างทางที่เอริจะเดินไปโรงเรียนกับจุนทั้งสองก็ได้เดินข้ามทางรถไฟมาแวะทุ่งดอกไม้ที่อยู่ข้างทาง แล้วเอริก็พูดขึ้นว่า
จุน...ฉันมารัยจะบอก
อะไรหรอ จุนหันหน้ามาทางเอริแล้วตอบ
จุนฉัน...............ชอบเธอแต่จุนได้ยินประโยคหลังไม่ชัดเพราะเสียงลมที่แรงและเสียงรถไฟที่วิ่งผ่านเลยไม่ได้ยิน จุนก็เลยถามว่า
เมื่อกี้เธอพูดว่าไงนะ ฉันไม่ได้ยินเลย
เมื่อกี้ฉันพูดว่า........... เอริพูดแล้วหน้าแดงขึ้นมา แล้วเอริเลยพูดไปที่ข้างหูจุนว่า...
ฉัน....รัก....เธอ...นะ....อีตาบ้า เอริยิ้มแล้วมองไปที่จุน แต่จุนไม่ทันจะพูดอะไร เลยวิ่งไปเสียก่อน เอริได้แต่คิดว่านั้นคือคำตอบของจุน เอริเลยน้ำตาคลอเลยหันหลังกลับจะเดินไปโรงเรียน แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมา นั้นเป็นเสียงของจุนนั้นเอง
เอริ.. จุนเรียก
พอเอริหันกลับไป เธอก็พบว่าผู้ชายที่เธอบอกรักเมื่อกี้ยื่นกระดาษใบหนึ่งให้เธอซึ่งเป็นกระดาษใบดียวกันที่จุนเขียนคราวก่อน แล้วจุนเลยยื่นช่อดอกกุหลาบแดงให้เอริ เอริจึงทำหน้า งงๆ แล้วถามว่า
ให้ฉันทำไม หรือ จะให้ฉันเป็นแม่สื่อให้
จุนจึงจับมือเอริขึ้นพร้อมกับแนบมือของเอริมาที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองพร้อมพูดว่า
ฉัน....ก็...รัก....เธอ...นะ....ยัยเบ๊อะ จุนยิ้มหน้าแดงเช่นกัน พร้อมกับกอดเอริไว้อย่างอ่อนโยน แล้วพูดกับเอริว่า
เพราะอะไรรู้ไหมฉันถึงรักเธอ
แล้วฉันจะรู้ได้ไงล่ะ เอริมองหน้าจุนแล้วตอบ
ก็เพราะมีเอริยืนอยู่ตรงนี้ไง...ถ้าไม่มีเอริ...จุนก็คงไม่มีใคร จุนพูดพร้อมทั้งจูบหน้าผากเอริอย่างเบาๆ
แล้วขอโทษเรื่องกระดาษใบนั้นด้วยนะ วันนั้นฉันอายน่ะเลยพูดไปอย่างนั้นจุนพูด
ไม่เป็นไรจ๊ะ ฉันให้อภัย เอริตอบ
แล้วทั้งคู่ก็เดินไปโรงเรียนด้วยกัน แต่เมื่อไปถึงโรงเรียนทุกคนต่างจ้องมองทั้งคู่ด้วยความ งงๆ เพราะทั้งคู่ไม่เหมือนเดิมเลยเพราะ ตอนนี้จุนขวัญใจสาวๆมาโรงเรียนมีกระเป๋าสองใบน่ะสิ และข้างๆจุนก็เป็นเอริสาวป๊อปประจำโรงเรียนที่คอยถือน้ำให้จุนกินเวลาเหนื่อย และนี่เองก็เป็นจุดเริ่มต้นของพวกเขาตอนนี้นั่นเอง ก็คือ
ที่ใดมีจุนที่นั่นต้องมีเอริ....ที่ใดมีเอริที่นั่นก็ต้องมีจุน
ทั้งคู่เหมือนปาท่องโก๋ที่แยกจากกันไม่ได้ไปแล้วนั่นเอง จนกลายเป็นที่อิจฉาในความรักของทั้งสองคนนั่นเอง
14 ตุลาคม 2548 18:05 น.
