31 มกราคม 2545 18:00 น.
โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
พุทธานุภาพพ้น ประมาณ
จักเพียรเพ่งเล็งฌาณ จิตด้วย
ซื่อตรงทศพลญาณ ประณาม
มิบรรลุขอชีพม้วย บ่กล้า ลุกยืน
ตั้งอานาปานถ้วน ประการ
รู้ลมข่มมาร แข็งกล้า
นิวรณ์ห้าประการ ป้องปก ธรรม์นา
หนึงคือกามฉันทะล้า อย่าข้อง ด้วยกาม
อุกธัจจะกุกุจจะนั้น มีมา
จิตจงอย่าสงกา ลืมสิ้น
ถีนะมิทธะหา ง่วงเหงา
สติพร้อมน้อมจิตดิ้น หลุดให้ไกลกัน
พยาบาทนี้ สำคัญ
จักทำจิตสิ้นพลัน รีบแก้
วิจิกิจฉาลังเลนั้น ปราบเฮย
เพียงนี้กิเลสแพ้ เข้าด้วย ปฐมฌาณ
เข้าออกฌาณหนึ่งฌาณสี่ด้วย ชำนาญ
จักได้อภิญญาญาณ สิ่งรู้
กอปรด้วยอาสวักยการ กำจัด กิเลส
สังโยชน์ร้อยรัดกู้ ตัดแล้ว สิ้นกรรม
31 มกราคม 2545 17:45 น.
โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
โบกสะบัดผัดแผ่วแว่ววิเวก
ยังฉายเฉกเช่นฉัน ณ วันเหงา
แสงสลับกลับเวียบเปลี่ยนเป็นเงา
ณ ยามนี้ สิมีเราเหงาเดียวดาย
เรืองวิลาสพาดผ่านฟ้าเวลาลับ
แสงวะวับสับแสดงแรงเรืองใหม่
ราตรีแล้วแก้วทิวาต้องลาไกล
รอเช้าใหม่จักรุ่งรองท้องธานี
พรายระบัดผัดแผ่วแว่วแว่วโบก
ใครวิโยคโศกซัดจักพัดหนี
ให้ทุกข์ผ่านกาลล่วงดวงมณี
ชื่นฤดีช่ำสุขทุกข์มลาย
25 มกราคม 2545 14:24 น.
โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
อุ่นใอในใจรักสมัครแนบ
เอียงอิงแอบอกอุ่นละมุนหอม
ผมสยายปรายระบัดพัดชวนดอม
กลิ่นพยอมยามค่ำย่ำเย็นใจ
แม้นว่าเชษฐ์นิราศร้างห่างนวลน้อง
มนัสหมองปองเศร้าเฝ้าฝันใฝ่
จะได้เรียงเคียงข้างบ่ร้างไกล
จักดอมดมชมใกล้ในราตรี
เราจะเคียงคู่ชิดสนิทสม
ให้อินพรหมชมไว้ในราศี
พิมาณเมืองเมลืองแคว้นแดนมณี
จะลือร่ำพร่ำกวีว่าน้องงาม
หากจวบจนชีพข้าลับดับลงก่อน
บ่จากจรอย่าสงสัยในคำถาม
ใครจะห้ามรวีแรงแสดงคราม
แต่บ่ห้ามรักพี่ที่มีเอย
24 มกราคม 2545 12:00 น.
โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
ระลอกลิ่วพริ้วพรายเป็นสายหมอก
ระลิ้วหลอกหยอกเล่นเช่นคนเหงา
จะแต้มเติมเพิ่มแสงแห่งดวงดาว
วะวับวาวดาวก็เล่นเป็นสุขใจ
วันก็ผ่านผ่านกาลประมาณนับ
ทิวาลับรุ่งรองต้องลาใหม่
ให้สาดแสงศศิผ่องละอองไอ
ดารารายเล่นเร้าเย้ายั่วกัน
สาดสาดครืนคลื่นขับทับถมทั่ว
สาดสายกลั้วโขดขินคีรินทร์ขาน
กระจายฟองต้องโศกซัดอย่าพัดพาน
เลวร้ายผ่านไม่นานสบพบโชคดี
ระเริงเล่นเป็นสุขสนุกนัก
ได้ประจักษ์แจ้งใจในแสงสี
ณ คืนค่อนผ่อนผ่านเหนือกาลมี
ระวีว่องผ่องธาตรีนี้อีกครา