20 ตุลาคม 2548 17:08 น.
โอไรออน
"........ลมพัดเมื่อยามเช้า
เบื้องหน้าเราภูเขาใหญ่
ใจเราก็ลอยไป
ไกลแสนไกลในความจริง
...แม้อาจเป็นเพียงฝัน
เพราะเรานั้นใช่ทุกสิ่ง
วาดภาพเกินความจริง
แค่พึ่งพิงสิ่งในใจ
...บางครั้งเราอ่อนล้า
ข้างในตาก็สั่นไหว
เหนื่อยล้าอยู่เรื่อยไป
ทดท้อใจในบางครา
...คิดถึงคนที่บ้าน
ครูอาจารย์ระลึกหา
เพื่อนฝูงเคยคุ้นตา
ต้องจากลามาแสนไกล
.....จากหวังจึงได้วาด
ลายเส้นขาดก็แก้ไข
ผิดมากเราเริ่มใหม่
ทำต่อไปให้เป็นจริง
...เพื่อฝันที่วาดไว้
ความตั้งใจคือทุกสิ่ง
โลกของความเป็นจริง
มิใช่สิ่งสวยดังใจ
....มีดำและมีขาว
หอมและคาวคละกันไป
ทุกอย่างอยู่ที่ใจ
เลือกทางใดในทางเดิน
...วันนี้ที่เป็นอยู่
ใจก็รู้เหนื่อยเหลือเกิน
ขวากหนามต้องเผชิญ
จะต้องเดินก้าวฝ่าไป
...หากถามถึงเหตุผล
จะดิ้นรนเพื่ออะไร
พ่อแม่เราหวังไว้
ลูกจึงได้ทดแทนคุณ
...มายาที่แวดล้อม
สติพร้อมจะเกื้อหนุน
ความรักที่หอมกรุ่น
จะเป็นทุนและแรงใจ
........ลมพัดเมื่อยามเย็น
น้ำกระเซ็นแลหลั่งไหล
ระยิบกระพริบพราย
คล้ายดังสายทองธารา
...ลมเย็นกระทบผิว
ลอยละลิ่วระเริงร่า
ใบไม้กลาดเกลื่อนตา
แซมด้วยหญ้าเขียวขจี
...ท้องฟ้าเคยสดใส
บัดนี้ใยฟ้าเปลี่ยนสี
แดงฉานปานอัคคี
ทาบนทีเถ้าถ่านแดง
...ดวงดาวเริ่มพราวพร่าง
งามกระจ่างสร้างสีแสง
ขาวฟ้าและแสดแดง
กระพริบแสงแปลงสีกัน
...นอนลงบนผืนหญ้า
แล้วหลับตาพาสู่ฝัน
ล่องลอยร้อยคืนวัน
สู่ปัจจุบันที่เป็นไป
...รอยเท้าที่เคยย่ำ
กับน้ำคำที่หวั่นไหว
ความจริงเป็นเช่นไร
จะมีใครช่วยตอบเรา
...เมื่อฝันนั้นเป็นอื่น
ขอจงกลืนความโง่เขลา
คือเราที่เป็นเรา
แล้วจึงก้าวสู้ความจริง..
...ฝากฝันไว้กับฟ้า
ฝากศรัทธาที่ใหญ่ยิ่ง
ฝากรักฝากทุกสิ่ง
คงเป็นจริงเข้าสักวัน......
20 ตุลาคม 2548 10:43 น.
โอไรออน
"...มองออกไปบนผืนทราย
ลัดเลาะแถวแนวชายหาด
เห็นเม็ดทรายขาวสะอาด
น้ำเซาะสาดกระเซ็นสาย
คลื่นระลอกแล้วระลอกเล่า
บ้างก็เบาค่อยคล้อยไหล
ขับกล่อมบรรเลงเคล้าเพลงไป
ไกลแสนไกลสุดใจสุดสายตา
แต่เมื่อใดลมแรงแข่งสายน้ำ
เมฆมืดคล้ำดำทะมึนขึ้นตรงหน้า
คลื่นกระหน่ำซ้ำซัดสาดสายมา
พายุร้ายใกล้เข้ามา ณตัวเรา
เหมือนชีวิตคนเราทุกเช้าค่ำ
ช่วงมืดดำทำใจเราให้ขลาดเขลา
เมื่อพายุพ้นผ่านชีวิตเรา
ฟ้าใสใสไงเล่า...เมื่อพายุผ่านพ้นไป...
.....ธรรมดา เวลาฟ้า เมฆครึ้มหม่น
พายุฝนโหมกระหน่ำบนฟากฟ้า
อีกไม่นานตะวันแดง สาดแสงกล้า
ส่องแผ่นฟ้า และพสุธา ให้งดงาม....