22 กรกฎาคม 2550 00:34 น.
โอ้ละหนอ
ข้าว-น้ำแต่ละคำที่ข้าฯกลืน
เป็นท่านที่หยิบยื่นเมตตาให้
น้ำ-ข้าวแต่ละคำที่กลืนลงไป
ตอกย้ำข้าฯไว้ให้สำนึกในบุญคุณ
หนี้เงินทองหนี้ข้าวของเครื่องใช้
หนี้ชีวิตที่ท่านมีให้ระอุอ่น
ขอบคุณท่านที่เมตตาเจือจุน
ข้าฯจะทดแทนคุณท่านอย่างไร
จึงอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
ไม่ต้องกลัวข้าฯจะเรียกร้องให้...
ให้ท่านต้องรำคาญหัวใจ
ท่านจะวางข้าฯไว้แห่งหนไหน ไม่สำคัญ
อีกไม่นานละครชีวิตก็จะปิดฉาก
ไม่ลำบากอยู่ไปให้ใครเขาหยัน
ใครจะปิดฉากก่อนใครไม่สำคัญ
เป็นหรือตายก็เท่ากันเท่านั้นเอง
จบชาติจบภพจบบริบูรณ์
ขอบคุณที่เกื้อกูลไม่ข่มเหง
ขอบคุณที่ท่านเสียสละตัวเอง
ไม่หวั่นเกรงต่อโชคชะตา
ทั้งข้าฯทั้งท่านต่างเจ็บปวด
ต่างฝ่ายต่างรวดร้าวราวจะบ้า
ต่างฝ่ายต่างก็ผ่านวันเวลา
ต่างฝ่ายต่างก็ฝืนโชคชะตาไม่ได้เลย
ฉะนั้น..............
ขอให้ท่านจง................
เก็บข้าวเก็บน้ำคืนไปทุกทุกคำ พร้อมเก็บงำทุกถ้อยคำที่เอ่ย
เก็บหนี้ชีวิตเก็บทุกอย่างที่เคย เก็บคืนไปให้หมดเลยทุกสิ่งไป
เก็บไปเสียเก็บไปให้หมดสิ้น แม้กระผีกริ้นก็อย่าได้เหลือไว้
เก็บแล้วก็ขอหมดเวรกรรมกันไป อย่า เหลือชาติภพใหม่อย่าให้มี
ขอให้เราต่างอโหสิกรรม เราต่างทำบุญกรรมกันเพียงชาตินี้
จบชาติจบภพจบกันที อย่ามีชาติภพขอจบบริบูรณ์
21 กรกฎาคม 2550 19:56 น.
โอ้ละหนอ
ตะวันรายบ่ายคล้อยลอยลงต่ำ
ตะวันร่ำตะวันรอนอ่อนอ่อนแสง
ตะวันลาลับล่วงดวงสีแดง
ตะวันแฝงแสงเร้นไม่เห็นดวง
21 กรกฎาคม 2550 12:09 น.
โอ้ละหนอ
ในภาพฝันฉันเห็นเธอเด่นชัด
เธอผู้จัดเจนจ้าและกล้าหาญ
เธอผู้ปราบบอริราชไพรีพาล
เธอผู้รานริดศัตรูหมู่ผองภัย
จะร้อนแดดแผดกล้าของตาวัน
จะหนาวสั่นเยือกสะท้านไม่หวั่นไหว
จะฝนตกฟ้าร้องคะนองไกล
เธอก็ไม่แท้ท้อระย่อเลย
สองแขนโอบปืนกระชับเป็นหลักมั่น
สองขานั้นหยัดตรงมั่นคงเฉย
สองตาคู่สอดส่ายไม่ละเลย
ปากไม่เอ่ยหูสดับตรับไพรี
กับแผ่นดินแผ่นฟ้าอันกว้างใหญ่
กับพงไพรพฤกษาพนาศรี
กับขุนเขาน้อยใหญ่ในปฐพี
กับดินแดนแผ่นที่เป็นประเทศไทย
เธออุทิศชีวิตนี้พลีเพื่อชาติ
ใครอุกอาจย่ำยีที่แห่งไหน
ซึ่งเป็นเขตแว่นแคว้นดินแดนไทย
จะปกปักษ์รักษาไว้ตราบวายปราณ
ในภาพฝันฉันเห็นเธอเด่นชัด
เธอผู้จัดเป็นนักรบผู้กล้าหาญ
ขอคุณพระพิทักษ์เธอผู้เชิงชาญ
ให้ตระหง่านยืนหยัดสู้คู่แผ่นดิน
21 กรกฎาคม 2550 00:49 น.
โอ้ละหนอ
แอบชื่นชมอยู่อย่างนี้นะดีแล้ว
เขาคือแก้วแจ่มกระจ่างกลางใจฉัน
เขาไม่รู้ไม่เป็นไรไม่ว่ากัน
ฉันเก็บฝันนี้ไว้ในใจเอง
อย่างลึกซึ้งเงียบเงียบและเฉียบขาด
อย่างหมายมาดใครไม่กล้ามาข่มเหง
เพราะเคยเจ็บมาแล้วใจให้หวั่นเกรง
เหมือนบทเพลงช้ำช้ำย้ำหัวใจ
จะแอบชื่นแอบชมแอบข่มจิต
ฝากจุมพิตกับสายลมพรมพริ้วไหว
ใครไม่รู้ว่าฝากใจไปให้ใคร
คิดอะไรก็เก็บไว้ในใจเรา
แล้วอย่างนี้จะไม่มีวันเจ็บแล้ว
ตั้งใจแน่วแน่ไว้แม้ใจเหงา
แอบชื่นชมหลงรูปจูบเพียงเงา
คิดถึงเขาเพียงในฝันเท่านั้นพอ
20 กรกฎาคม 2550 17:18 น.
โอ้ละหนอ
ฉันทำชีวิต หล่นหาย ในสายน้ำ(ตา)
แหวกว่าย ไปมา ไม่เห็นฝั่ง
อ่อนแรง เหนื่อยล้า เหลือกำลัง
พายุชีวิต ยังกระหน่ำ อยู่ไม่สร่างซา
ชีวิตน้อยน้อย ลอยคอ เดียวดาย
อยู่หรือตาย.....คือความหมาย ที่แสวงหา
เหนื่อยอ่อน ถอนหายใจ โรยรา
เคว้งคว้างเหว่ว้า อยู่ในทะเล(น้ำตา) อาดูร