26 มีนาคม 2551 14:42 น.
โอเลี้ยง
เธอเป็นสาวสดสวยทั้งร้ายกาจ
ความสามารถเก่งเกินจะขานไข
ทั้งอารมณ์ชอบพาลเอาแต่ใจ
ทำคนใกล้เหนื่อยหน่ายระอาใจ
แต่ตัวเขากลับรักไม่เคยหนี
เฝ้าภักดีรอคอยอย่างหลงใหล
แม้ในใจเจ็บปวดเกินกว่าใคร
เพราะเธอไร้สายตาจะปรานี
เธอคนเก่งหลงรักชายคนหนึ่ง
ซึ่งเป็นเพื่อนผึ่งผายมีราศี
ทั้งสูงใหญ่ เตะตาทุกนารี
ไปทุกที่มักมีสาวล้อมคอย
เธอบอกรักฝากไปอยู่หลายหน
ชายคนนั้นกลับเมินมิคิดสอย
ปล่อยดอกฟ้าน้ำตาหลุดร่วงปรอย
สะอื้นบ่อยกับรักที่ร้าวรอน
มีวันหนึ่งเธอชวนเขาไปดื่ม
เพื่อให้หลับหลงลืมรักที่หลอน
อนันต์เริ่มแช่มชื่นกับคำวอน
ที่สาวอ้อนชวนค้างบ้านของเธอ
ครั้นรุ่งเช้าหนุ่มสาวตื่นพบหน้า
นุนางค์คว้าผ้าห่มปิดแก้เก้อ
รู้ทั้งรู้ร่างเปลือยที่บำเรอ
ตนเสนอชักชวนฝ่ายชายมา
แต่ยังแสร้งดุด่าทุบตีเขา
เธอเห็นเราเป็นหม้ายจึงเข้าหา
เห็นเป็นของตลาดลดราคา
จึงข่มเหงใช่กล้าอย่างชายชาญ
เราเกลียดเธอคนชั่วหน้าตาซื่อ
ทำเป็นตื้อพูดดีมีภูมิฐาน
ที่แท้ก็คนชั่วหวังสำราญ
จะยกให้เป็นทานแล้วกันไป
ต่อแต่นี้จงห่างอย่าให้พบ
เราเลิกคบจะหลบมิหมายใกล้
รีบไปเลยไสหัวไปไกลไกล
เธอแกล้งช้ำร่ำไห้ทุบอกตน
อนันต์หนุ่มหลงกลใจเป็นทุกข์
รีบร้อนลุกคว้าตัวสาวช่างบ่น
รวบมากอดปลอบใจในบัดดล
ทั่วกมลพี่นี้มีแต่เธอ
นุนางค์ซบอกหนาของชายหนุ่ม
แสร้งสะอื้นกลัดกลุ้มเหมือนหม่นเหม่อ
แต่ในใจใครเล่ารู้คำเพ้อ
ที่เธอยอมเสนอตัวให้ชายนี้
กาลผ่านไปมินานอนันต์ซึ้ง
เธอหวังพึ่งตัวเขาสู่อีกที่
เป็นสะพานผ่านไปหาชาตรี
มิตรคนดีของเขาที่เธอรัก
นุนางค์แกล้งดักพบชาตรีบ่อย
ทำเป็นคอยคนรักอย่างมีหลัก
แอบมารอคอยอยู่ที่พำนัก
บนบ้านพักที่มีชาตรีนอน
เธอเข้าบ้านเงียบเงียบทุกยามบ่าย
ทำเหมือนคล้ายเพิ่งรู้เขาพักผ่อน
ตอนเปิดห้องก้มหน้าจูบคนนอน
ก่อนแกล้งบ่นเดือดร้อนทักผิดคน
ชาตรีนั้นรู้ดีกับกลแกล้ง
จะต่อว่าแรงแรงก็สับสน
กลัวผิดใจกับเพื่อนยากหลุดพ้น
จึงปิดปากมิบ่นอยู่หลายวัน
เดือนต่อมาเขาย้ายหาห้องใหม่
หาข้ออ้างได้ง่ายดังเสกสรรค์
กันไปนอนบ้านแฟนที่ได้กัน
เราจะหมั้นแล้วแต่งเดือนหน้านี้
หนุ่มรูปหล่อหายตัวไปจากบ้าน
นุนางค์พล่านเร่าร้อนไม่ติดที่
ไปทำงานก็เหม่อทุกนาที
อยู่บ้านเล่าฤดีแทบขาดใจ
เขาหายไปเธอช้ำอย่างที่สุด
ยากจะหลุดอาลัยที่มีให้
ไป โรงพักหาเขาอยู่บ่อยไป