ใจกระดาษ
ยัยเอริ..ตื่นได้แล้ว..จะนอนไปถึงไหน..ยัยเบ๊อะ
เสียงตะโกนของ..จุน หนุ่มน้อยข้างบ้านที่หน้าตาดีประเภทสาวเห็นเป็นต้องกรี๊ดดังขึ้นมาจากหน้าบ้านของ...เอริ...สาวน้อยที่หน้าหน้าจัดว่าเป็นสาวป๊อปประจำโรงเรียนเลยก็ว่าได้ แต่เสียอย่างเดียวชอบตื่นสายเป็นที่สุด
โอ๊ย! เสียงจุนดังขึ้นมาอีกครั้ง
ยัยบ้า!โยนหนังสือใส่กันอย่างนี้ได้ไง...เจ็บนะ จุนตะโกนพร้อมมองขึ้นไปที่ชั้นสองซึ่งมีเด็กผู้หญิงยืนอยู่ตรงขอบหน้าต่าง นั้นก็คือสาวน้อยเอรินั่นเอง
อีตาบ้า! ไม่มีรัยเล่นแล้วหรือไง..ตะโกนบ้าอะไรอยู่ได้ เอริตะโกนตอบด้วยท่าทางที่ยังงัวเงียอยู่
อ้าว!เธอน่ะสิบ้า..ฉันเรียกเธอตั้งนานเธอก็ไม่ยอมตื่นเองนะ..ยัยเบ๊อะ..รีบไปแต่งตัวซะเดี๋ยวไปโรงเรียนสายอีกหรอก
ทะเลาะกันอีกแล้วนะ...จุนคุงเข้ามาก่อนสิจ๊ะ...น้าทำอาหารเช้าเสร็จพอดีเลยจ๊ะ แม่ของเอริเดินมาเปิดประตูให้จุน
คุณน้าว่าไหมครับ...ยัยเอรินี่สงสัยต้องใช้นาฬิกาปลุกซักสิบเรือนถึงจะเอาอยู่..ฮ่าๆๆๆ จุนพูดกับแม่ของเอริด้วยเสียงที่อารมณ์ดีอีกเช่นเคย
น้าก็ว่าอย่างนั้นแหละจ๊ะ..ถ้าไม่ได้จุนคุงมาปลุกทุกวัน..น้าก็คงปลุกยัยเอริปวดหัวตายเลยจ๊ะ ^_^
แหม!แม่ก็..ถึงหนูไม่มีอีตาบ้านี่มาปลุก หนูก็ตื่นเองได้น่ะ เอริพูดขึ้นมาในขณะที่กำลังลงมาจากชั้นบน
ฮ่าๆๆๆ..อย่างเธอนี่นะจะตื่นเองง่ายๆ ^_^ นายจุนพูดขึ้นพร้อมทำหน้าทะเล้นใส่เอริ
อีตาบ้า!ดูถูกกันไปมากแล้วนะ ปึก เอริเอากระเป๋านักเรียนตีจุนเข้าอย่างแรง..แล้วทั้งคู่ก็ทะเลาะกันอีกเช่นเคย
ทั้งสองคนพอได้แล้วจ๊ะ.ไปโรงเรียนกันได้แล้ว...นี่เหลืออีกห้านาทีก็สองโมงแล้วนะจ๊ะ แม่ของเอริพูดขึ้น
ทั้งสองชะงักศึก แล้วมองหน้ากันพูดพร้อมกันว่า อะไรนะ!..จะสองโมงแล้ว
ณ โรงเรียนมัธยมเอกชนแห่งหนึ่ง
( ปี 2 ห้อง 1 )
ตกลงว่า ฮานามูระ เอริ กับ ยูยะ จุน ไม่มานะ เสียงเช็คชื่อเสร็จของอาจารย์ประจำห้องดังขึ้น
ทั่ก..ทั่ก..ทั่ก ( เสียงวิ่งดังขึ้นมา ) ครืด!!!!!!!!!!!! (ประตูเปิดออก)
อาจารย์ค่ะ ฮานามูระ เอริ มาค่ะ , ยูยะ จุน ก็มาแล้วครับ ทั้งคู่ตะโกนตอบ ด้วยอาการที่เหนื่อยหอบ
อาจารย์มองหน้าทั้งคู่อย่างไม่เป็นมิตรเท่าไร พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงดุว่า มาสายทั้งคู่เลยหรอ..ออกไปยืนหน้าห้องซักชั่วโมงเลยไป เอริกับจุนเลยต้องออกมาหน้าห้องตามระเบียบ แต่ก็ไม่วายที่จะทะเลาะกัน
