16 กุมภาพันธ์ 2549 18:29 น.

จม.ฉบับแรก

โอ คาลิฟโซ


ถึง..โลกนี้ที่ฉันรัก

....สวัสดี เป็นยังงัยบ้าง คุณสบายดีไหม ผมเป็นห่วงคุณนะรู้ไหม ผมเฝ้ามองคุณทุกเช้าที่ตื่น ทุกวันที่ออกย่ำเดิน ทุกครั้งที่มีสติครบทุกสัดส่วน ทุกวัน..ผม
เห็นการเปลี่ยนแปลงของคุณ โดยบางครั้งผมก็คิดว่ามันเป็นความตั้งใจของคุณด้วยหรือเปล่า เพราะคุณทำให้พวกผมต้องเจอกับความลำบากและสูญเสีย
กันมากมายหลายครั้ง  สำหรับการเปลี่ยนแปลงของคุณ บางคนก็ต้องจบชีวิตไป  ต้องเสียลูกเมีย ญาติพี่น้อง และบางคนไม่เหลืออะไรเลยนอกจากชีวิต
ของเขาเท่านั้น  ระยะหลังมานี้..ผมรู้สึกว่าคุณอารมณ์แปรปรวนบ่อยมาก ผมตื่นเช้าแต่ละวันต้องแปลกใจทุกเช้าไป เมื่อวานร้อนมากแต่เช้าวันนี้กลับ
หนาวจับใจเสียอย่างงั้น คุณเป็นอะไรหรือเปล่า คุณไม่สบายใช่ไหม ถึงคุณไม่บอกผมก็พอจะรู้สึกได้ว่าคุณกำลังไม่สบาย และดูท่าทางอาการกำลังจะทรุด
หนักลงทุกที ผมรักและเป็นห่วงคุณมาก รู้ไหม

....ผมยอมรับนะ ว่าทุกวันนี้พวกเราล้วนแต่หลอกลวงคุณทั้งนั้น พวกเราทำร้ายคุณมาเรื่อย ๆ บ้างก็ตัดไม้ทำลายป่า บ้างก็สร้างสารพิษออกมาปล่อยใส่คุณ ทั้งทางน้ำ ทางอากาศ และทุกวิถีทางแล้วแต่ความชำนาญของความมักง่ายของแต่ละคน เรารู้ว่าเราทำให้คุณเกิดอาการไม่สมดุลทางกายภาพ และอาจเป็นเหตุที่ทำให้คุณเกรี้ยวโกรธออกมาในบางครั้ง ซึ่งหลายคนก็ตระหนักและพยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อช่วยเหลือคุณ แต่คุณก็คงเข้าใจนะ ว่าสันดารมันเปลี่ยนแปลงกันได้ยาก แม้จะพยายามเช่นไรก็ตาม

....มีบางคนแสแสร้งทำว่าจริงใจกับคุณ กลุ่มคนเหล่านี้ไม่มียางอายหรอก การกระทำของเขาน่าขยะแขยงเพียงใดผมไม่อยากสาทะยาย เดี๋ยวจะทำให้คุณไม่สบายใจไปเปล่า ๆ พวกเขาได้แต่ออกมาด่าทอพวกเราคนอื่น ๆ  " ไอ้คนลวงโลก " เขาว่าเราอย่างงั้น เขาว่าพวกเราหลอกคุณทั้งนั้น เขาสบถพูดแล้วถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า เขากล่าวหาพวกเราหนักเช่นกัน แต่ตัวผมเองยังไม่เคยเจอใครด่าทอถึงขั้นนี้มาก่อนนะ ผมยังแอบคิดเลย ว่าบางที ในตัวผมอาจจะมีอะไรดีดีสำหรับคุณอยู่บ้างเหมือนกัน แต่บางครั้งผมก็ท้อ เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เห็นแต่หน้าของพวกคนที่คอยหลอกลวงคุณทั้งนั้น เขาเดินกันเกลื่อนเมือง ผมไม่อยากบอกคุณเลย..แม้กระทั้งท่านผู้นำที่เราเลือกท่านมารับหน้าที่นำเรานั้น ท่านยังแอบหลอกลวงคุณอยู่เลย  แต่ไม่ค่อยมีใครดูเจตนาท่านออกหรอก ช่างเขาเหอะ..ตอนนี้ที่ผมอยากรู้คืออาการไม่สบายของคุณ ต้นตอมันมาจากอะไร อ้อ..หรือว่ามันเกิดจากพวกผม คงอย่างงั้นใช่ไหมครับ พวกเราค่อย ๆ ทำร้ายคุณมาเรื่อย ๆ สะสมมานานปี พอถึงจุดจุดหนึ่งคุณก็รับไม่ไหวและออกอาการออกมา