แต่พบได้แค่อนันต์คนใจเมิน
นุนางค์ผ่านราตรีอย่างปวดร้าว
ทุกย่างก้าวคิดถึงคนห่างเหิน
มองอนันต์แค่สะพานเคยแวะเดิน
ไม่เพลิดเพลินมัดใจสักนิดเดียว
ไก่รองบ่อนอย่างอนันต์เริ่มแตกหัก
เรียกคนรักมาถามด่าเสียงเขียว
เธอเป็นชู้หลายชายใช่เดี๋ยวเดียว
ช่างร่านเปลี่ยวจริงหนอแม่คนงาม
เมื่อวันก่อนเธออ้างไปหาแม่
แต่ที่แท้นัดชาย คนเล่นกล้าม
ควงกันไปเสพสุขสนองตาม
แล้วมาพล่ามหลอกกันหน้าซื่อแท้
นุนางค์โกรธสิ้นสุดความไว้หน้า
เธอทั้งด่าทั้งข่วนเขาหลายแผล
อนันต์เจ็บตบกลับไม่ทันแล
สาวคนเก่งเริ่มแย่ร้องครวญคราง
เขาลืมตัวมองเธอเหมือนคนร้าย
จึงย่างกรายเข้าใกล้เตะสีข้าง
เธอพลิกตัวหลบรอดไปอีกทาง
เปิดลิ้นชักพลางมองตาอนันต์
อนันต์เริ่มเสียใจอยากขอโทษ
ใจยังโปรดสาวงามไม่เมินหัน
จึงเดินใกล้หมายกอดเธอคนนั้น
แต่สวรรค์ปิดตานุนางค์แล้ว
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง สามนัดเธอยิงมั่ว
ดังน่ากลัวอนันต์หายใจแผ่ว
กุมหน้าอกล้มลงไม่เป็นแนว
ดิ้นกระแด่วนิ่วหน้าครางเบาเบา
กว่าอนันต์รู้สึกตัวขึ้นอีกหน
สาวคนงามหายตัวให้เขาเศร้า
เธอจากไปไม่รอเขาทุเลา
แถมยกเค้าทรัพย์สินของเขาไป
เงินหลายแสนหายไปช้ำไม่เท่า
เหมือนรักเผารุมทรวงให้ร้าวไหว
อนันต์นิ่งอยากถามอยากไถ่ไกล
เธอรู้ไหมเธอฆ่าฉันทั้งเป็น
เธอรักฉันหรือว่าแค่เกมสนุก
ฉันนอนทุกข์เธอคงสุขจนเนื้อเต้น
ฉันคงแค่เส้นทางนอกประเด็น
หลายปีมาเธอจึงเว้นไม่รักเลย....
19 มีนาคม 2551 14:09 น.
โอเลี้ยง
รู้สึกไหม บางครั้ง อยากร้องไห้
อยากลองใจ ทนเจ็บ ดูสักหน
อยากแอบรัก เคียงข้าง ใครสักคน
ทั้งรักคน ที่เขา ไม่รักเรา
เจ็บปวดนัก รักช้ำ เกินแก้ไข
รอยแพ้ไหม้ เคียงตา รุมแผดเผา
แต่น้ำตา มิไหล เหมือนใจเร้า
ทั้งใจเศร้า ยังเร้า ว่าอยากทน
นอนกอดเศร้า เจ็บปวด มิหยุดพัก
หมายผุดผลัก กำลัง ต้านสับสน
เพราะรักมาก ตัดใจ มิหลุดพ้น
จึงมุดวน นที คงคาคอย
หลับตาลง ทุกครา ด้วยหงอยเหงา
พร้อมรอยเศร้า รุมล้อม อยู่ทุกบ่อย
ความจงรัก มักผลัก บอกคลอคอย
ขอรอบ่อย จนชา ห่อหุ้มใจ
แสงตะวัน ยังมี วันนอนหลับ
มิต้อนรับ เหมือนใจ ส่งรักให้
ความภักดี มักพร้อม อยู่ร่ำไป
ยอมย่ำใกล้ รอยเจ็บ มิห่างจาง
ขอแค่รัก ได้รัก ก็พอแล้ว
ใจฝ่อแผ่ว ยอมทน มิเคยสร่าง
ทรมาน แค่ไหน มิเคยวาง
ขอเกยบ้าง กับฝัน ได้ไหมเธอ
11 มีนาคม 2551 14:05 น.