เพราะเธอนั่นแหละทำให้ฉันมาสายเลยเห็นมั้ย จุนบ่นรำพึงรำพันขึ้นมา
อ้าว!นายมาว่าฉันคนเดียวได้ไงย่ะ ถ้านายไม่ชวนฉันทะเลาะก็คงไม่มาสายหรอก..อีตาบ้า
คำก็บ้า...สองคำก็บ้า..เธอคุยกับคนบ้ารู้เรื่อง..เธอก็บ้าเหมือนกันแหละว่ะยัยเฟอะ จุนแลบลิ้นใส่เอริ
ในเวลาพักกลางวัน
นี่เอริฉันถามอะไรหน่อยสิ โซโกะเพื่อนสนิทเอริพูดขึ้นมา
ถามอะไรล่ะ..ก็ถามมาสิ เอริตอบ
เธอพูดแล้วนะ..แล้วเธอต้องตอบฉันมาตามตรงด้วย
อืมได้สิ..ทำไมจะไม่ได้
นี่..เอริเธอคิดไงกับยูยะคุงหรอ(จุน)
ป่าวนี่..ก็ไม่ได้คิดอะไรนี่..ก็แค่เพื่อนที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กเท่านั้นเอง เอริตอบ
เพื่อนหรอ..แต่เอ๊ะ!..ทำไมเอริต้องหน้าแดงด้วยนี่..ไม่มีรัยจริงอ่ะ โซโกะมองเอริอย่างสงสัย
ก็จิงดิ..ฉันคงไม่เอาอีตาบ้านั่นมาเป็นแฟนหรอกย่ะ เอริพูดอย่างเขินๆ
โห้...น่าเสียดายออก ยูยะคุงเค้าออกจะทั้งหล่อ เล่นกีฬาก็เก่ง เรียนก็ดี ไปซะทุกอย่าง..เธอได้อภิสิทธิ์เหนือกว่าคนอื่นอีกนะนี่ แต่ทำไมปล่อยให้โอกาสหลุดไปง่ายๆย่ะนี่ โซโกะเอียงหูเข้าไปใกล้เอริแล้วพูดว่า
ถ้ายูยะเค้ามีแฟนจะมาร้องไห้ทีหลังไม่ได้นะจ๊ะ
มีก็มีไปสิ.บ้าหรอ..ไร้สาระ....ฉันไปห้องน้ำดีกว่า โซโกะก็เลยมองตามเอริแล้วพูดเบาๆขึ้นว่า
ปากกับใจไม่ตรงกันอีกแล้วยัยนี่
ทางด้านเอริ ซึ่งอยู่ในห้องน้ำ เอริคิดขึ้นในใจว่า
ยัยเพื่อนบ้าพูดอะไรก็ไม่รู้....ใครเค้าจะชอบนายนั่นได้ลง..แต่ทำไมใจเราต้องเต้นแรงด้วยนี่...เราไม่ได้ชอบนายนั่นซะหน่อยนะ เอริยิ้มนิดๆแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ
ระหว่างที่เอริกำลังจะเดินไปที่ห้องเรียนนั่น ระหว่างทางก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังแว่วขึ้นมา จึงเดินไปทางเสียงนั่นแล้วก็พบกับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักๆคนนึงกำลังจะสารภาพรักกับชายหนุ่มคนนึง แต่ใครคนนั่นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนายจุนนั่นเอง
พี่ยูยะค่ะ....คือว่า...ฉันชอบพี่มานานแล้วค่ะ ถ้าพี่ไม่รังเกียจ....พี่ช่วยกรุณา..เอ่อ แต่เด็กผู้หญิงไม่ทันจะพูดจบ นายจุนก็พูดขึ้นมาว่า
พี่ดีใจนะที่น้องชอบพี่...แต่ขอโทษนะพี่คงคิดอะไรไปมากกว่านั่นไม่ได้หรอก พี่ขอรับแค่น้ำใจก็พอนะ พี่เชื่อว่าน้องคงเจอคนที่ดีกว่าพี่แน่นอน เมื่อพูดจบเด็กผู้หญิงคนนั้นจึงยิ้มแล้วิ่งออกไปทั้งน้ำตา