....เฮ้ย! ผมขอโทษแทนตัวผมเองด้วยละกัน และแทนทุก ๆ คนด้วย เพื่อน ๆ ผมเขาก็คงไม่ตั้งใจจะทำร้ายคุณกันนักหรอก เดี๋ยวนี้เราก็ช่วย ๆ กันดูแลคุณดีขึ้นนะ เช่นช่วยกันปลูกป่า ช่วยกันดูแลแม่น้ำลำคลอง ไม่ทิ้งสิ่งสกปรกลงในคูคลองหรือที่สาธารณะ พวกเราออกกฏมาลงโทษคนที่กระทำไม่ดีต่อคุณ แต่คุณรู้ไหม..ว่าการมีชีวิตอยู่ตรงนี้ มันหลีกเหลี่ยงไม่ได้เลยที่จะไม่แตะต้องคุณ คนที่ออกกฏหมายมาทำโทษคนที่คอยทำร้ายคุณนั้น เขาเองก็ยังทำร้ายคุณอยู่ทุกวัน ขยะของเขาเยอะกว่าเราๆ  คนธรรมดาเสียอีกนะ เพราะเขามีเงิน ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนเอาอะไรก็ได้ แม้แต่ความถูกต้อง พวกเขาออกกฏมาช่วยเหลือคุณก็จริงอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะจริงใจกับคุณนะ ผมรู้สึกว่าในพวกเรา ถ้าใครได้ไปยืนที่สูงเมื่อไหร่ พวกเขามักลืมคุณและก็พวกผมเป็นประจำ เวลาพวกเขานั่งรถผ่านจะตั้งหน้าเชิ้ดขึ้น ชอบถุยน้ำลายขึ้นฟ้า และใส่คุณเมื่อเห็นคนต่ำต้อยอย่างพวกเรา ผมอยากให้คุณสั่งสอนคนพวกนี้บ้าง อย่าให้เขาลอยหน้าลอยตาทำร้ายคุณและพวกผมอยู่ร่ำไป คราวหน้าผมคงไม่เลือกเขาขึ้นไปอีกแล้วละ เพราะเราเลือกเขาไปเพื่อให้คอยดูแลคุณ แต่เขากลับคอยทำร้ายคุณและพวกเราทุกคน

....คุณคงต้องทนทุกข์ทรมานมานานสินะ ผมขอโทษอีกครั้ง ผมรับปากนะ ว่าจะทำตัวให้ดีขึ้น ผมจะคอยดูแลเอาใจใส่คุณ จะคอยตักเตือนเพื่อน ๆ ที่เผลอเรอทำร้ายคุณเข้า ผมจะพยายามทำให้ดีเท่าที่ทำได้ แต่ขีดความสามารถผมมีจำกัดนะครับ อย่าหวังอะไรกับผมมากนัก สุดท้ายนี้..ขอให้คุณรักษาตัวด้วย ผมรู้สึกว่าจะเขียนยาวเกินไปแล้ว คุณคงเมื่อยตากับการอ่านน่าดู เอาเป็นว่าผมค่อยเขียนฉบับหน้ามาอีกละกันนะ ถ้ามีโอกาส บาย

                                                  รักคุณเสมอ
                                                  โอ คาลิฟโซ				
5 พฤศจิกายน 2548 15:17 น.

