23 พฤษภาคม 2546 15:27 น.
โอไรออน
ด้วยสองเท้าก้าวย่างทางภูผา
ตั้งใจมาหมายมุ่งสู่ภูสูง
จึงออกจากแสงสีความเฟื่องฟุ้ง
มาสู่ทุ่งมุ่งมาป่าหาภูดอย
ภูกระดึงนามนี้ที่รู้จัก
ผู้คนมักป่ายปีนตีนขึ้นสอย
สู่หลังแปที่ราบที่เฝ้าคอย
นี่คือยอดภูดอยภูกระดึง
จากตีนภูเดินขึ้นสู่หลังแป
ขอเพียงแค่สองตีนเดี๋ยวก็ถึง
สัมภาระมากมายอย่าดื้อดึง
เพราะท่านอาจล้มตึงก่อนเวลา
ที่ทำการเขามีลูกหาบไว้
คอยรับใช้เราท่านขึ้นภูผา
กิโลกรัมละสิบบาทเราอย่าช้า
กระเป๋ายักษ์มหึมาขึ้นสบาย
เดินตัวเปล่าปลิวมาถึงซำแฮก
จุดพักแรกหอบแฮกแฮกน่าใจหาย
เดินมาแค่แปดร้อยเมตรเหนื่อยแทบตาย
ที่ไหนได้ยังไม่ถึงครึ่งค่อนทาง
จากซำแฮกแบกสังขารผ่านกกกอก
เหงื่อกระฉอกตอกย้ำซำกกไผ่
เดินมานานผ่านหลายซำจำไม่ไหว
ซำแคร่ไงท้ายสุดตอนก่อนหลังแป
หลายกิโลผ่านไปกายตรำตราก
เดินขาลากฝากรอยไว้ได้หลายแผล
ความเหนื่อยอ่อนมาหยุดจุดหลังแป
ที่ราบอันกว้างแผ่แลสุดตา
มาเพียงนี้ยังไม่ถึงซึ่งจุดหมาย
ดั้นด้นกายสองกิโลเราใฝ่หา
ศูนย์บริการฯเราจักพักกายา
หาน้ำท่ามีสุขาไว้บริการ
เมื่อถึงนี่เร็วรี่เรื่องที่พัก
ผู้คนมักนอนเต็นท์เป็นพื้นฐาน
แต่บ้านพักก็มีไว้ให้บริการ
เรื่องอาหารน้ำดื่มลืมได้ไง
มีร้านค้าอาหารอยู่กลาดเกลื่อน
พาเพื่อนเพื่อนมานั่งกินสิ้นสงสัย
ทำไมของมันถึง แพงเกินไป
ก็เข้าใจ เขาจ้าง ขึ้นหาบมา
พอรุ่งขึ้นตื่นมาสุดหนาวเหน็บ
หนาวจนเจ็บ ปลุกเรา เหตุใดหนา
เพิ่งตีสี่ เร็วรี่ แหกขี้ตา
เพื่อมุ่งมา ผานกแอ่น แสนวิไล
รอจนหลับหลับไปได้หลายตื่น
เสียงระรื่นคนโห่ร้องให้สงสัย
แสงตะวันจับขอบฟ้าอันแสนไกล
ดวงตะวันก็เคลื่อนกายพ้นขอบดอย
แสงอาทิตย์จ้าแล้วจึงรีบกลับ
เร่งรีบจับสัมภาระไว้ใช้สอย
เพื่อมุ่งหน้าผาหล่มสักที่เฝ้าคอย
มิใช่ย่อยเตรียมไว้คอยเดินทางไกล
เริ่มกันที่วังกวางน้ำตกแรก
เจอทางแยกไปสู่เพ็ญพบใหม่
ผ่านโผนพบเพ็ญพบทางไม่ไกล
ก็เข้าสู่ถ้ำใหญ่ตระการตา
ถ้ำสอใต้ไกลเหลือเกินเดินจนท้อ
ถ้ำสอเหนือก็รออยู่ข้างหน้า
อโนดาตน้ำใสสะอาดตา
ชื่นอุรานั่งพักทักทายกัน
ห้ากิโลเดี๋ยวก็ถึงผาหล่มสัก
แดดร้อนนักพักสักหน่อยค่อยผ่อนผัน
พบผู้คนมากหน้าสารพัน
ถึงแล้วนั่นผาหล่มสักแห่งยอดดอย
ผู้ต้องการถ่ายรูปต้องเข้าแถว
เห็นเป็นแนวอะไรกันฉันไม่ถอย
ยืนเข้าคิวถ่ายภาพที่เฝ้าคอย
ผาหล่มสักกับสนดอยคอยคู่เคียง
ตัดใจจากเมื่ออาทิตย์ยังไม่ลับ
เร่งรีบกลับที่พักไม่ฟังเสียง
คนแออัดอื้ออึงซึ่งสำเนียง
เดินเลาะเรียงเคียงขอบภูดูตื่นตา
ผ่านผาแดงผาเหนียบเมฆก็เย็นย่ำ
ลมหนาวร่ำ คร่ำครวญ ที่ริมผา
อากาศเย็น เยือกยิ่งสิงกายา
ก็เคลื่อนกายจากมาเพื่อก้าวไป
เดินเรื่อยเรื่อยเลาะเรียงเคียงขอบผา
เดินก้าวมาถึงนาน้อยหน้าผาใหญ่
หยุดนั่งพัก อากาศสะท้านกาย
หนาวจับใจความมืดคืบคลุมมา
เปิดไฟฉาย ห่มเสื้อ เหลือจะหนาว
ส่วนสองเท้าก็เร่งก้าวด้วยเสาะหา
ผาหมาดดูกจุดสุดท้ายก่อนนิทรา
สองกิโลต่อมาจึงได้นอน
ถึงเวลาแล้วหนาต้องลาจาก
ความลำบากความสนุกและสุขขี
ประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ที่ได้มี
เหนือยอดภูแห่งนี้ ภูกระดึง
ในสามวัน สองคืน ที่อยู่พัก
ธรรมชาติ งดงามนัก สุดเปรียบถึง
บนภูผา แห่งความฝัน ภูกระดึง
ใจข้าจึง จะหวัง กลับมาเยือน
23 พฤษภาคม 2546 12:31 น.