นายจุนนี่ทำไมกับคนอื่นพูดดีจัง..แต่กับเรานี่สิไม่เคยพูดดีๆเป็นกับเค้าบ้างเลย เฮ้อ... เอริคิดในใจ
พอจุนเดินออกมาแล้วเจอกับเอริเข้า เลยทำท่าทางตกใจนิดหน่อย เลยพูดขึ้นว่า
เฮ้ย!!!!เธอมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ก็ตั้งแต่ตอนที่นายโดนสารภาพรักนั่นแหละ แหวะ ทีกับคนอื่นพูดดีจัง แต่ทำไมกับฉันไม่พูดอย่างนี้บ้างฮะ เอริพูดขึ้น
ฮ่าๆๆๆพูดกับเธอนี่นะ....ยัยเบ๊อะ....ฉันแสลงปากตัวเองยังไงไม่รู้ถ้าพูดยังงี้กับเธอน่ะจุนหัวเราะขึ้น
อีตาบ้า!มากไปแล้วนะ...หยุดเดี๋ยวนี้ จุนวิ่งหนีเอริ
ระหว่างทางกลับบ้าน
นี่จุนทำไมวันนี้คนเยอะผิดปกตินะเอริถามอย่างสงสัย
เธอนี้..สวยก็ไม่สวยแถมยังไม่ฉลาดอีกนะ ก็มันจะถึงเทศการวาเลนไทน์แล้วไงยัยเบ๊อะ
นี่...นายว่าฉันไม่สวยแล้วว่าฉันโง่อีกหรอ
ฉันป่าวว่านะ...เธอพูดของเธอเอง ฮ่าๆๆๆ
เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว เอริก็เลยถามแม่ว่า....
แม่ค่ะ..แม่ถักเสื้อไหมพรมทำไมหรอค่ะ
ก็ใกล้จะถึงวันวาเลนไทน์แล้วไงจ๊ะ..แม่กะว่าจะถักให้พ่อซะหน่อยอ่ะจ๊ะ แม่พูดแล้วยิ้มเขินๆนิดๆ
แล้วแม่ก็พูดต่อว่า
แล้ววาเลนไทน์..เราไม่หาเตรียมของให้จุนคุงมั่งหรอจ๊ะ แม่พูดกับเอริ
บ้าหรอค่ะแม่..อีตาบ้านั่นไม่ใช่แฟนหนูสักหน่อย ทำไมหนูต้องเตรียมให้ตานั่นด้วยเอริพูดโวยวายเพื่อกลบเกลื้อนอาการเขินที่มีอยู่ แล้วก็เดินขึ้นห้องไป
แม่พูดอะไรก็ไม่รู้...ใครเค้าจะให้ของอีตาบ้านั่นกันเอริพูดขึ้นแล้วโน้มตัวลงบนที่นอน แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเขินๆ แล้วนึกขึ้นว่า
ทำไมหมู่นี้..พูดถึงตานั่นขึ้นมาแล้วเราต้องใจเต้นแรงทุกครั้งเลยนี่...ไม่นะ..ไม่นะ..เราคงไม่ได้ชอบตานั่นหรอก
แม่ค่ะ...หนูไปโรงเรียนแล้วนะค่ะ..เอริกับจุนก็ไปโรงเรียนตามปกติ
นี่...เอริตอนเที่ยงนี้จะกินอะไรกันดีอ่ะโซโกะ...ถามเอริขึ้น
เดี๋ยวเธอไปกินก่อนนะเดี๋ยวฉันตามไป เอริตอบ
เอริเดินมาทางจุน ซึ่งกำลังตั้งใจเขียนอะไรสักอย่าง..อย่างตั้งใจมาก เอริเดินไปข้างหลังจุน ตอนแรกกะจะทำให้จุนตกใจ แต่ดันไปมองกระดาษที่จุนกำลังเขียนอยู่ เมื่อเอริอ่านในกระดาษของจุนก็ทำให้เอริเหมือนผิดหวังกับอะไรสักอย่าง ในกระดาษจุนเขียนไว้ว่า...
(เรื่องราวจะเป็นยังไงโปรดติดตามครั้งหน้านะค่ะ)
14 ตุลาคม 2548 17:59 น.