ชีวิตแลตัวตน

โอ คาลิฟโซ

ชีวิตคือสิ่งไม่เที่ยง พระท่านพร่ำบ่น  ปัญญาชนพร่ำสอน  แต่ใครนะที่ประจักษ์ต่อคำคำนี้อย่างแท้จริง ตัวตน..หลายคนคุยว่าตัวเองจะเป็นและทำอะไรอย่างที่ตัวเองอยากทำ  ตัวตนแห่งตัวเองไม่เคยหนีหาย หากเป็นเช่นนั้น  เมื่อเจอเจ้าของบริษัทต้องนอบน้อมสุภาพทำไม  ทั้งที่ปกติพูดจ่าห่าเหวทุกวัน  ทำไมต้องกราบไหว้ครูอาจารย์  ที่แอบนั่งด่าอยู่ทุกวัน  ไหว้ทำไมในเมื่อตัวตนจริง ๆ คุณเกลียดเขา  สุดท้ายตัวของคุณมันก็ไม่ได้อยู่กับคุณ  คุยโวโอ้อวดกันทำไม  ยอมรับเถอะว่า..คุณไม่สามารถอยู่คนเดียวในโลกได้  แวดล้อมคุณเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตและกฏเกณ  ซึ่งคุณไม่สามารถทำอะไรได้ดั่งใจไปหมดทุกอย่าง  มันเป็นกฏเกณแห่งธรรมชาติของการอยู่รวมกัน  เป็นเช่นนี้..จะควานหัวตนของตัวเองกันทำไม  เหอ ๆ  ในเมื่อมันไม่สามารถปรากฏขึ้นมาได้ในสถานะความเป็นอยู่เช่นนี้....
  สุดท้ายผมก็ต้องอยู่กับวิญญาณของใครก็ไม่รู้  เพราะผมไม่สามารถบังคับมันได้ดั่งใจทุกอย่าง  ที่มันควรจะเป็น  ชีวิตที่มีอยู่ก็เป็นของใครก็ไม่ทราบได้  เพราะต้องทำในบางสิ่งที่ไม่อยากทำอยู่บ่อยเหลือเกิน ชีวิตที่ต้องเดินไปทางโน้นทางนี้  โดยที่ใจอยากจะไปอีกทาง  บางคนเก่งนะ..บอกผมว่าอย่ามาพูดเลยว่าชีวิตไม่มีทางเลือก  มันมีมากมายแต่คุณไม่ยอมเลือก  ผมยิ้มเฟื่อน ๆ ในใจอยากเหยียบปากเจ้าของคำพูดคำนี้อย่างนิ่มนวลสักครั้ง  ทางเดินมันมีมากมายเป็นหมื่นเป็นแสน  แต่จะมีทางสักกี่ทางที่เราไปได้จริง  ลองคิดให้ลึกสักครั้งสิ หรืออาจเป็นเพราะผมหวังผลในปลายทางมากไปก็เป็นได้มั้ง  จึงไม่มีทางไหนที่ผมพอใจเลยสักทาง  ทางที่ต้องการกลับปิดสนิทเสียนี่  "ชีวิตมีทางเดินให้เลือกมากมาย" มันเป็นคำที่ผมเกลียดจริง ๆ....มันเป็นคำพูดที่ฉาบฉวยที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา.				
28 พฤษภาคม 2548 13:18 น.