โอเลี้ยง
ฝนพลิ้วแผ่วโปรยปลิวพาหวั่นไหว
หวั่นไหวใจระรัวเกินคิดถึง
คิดถึงคนไกลตารักลึกซึ้ง
ลึกซึ้งซึมคะนึงถึงวันวาน
วันวานฝันสั่นหนาวท่ามอ้างว้าง
อ้างว้างว่างท่ามฝนที่พลิ้วผ่าน
พลิ้วผ่านตาพาลเหงาเจ็บร้าวราน
ร้าวรานทรวงผสานห่วงอาลัย
อาลัยนักกับเขาตรงที่เก่า
ที่เก่าเก่าเคลียเคล้าพร้อมปราศรัย
ปราศรัยชื่นกับรักกับคำนัย
คำนัยของอาวรณ์และห่วงใย
ห่วงใยเอยลอยไกลตามสายฝน
สายฝนพรำแต่คนกลับร้อนไหว
ร้อนไหวร้าวเพราะใครจากไปไกล
ไปไกลเกินฝังฝันของใจเรา
ใจเราเอ๋ยไยเหงาและเจ็บเศร้า
เจ็บเศร้านักคอยเร้าแต่เรื่องเก่า
เรื่องเก่าของวันวานมิบรรเทา
บรรเทาทุกข์คลุกเศร้าด้วยพร่ำพ้อ...
10 มีนาคม 2551 15:02 น.
โอเลี้ยง
Graphics Comments & hi5 comments.
ในความฝันฝันสรรค์ได้ทุกสิ่ง
สิ่งแอบอิงอิงแอบยังทำได้
ได้สมหวังหวังใดก็ได้ไป
ไปไกลใกล้ใกล้ใครได้ทันตา
ตาจะเห็นเห็นฝันสวยสดใส
ใสเหมือนแก้วแก้วใจที่โหยหา
หาใครหนอชื่นชื่นรื่นอุรา
ราอาวรณ์รอนรอนที่ไกลกัน
กันและกันย้ำย้ำกับความฝัน
ฝันที่สรรค์สรรค์สุขจนหมดพรั่น
พรั่นเพราะกลัวกลัวใครลืมนับวัน
วันที่ฝันฝันใฝ่อย่างเคยมี
มีเยื่อใยซึ้งซึ้งท่ามความหวัง
หวังจะฝังฝังใจมะหลีกหนี
หนีก็แค่ช้ำช้ำที่อาจมี
มีตอนที่ที่ฝันเธอห่างไป
ไปบนฝันฝันถึงอย่างใจใฝ่
ใฝ่ทุกวันวันไหนก็หวามไหว
ไหวเพราะใกล้ใกล้คนที่พอใจ
ใจจึงชื่นชื่นได้กับฝันไกล...
8 มีนาคม 2551 15:32 น.
โอเลี้ยง
ลมพลิ้วพัดพลิ้วผ่านละเลียบผิว
พลิ้วพลิ้วลิ่วพลิ้วลับหายไปไหน
เสียงลมหวีดพลิ้วผ่านแล้วพลิ้วไกล
พลิ้วมาใกล้ให้รู้ลมพลิ้วมา
พลิ้วสุดหล้าพลิ้วไปไม่หยุดนิ่ง
พลิ้วประวิงพลิ้วพลิ้วค้นใดหนา
พลิ้วด้วยวุ่นพลิ้วหวังคล้ายเหว่ว้า
พลิ้วทั่วฟ้าพลิ้วครวญพลิ้วหาใคร
พลิ้วคะนึงพลิ้วฝากพลิ้วปนฝน
ลมพลิ้ววนค้นใคร่พลิ้วหวั่นไหว
พลิ้วอ้างว้างพลิ้วเศร้าเคล้าไห้ไกล
ลมร้องไห้แว่วพลิ้วพลิ้วทุกข์ทน
พลิ้วละเมอพลิ้วโทษโกรธดินฟ้า
พลิ้วเคว้งคว้างคว้าหาพลิ้วทุกหน
พลิ้วไปทั่วหวังพลิ้วค้นพบคน
พลิ้วไปค้นคนไกลพลิ้วเพื่อเคียง
ลมพลิ้วไกลพลิ้วผ่านสู่ลานฝัน
พลิ้วทุกวันพลิ้วพร้อมร่ำส่งเสียง
พลิ้วพร้อมเพ้อพลิ้วเหม่อร่ำลำเลียง
พลิ้วโอนเอียงพลิ้วกรายกระทบเธอ...