เนื้อใน ในเนื้อนาง นุ่มนิ่มนวลอบอุ่นอวล อิงแอบ อางขนางนุ่มละมุน ละไม ในเนื้อนางหอมบางจาง บางเจือ ที่เนื้อในจุ่มจุมพิต ชิดปราง แนบนางเนื้ออุ่นอะเคื้อ เนื้อนวล ยวนใจไหวละเลียดจิบ จับจอง ต้องเนื้อในค่อยโลมไล้ เกรงช้ำใน นวลเนื้อน้องค่อยแตะหน่อย ต้องนิด ประชิดขวัญหวั่นเนื้อนวล ขวัญพี่ นี้จะหมองอวลอิงแอบ แนบชิด เจ้าเนื้อทองกอดตระกอง ประคองขวัญ อวลเนื้อใน.
ความคิดถึงนี้ร้ายนักเกินหักห้าม มันคุกคามหัวใจให้คิดถึง เพราะคิดถึงรุมเร้าใจใฝ่คะนึง เพราะคิดถึงจึงต้องร้องบอกมา ร่ำร้องว่าคิดถึงและคิดถึง ครุ่นคำนึงคะนึงครวญชวนหวนหา ไม่ได้พบนวลน้องแก้วกานดา ฝากแต่ความคิดถึงมาในราตรี ค่ำคืนนี้จันทร์เหงาดูเศร้าหมอง เสมือนใจพี่เรียกร้องถึงน้องพี่ อยู่ที่ไหนให้รู้ไว้นะคนดี ว่าพี่นี้ยังคิดถึงคะนึงครวญ.
เมื่อวานไปยื่นแบบเลือกข้ามเขต ฉันจะเมตตาเลือกตามสมัย ฉันจะใช้สิทธิน้อยนิดลิขิตไว ซึ่งประชาธิปไตยของไทยแลนด์.............. จะเลือกใครหรือไม่เลือกยังไม่รู้ แต่จะอยู่แต่จะไปใช้สิทธิ์แน่น จะไม่ให้ผีนั้นมากาแทน จะแน่นแฟ้นในคำว่าประชาธิปไตย.......... ทุกวันนี้ฟังขี้ฟันทั่นผู้แทน ฟังตามแกนน่าเบื่อเหลือไฉน ต่างอวดโอ้โม้แหลกแจกกันไป ไม่มีใครชูประเด็นอันเป็นจริง........... มีแต่ภาพเพ้อฝันอันเพ้อเจ้อ อวดกันเกร่อภาพฝันอันใหญ่ยิ่ง แต่จะทำได้ไหมในความจริง แต่ละสิ่งล้วนมอมเมาให้เราฟัง............ อันบางพรรคบางพวกจวกผู้อื่น บางพรรคยื่นจัดสรรเก้าอี้นั่ง นี่ขนาดยังไม่ได้เลือกจริงจัง ก็แก่งแย่งที่นั่งอันแสนร้อน............ ฉันเรียกเก้าอี้นี่ว่าเก้าอี้ไฟฟ้า ใครกระสันต์หาญกล้ามาแย่งก่อน นั่งกระดกก้นชูหางดังพังพอน แม้แสนร้อนก็ไม่กลัวมั่วแย่งกัน............. แล้วพวกเราก็ถูกเกณฑ์เช่นตัวตลก เล่นละครซกมกตลกนั่น เลือกเพื่อให้พวกเขาไปแย่งกัน ไปห้ำหั่นบั่นคำว่า"ประชาธิปไตย" "เลือกเพื่อให้พวกเขาไปถอนทุนคืน" โอ้ขมขื่นมาทุกยุคทุกสมัย ทั้งหน้าหล่อหน้าเหลี่ยมหน้ารูปใด ที่พบล้วนเชื่อไม่ได้ไปทั้งนั้น แม้สูญสิ้นศรัทธาประชาชน ก็ยังอยู่ในวังวนของชนชั้น ต้องรักษาสิทธิที่มีน้อยนิดกัน หวังสักวัน"ฟ้าสีทองผ่องอำไพ"
น้อยก็หนึ่ง........ซึ่งหัวใจนี้ได้รับ เป็นสุขกับสิ่งนี้ที่ได้เห็น ซึ้งยิ่งนักกับสิ่งนี้ที่ได้เป็น ไม่วายเว้นเช่นนี้ทุกวี่วัน............ รู้ไหมเอ่ยสิ่งนี้คือสิ่งไหน หากเอ่ยเอื้อนออกไปให้ใจหวั่น เพราะถ้าหากเธอไม่เข้าใจมัน อันตัวฉันนั้นกระดากลำบากใจ.......... แต่ก็อยากให้เธอรู้อยู่ดีแหละ จะได้แวะมาทักทายอยู่ใกล้ใกล้ หญิงชราว้าเหว่เร่หัวใจ ร่อนเร่ไปในโลกของออนไลน์......... ตื่นขึ้นมาก็แวะมาหานิดหนึ่ง มาถึงครึ่งค่อนวันก็มั่นหมาย พอตะวันบ่ายคล้อยก็คอยกราย ดึกดื่นรายนอนไม่หลับก็กลับมา......... น้อยก็หนึ่ง.......ซึ่งหัวใจได้ชื่นชุ่ม นั่งหลบมุมเงียบเงียบเลียบเคียงหา แอบอ่านกลอนนอนฝันทุกวันมา อย่างเหว่ว้าเดียวดายในบ้านกลอน........
รัก.......เพราะรัก! เพิ่งตระหนักในคุณค่า เสียเวลาค้นหามานานเนิ่น หลงทางเปลี่ยวเดี่ยวดุ่มกลุ้มเหลือเกิน ยามเธอเมินหมางหมองก็ข้องใจ......... เพราะรักเธอ.......รักมาก ยากจะบอก จึงช้ำชอกยอกทรวงหน่วงใจไหว วะวิบวับกับบ่วงห่วงคล้องใจ ที่วางลงปลงไม่ได้เลยซักที......... เธอไม่รัก......ก็เพราะ เธอไม่รัก! จึงยากนักหักหาญใจไม่ควรที่ ฉันยอมแล้วแก้วตาถึงนาที ที่เรานี้ควรทำ......เอ่ยคำลา......... หันหลังให้กันเสียทีนะที่รัก เธอไม่รัก....ฉันจะรัก..... ก็ไม่ว่า เมื่อความรักคิดต่าง.....ห่างเวลา ก็ควรมาบอกลากันในวันนี้........... รัก......เพราะรัก!.....หากเธอไม่เห็นค่า ก็ไม่ต้องเสียเวลามาที่นี่ ฉันคนอยู่ยอมเดียวดายทุกนาที เพราะรักนี้.......มันไม่มีเหตุผลเลย.......... จะรักเธอ.......อยู่อย่างนี้แหละที่รัก เธอตระหนักหรือไม่.....ไม่เฉลย ไม่เป็นไร ไม่ไยไพ ไม่ภิเปรย ใจคุ้นเคยกับความเศร้า.....เหงาเพราะรัก!