ใจเราสร้างขึ้นด้วยอะไร

โอ คาลิฟโซ

....โลกนี้ไม่ใหญ่เลย  เมื่อเทียบกับจักรพิภพ  ตัวเราก็เช่นกัน..มันเป็นแค่ชีวิตเล็ก ๆ ในจักรวาลนี้  เราเรียนรู้มากมายว่าจักรวาลนั้นจักรวาลนี้เป็นเช่นไร  แต่เคยบ้างไหมที่จะหันมาเรียนรู้ชีวิตอันเล็ก ๆ ของตัวเอง  ว่าเราคืออะไรเป็นอย่างไร
....มีหลายผู้คนที่บอกว่าเราเป็นอย่างนั้น  เราเป็นอย่างนี้  บางผู้บังอาจรู้มากกว่าเราเองเสียอีกว่าชีวิตเราเป็นอย่างไร  กระนั้นก็หาใช่เรื่องแปลก  เพราะดวงตาเราสามารถมองเห็นได้ยาวไกล  แต่กลับมองไม่เห็นขนตาตัวเองที่คอยปกป้องฝุ่นฝอย  
....มีหลายคนบอกว่าผมเจ้าชู้นะ  ซึ่งผมก็รู้และพยามไม่เป็นอย่างนั้น  สังคมเรากำหนดกฏไว้ว่าการเจ้าชู้คือสิ่งไม่ดี  ดังนั้น..ผมจึงพยายามซื้อตรงต่อคนรักของผมตลอดมา  แต่ทำไมน่ะ  เมื่อมีสาวสวย ๆ เดินผ่าน  ผมกลับต้องมองต้องแอบชอบ  ทั้ง ๆที่รู้ว่าการเจ้าชู้คือสิ่งไม่ดี  หลายครั้งที่ผมพยายามคิดและหักห้ามใจ  แต่ทำไมมันช่างแสนยาก  ใจเรามันสร้างขึ้นด้วยอะไร  ทำไมถึงไม่เชื่อคำสั่งเรา มันพิษดาลจริง ๆ หากใจเราเป็นดั่งไมโครชิปที่ฟอเม็ตแล้วใส่ข้อมูลไหม่ได้ก็คงจะดีไม่น้อย ผมเกลียดโปรแกรมเจ้าชู้ของผมเสียจริง ๆ แม้ผมจะไม่เคยพรั้งเผลอสักครั้งเดียว  แต่แค่หวั่นไหว  แค่นี้ก็ผิดเต็มประดา				
21 พฤษภาคม 2548 14:03 น.