ใจกระดาษ
ยัยเอริ..ตื่นได้แล้ว..จะนอนไปถึงไหน..ยัยเบ๊อะ
เสียงตะโกนของ..จุน หนุ่มน้อยข้างบ้านที่หน้าตาดีประเภทสาวเห็นเป็นต้องกรี๊ดดังขึ้นมาจากหน้าบ้านของ...เอริ...สาวน้อยที่หน้าหน้าจัดว่าเป็นสาวป๊อปประจำโรงเรียนเลยก็ว่าได้ แต่เสียอย่างเดียวชอบตื่นสายเป็นที่สุด
โอ๊ย! เสียงจุนดังขึ้นมาอีกครั้ง
ยัยบ้า!โยนหนังสือใส่กันอย่างนี้ได้ไง...เจ็บนะ จุนตะโกนพร้อมมองขึ้นไปที่ชั้นสองซึ่งมีเด็กผู้หญิงยืนอยู่ตรงขอบหน้าต่าง นั้นก็คือสาวน้อยเอรินั่นเอง
อีตาบ้า! ไม่มีรัยเล่นแล้วหรือไง..ตะโกนบ้าอะไรอยู่ได้ เอริตะโกนตอบด้วยท่าทางที่ยังงัวเงียอยู่
อ้าว!เธอน่ะสิบ้า..ฉันเรียกเธอตั้งนานเธอก็ไม่ยอมตื่นเองนะ..ยัยเบ๊อะ..รีบไปแต่งตัวซะเดี๋ยวไปโรงเรียนสายอีกหรอก
ทะเลาะกันอีกแล้วนะ...จุนคุงเข้ามาก่อนสิจ๊ะ...น้าทำอาหารเช้าเสร็จพอดีเลยจ๊ะ แม่ของเอริเดินมาเปิดประตูให้จุน
คุณน้าว่าไหมครับ...ยัยเอรินี่สงสัยต้องใช้นาฬิกาปลุกซักสิบเรือนถึงจะเอาอยู่..ฮ่าๆๆๆ จุนพูดกับแม่ของเอริด้วยเสียงที่อารมณ์ดีอีกเช่นเคย
น้าก็ว่าอย่างนั้นแหละจ๊ะ..ถ้าไม่ได้จุนคุงมาปลุกทุกวัน..น้าก็คงปลุกยัยเอริปวดหัวตายเลยจ๊ะ ^_^
แหม!แม่ก็..ถึงหนูไม่มีอีตาบ้านี่มาปลุก หนูก็ตื่นเองได้น่ะ เอริพูดขึ้นมาในขณะที่กำลังลงมาจากชั้นบน
ฮ่าๆๆๆ..อย่างเธอนี่นะจะตื่นเองง่ายๆ ^_^ นายจุนพูดขึ้นพร้อมทำหน้าทะเล้นใส่เอริ
อีตาบ้า!ดูถูกกันไปมากแล้วนะ ปึก เอริเอากระเป๋านักเรียนตีจุนเข้าอย่างแรง..แล้วทั้งคู่ก็ทะเลาะกันอีกเช่นเคย
ทั้งสองคนพอได้แล้วจ๊ะ.ไปโรงเรียนกันได้แล้ว...นี่เหลืออีกห้านาทีก็สองโมงแล้วนะจ๊ะ แม่ของเอริพูดขึ้น
ทั้งสองชะงักศึก แล้วมองหน้ากันพูดพร้อมกันว่า อะไรนะ!..จะสองโมงแล้ว
ณ โรงเรียนมัธยมเอกชนแห่งหนึ่ง
( ปี 2 ห้อง 1 )
ตกลงว่า ฮานามูระ เอริ กับ ยูยะ จุน ไม่มานะ เสียงเช็คชื่อเสร็จของอาจารย์ประจำห้องดังขึ้น
ทั่ก..ทั่ก..ทั่ก ( เสียงวิ่งดังขึ้นมา ) ครืด!!!!!!!!!!!! (ประตูเปิดออก)
อาจารย์ค่ะ ฮานามูระ เอริ มาค่ะ , ยูยะ จุน ก็มาแล้วครับ ทั้งคู่ตะโกนตอบ ด้วยอาการที่เหนื่อยหอบ
อาจารย์มองหน้าทั้งคู่อย่างไม่เป็นมิตรเท่าไร พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงดุว่า มาสายทั้งคู่เลยหรอ..ออกไปยืนหน้าห้องซักชั่วโมงเลยไป เอริกับจุนเลยต้องออกมาหน้าห้องตามระเบียบ แต่ก็ไม่วายที่จะทะเลาะกัน