โอไรออน
มองฝูงวิหกบิน
น้ำตารินค่อยหลั่งไหล
ตัวข้าต้องจากไกล
สู่เชียงใหม่นพบุรี
หมายเพื่อมาศึกษา
สู่ปริญญาที่พึงมี
มอชอในวันนี้
ตั้งใจมีด้วยนานมา
นึกทีไรให้ใจเหงา
เพื่อนของเราเคยศึกษา
ร่วมเรียงเคียงกันมา
หกปีกว่าโรงเรียนเรา
ช่วยเหลือเอื้ออาทร
ยามทุกข์ร้อนผ่อนบรรเทา
เพื่อนปลอบประโลมเรา
ผ่อนคลายเศร้าเหงาหายไป
พ่อแม่ที่บ้านข้า
ตัวลูกยาไม่ไปไหน
ยังอยู่ตรงกลางใจ
ว่างเมื่อไหร่จะกลับมา
ตัวลูกจะร่ำเรียน
ตั้งใจเรียนเพียรศึกษา
คว้าชัยให้ได้มา
ด้วยมือข้าจะฝ่าฟัน
ความตั้งใจที่มีมา
แสนมีค่าพาสู่ฝัน
ขวากหนามนับร้อยพัน
จะฝ่าฟันเพื่อก้าวไป
ส่งถึงเพื่อนทุกคน
หากข้าจนด้วยแรงใจ
ขอเพื่อนเป็นเชื้อไฟ
ก้าวต่อไปด้วยใจศรัทธา
22 พฤษภาคม 2546 18:33 น.
โอไรออน
มีความหวังหวังว่าจะถึงฝัน
มีความรักมาแบ่งปันไม่ขาดหาย
มีศรัทธามุ่งมั่นทั้งใจกาย
ยังไม่สายที่จะฝันกันทุกคน
อันความหวังหวังใดไร้จุดหมาย
แต่ความฝันจะพร่างพรายฉายแห่งหน
เป็นโคมไฟส่องผ่านทางมืดมน
นำพาตนพ้นอุปสรรคที่ทักทาน
อันความรักรักนั้นจะผันโลก
ที่ช่ำโชกโชกจนช้ำช้ำแดงฉาน
มีความรักจักสดใสไร้เดือดดาล
ทุกวันวานจะสงบและร่มเย็น
อันศรัทธาที่มุ่งมั่นและฝันใฝ่
เป็นบันไดสู่ดวงดาวที่เราเห็น
โอ้แสงดาวแห่งศรัทธาอันสวยเย็น
เราจะเป็นผู้คว้าดาวพราวลงดิน
อันความหวังความฝันและความรัก
จะนำชักเราฝ่าทางอันโหดหิน
มีศรัทธาพาสู่ทางที่โสภิณ
แว่วได้ยินใกล้ความฝันอันเรืองรอง
ดังเปรียบกับบันไดขั้นสุดท้าย
เจ้าอย่าได้รีบรุดสุดผยอง
ค่อยค่อยก้าวก้าวค่อยค่อยอย่าลำพอง
แล้วความฝันอันเรืองรองเป็นของเรา
หากวันใดได้ก้าวสู่จุดที่ฝัน
จงหยัดยืนให้มั่นไม่สั่นเขลา
เสมอต้นเสมอปลายน่ะตัวเรา
ดีอย่างไรดีอย่างเก่าเราคนดี
แต่ใช่ว่าถ้าถึงฝันมันจะจบ
เมื่อสังขารนั้นจบคือสุขขี
หมดแล้วหนอทุกข์โศกโรคราวี
อุปสรรคมากมีมิพบพาน
จงก้าวไปข้างหน้าอย่าหวั่นไหว
ด้วยฝันใฝ่ให้โลกนี้สุขขี
มีแรงกายแรงใจในความดี
สมกับที่เรากำเนิดเกิดเป็นคน