เพราะเธอนั่นแหละทำให้ฉันมาสายเลยเห็นมั้ย จุนบ่นรำพึงรำพันขึ้นมา
อ้าว!นายมาว่าฉันคนเดียวได้ไงย่ะ ถ้านายไม่ชวนฉันทะเลาะก็คงไม่มาสายหรอก..อีตาบ้า
คำก็บ้า...สองคำก็บ้า..เธอคุยกับคนบ้ารู้เรื่อง..เธอก็บ้าเหมือนกันแหละว่ะยัยเฟอะ จุนแลบลิ้นใส่เอริ
ในเวลาพักกลางวัน
นี่เอริฉันถามอะไรหน่อยสิ โซโกะเพื่อนสนิทเอริพูดขึ้นมา
ถามอะไรล่ะ..ก็ถามมาสิ เอริตอบ
เธอพูดแล้วนะ..แล้วเธอต้องตอบฉันมาตามตรงด้วย
อืมได้สิ..ทำไมจะไม่ได้
นี่..เอริเธอคิดไงกับยูยะคุงหรอ(จุน)
ป่าวนี่..ก็ไม่ได้คิดอะไรนี่..ก็แค่เพื่อนที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กเท่านั้นเอง เอริตอบ
เพื่อนหรอ..แต่เอ๊ะ!..ทำไมเอริต้องหน้าแดงด้วยนี่..ไม่มีรัยจริงอ่ะ โซโกะมองเอริอย่างสงสัย
ก็จิงดิ..ฉันคงไม่เอาอีตาบ้านั่นมาเป็นแฟนหรอกย่ะ เอริพูดอย่างเขินๆ
โห้...น่าเสียดายออก ยูยะคุงเค้าออกจะทั้งหล่อ เล่นกีฬาก็เก่ง เรียนก็ดี ไปซะทุกอย่าง..เธอได้อภิสิทธิ์เหนือกว่าคนอื่นอีกนะนี่ แต่ทำไมปล่อยให้โอกาสหลุดไปง่ายๆย่ะนี่ โซโกะเอียงหูเข้าไปใกล้เอริแล้วพูดว่า
ถ้ายูยะเค้ามีแฟนจะมาร้องไห้ทีหลังไม่ได้นะจ๊ะ
มีก็มีไปสิ.บ้าหรอ..ไร้สาระ....ฉันไปห้องน้ำดีกว่า โซโกะก็เลยมองตามเอริแล้วพูดเบาๆขึ้นว่า
ปากกับใจไม่ตรงกันอีกแล้วยัยนี่
ทางด้านเอริ ซึ่งอยู่ในห้องน้ำ เอริคิดขึ้นในใจว่า
ยัยเพื่อนบ้าพูดอะไรก็ไม่รู้....ใครเค้าจะชอบนายนั่นได้ลง..แต่ทำไมใจเราต้องเต้นแรงด้วยนี่...เราไม่ได้ชอบนายนั่นซะหน่อยนะ เอริยิ้มนิดๆแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ
ระหว่างที่เอริกำลังจะเดินไปที่ห้องเรียนนั่น ระหว่างทางก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังแว่วขึ้นมา จึงเดินไปทางเสียงนั่นแล้วก็พบกับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักๆคนนึงกำลังจะสารภาพรักกับชายหนุ่มคนนึง แต่ใครคนนั่นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนายจุนนั่นเอง
พี่ยูยะค่ะ....คือว่า...ฉันชอบพี่มานานแล้วค่ะ ถ้าพี่ไม่รังเกียจ....พี่ช่วยกรุณา..เอ่อ แต่เด็กผู้หญิงไม่ทันจะพูดจบ นายจุนก็พูดขึ้นมาว่า
พี่ดีใจนะที่น้องชอบพี่...แต่ขอโทษนะพี่คงคิดอะไรไปมากกว่านั่นไม่ได้หรอก พี่ขอรับแค่น้ำใจก็พอนะ พี่เชื่อว่าน้องคงเจอคนที่ดีกว่าพี่แน่นอน เมื่อพูดจบเด็กผู้หญิงคนนั้นจึงยิ้มแล้วิ่งออกไปทั้งน้ำตา
นายจุนนี่ทำไมกับคนอื่นพูดดีจัง..แต่กับเรานี่สิไม่เคยพูดดีๆเป็นกับเค้าบ้างเลย เฮ้อ... เอริคิดในใจ
พอจุนเดินออกมาแล้วเจอกับเอริเข้า เลยทำท่าทางตกใจนิดหน่อย เลยพูดขึ้นว่า
เฮ้ย!!!!เธอมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ก็ตั้งแต่ตอนที่นายโดนสารภาพรักนั่นแหละ แหวะ ทีกับคนอื่นพูดดีจัง แต่ทำไมกับฉันไม่พูดอย่างนี้บ้างฮะ เอริพูดขึ้น
ฮ่าๆๆๆพูดกับเธอนี่นะ....ยัยเบ๊อะ....ฉันแสลงปากตัวเองยังไงไม่รู้ถ้าพูดยังงี้กับเธอน่ะจุนหัวเราะขึ้น
อีตาบ้า!มากไปแล้วนะ...หยุดเดี๋ยวนี้ จุนวิ่งหนีเอริ
ระหว่างทางกลับบ้าน
นี่จุนทำไมวันนี้คนเยอะผิดปกตินะเอริถามอย่างสงสัย
เธอนี้..สวยก็ไม่สวยแถมยังไม่ฉลาดอีกนะ ก็มันจะถึงเทศการวาเลนไทน์แล้วไงยัยเบ๊อะ
นี่...นายว่าฉันไม่สวยแล้วว่าฉันโง่อีกหรอ
ฉันป่าวว่านะ...เธอพูดของเธอเอง ฮ่าๆๆๆ
เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว เอริก็เลยถามแม่ว่า....
แม่ค่ะ..แม่ถักเสื้อไหมพรมทำไมหรอค่ะ
ก็ใกล้จะถึงวันวาเลนไทน์แล้วไงจ๊ะ..แม่กะว่าจะถักให้พ่อซะหน่อยอ่ะจ๊ะ แม่พูดแล้วยิ้มเขินๆนิดๆ
แล้วแม่ก็พูดต่อว่า
แล้ววาเลนไทน์..เราไม่หาเตรียมของให้จุนคุงมั่งหรอจ๊ะ แม่พูดกับเอริ
บ้าหรอค่ะแม่..อีตาบ้านั่นไม่ใช่แฟนหนูสักหน่อย ทำไมหนูต้องเตรียมให้ตานั่นด้วยเอริพูดโวยวายเพื่อกลบเกลื้อนอาการเขินที่มีอยู่ แล้วก็เดินขึ้นห้องไป
แม่พูดอะไรก็ไม่รู้...ใครเค้าจะให้ของอีตาบ้านั่นกันเอริพูดขึ้นแล้วโน้มตัวลงบนที่นอน แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเขินๆ แล้วนึกขึ้นว่า
ทำไมหมู่นี้..พูดถึงตานั่นขึ้นมาแล้วเราต้องใจเต้นแรงทุกครั้งเลยนี่...ไม่นะ..ไม่นะ..เราคงไม่ได้ชอบตานั่นหรอก
แม่ค่ะ...หนูไปโรงเรียนแล้วนะค่ะ..เอริกับจุนก็ไปโรงเรียนตามปกติ
นี่...เอริตอนเที่ยงนี้จะกินอะไรกันดีอ่ะโซโกะ...ถามเอริขึ้น
เดี๋ยวเธอไปกินก่อนนะเดี๋ยวฉันตามไป เอริตอบ
เอริเดินมาทางจุน ซึ่งกำลังตั้งใจเขียนอะไรสักอย่าง..อย่างตั้งใจมาก เอริเดินไปข้างหลังจุน ตอนแรกกะจะทำให้จุนตกใจ แต่ดันไปมองกระดาษที่จุนกำลังเขียนอยู่ เมื่อเอริอ่านในกระดาษของจุนก็ทำให้เอริเหมือนผิดหวังกับอะไรสักอย่าง ในกระดาษจุนเขียนไว้ว่า...
( เรื่องราวจะเป็นยังไงติดตามต่อภาค 2 นะค่ะ)