เมื่อเช้าผมเหยียบขี้หมา

โอ คาลิฟโซ

วันนี้มันเป็นวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส  แสงอาทิตย์ฉาบสีทองอำพัน  แต่ทว่า..ชีวิตผมตื่นก่อนอาทิตย์ครับ  พระอาทิตย์เขาไม่ต้องไปแก่งแย่งกับใคร  ผมจึงไม่คิดจะรีรอ  ธุระส่วนตัวตอนเช้าของผมถูกกำหนดให้เสร็จหมดภายครึ่งชั่วโมง  ซึ่งถ้าหากกินเวลามากว่านั้นแม้แต่นาทีเดียว  มันก็จะส่งผลต่องานทุกอย่าง  วันนี้ผมต้องนั่งรถเมร์สองต่อ และต้องทำงานสามชิ้น เมื่อรวมเวลาสายทั้งหมดเริ่มตั้งแต่ทำธุระส่วนตัว เท่ากับว่าวันนี้ผมต้องสายไปหกนาที โอ้..คุณพระคุณเจ้า 
    ผมรีบตะบึงออกจากห้อง  มอเตอร์ไซต์รับจ้างหันมามองกันเกรียว  แต่ทุกคนก็ต้องผิดหวังในตัวผม  เพราะการเดินออกจากปากซอยคือส่วนหนึ่งในการออกกำลังกายในยามเช้าของผม  มาถึงปากซอยก็ใช้เวลาประมาณสิบนาทีนิด ๆ หากไม่เสียเวลากับการวางท่าเท่ ๆ ในการเดิน  ผมต้องขึ้นรถเมร์ฝั่งตรงข้ามของถนน สะพานลอยครับ  ผมไม่คิดว่าเป็นการเท่กับการวิ่งข้ามถนนใต้สะพานลอย  และไม่คิดว่าสาว ๆ จะนิยมชมชอบคนในระบบนี้  ลงจากสะพานลอยฝั่งที่หมายปั้บ  ก็รีบจ้ำตรงไปอย่างป้ายรถเมร์ทันที  สายตาแห่งการแสวงหาสอดส่องดูรถราไปเรื่อยเปื่อย  และแล้วใจผมก็ต้องเต้นแรง  เฮ้ย..รถมาแล้ว  ยังเดินไปถึงป้ายเลย  อะไรมันจะเร็วไปกว่าเราอีก  ผมตัดสินใจฉับพลัน  โบกมันตรงนี้ละกัน  ไม่ทันแล้ว  ในขณะคิดเท้าก็ยังสาวไปเรื่อย  แก้วตาสองดวงของผมมีแต่ภาพสะท้อนของรถเมร์คันนั้น  ผมยกมือโบกครั้งนึง  พอจะยกโบกซ้ำเพื่อตอกย้ำความตั้งใจให้คนขับเขามั่นใจ  ผมก็ต้องสดุ้งเฮือก!  หัวใจเต้นแรงเป็นครั้งที่สอง  ร่างกายเซถะลาไปข้างหน้า  โชคดีที่ช่ำชองในการเดิน อีกเท้าจึงหยัดยืนไว้มั่น  ในใจก็คิดว่าบนพื้นฟุตบาทอย่างงี้ยังจะมีอะไรทำให้เราเซถะลาลื้นได้ขนาดนี้  ก่อนก้าวขึ้นรถเมร์ก็หันกลับไปมองมันแว้บนึง  เห็นพื้นตรงนั้นเป็นสีเหลือง  ด้วยอาการรีบร้อนและยังอยู่ในช่วงตกตะลึงจึงยังไม่แน่ใจในรูปลักษณ์ของมัน  ภายในหนึ่งถึงสองวินาทีกลิ่นมันก็มาเตะจมูกบอกว่า " ตูนี่แหละขี้หมา " โอ้...เยส  ทั้งชีวิตเกิดมาไม่เคยเสียท่าแก่สิ่งเหล่านี้เลย  โทษใส่เวรและกรรมละกัน  เพราะไม่เห็นหมาตัวไหนป้วนเปี้ยนอยู่แถงนี้เลย
    ผมก้าวขึ้นรถเมร์ด้วยอาการของคนไม่มีความมั่นใจหลงเหลือ  ขณะที่การแสดงกายกรรมกวางโจว ( ไต่ราวรถเมร์ ) ผมไม่ได้กลิ่นอะไรเลย  แต่รู้สึกว่าคนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ผมทำจมูกฟุดฟิดแล้วหันซ้ายแลขวา  คงสงสัยว่าหมาตัวไหนขึ้นมาขี้ถึงบนนี้ เหอๆ  ถ้าหากคุณผู้นั้นบังเอิญมาอ่านเจอบทความนี้  ผมก็ต้องขออภัยสำหรับการทำให้มลภาวะบนรถเมร์เป็นพิษในเมื่อเช้าด้วยนะครับ  ไม่ได้ตั้งเลยจริง ๆ.				
5 พฤษภาคม 2548 16:09 น.

อะไรดีละ

โอ คาลิฟโซ

ทุกครั้งที่เราก้าว  ทุกครั้งที่เราหยุด  ทุกครั้งที่เราตัดสินใจ  มันใช่หรือบังเอิญที่ดันไปตรงกับคำทำนาย  หากบังเอิญ..ทำไมมันถึงบ่อยนัก  หากมันไม่บังเอิญ..ก็แสดงว่าชีวิตเราถูกขีดเส้นทางเอาไว้แล้ว  แล้วใครละที่ขีดเส้นชีวิตเรา  แล้วชีวิตเราเป็นของใครกันแน่  สมองและความคิดเราสร้างมาเพื่ออะไร  หากการคิด..การกระทำทุกอย่าง ต้องเป็นไปตามแบบแผน  วันนี้ที่เท่านี้  ต้องไปที่นั่น  วันนั้นต้องเจอคนนี้  และจะอยู่กันไปจนถึงปีนี้  แล้วมีอันต้องแยกทาง  ใครคือผู้กำหนดชีวิตฉัน  ( คุณเคยสงสัยบ้างไหม  ว่าชีวิตคุณมันมีอะไรแปลก ๆ แอบแฝงอยู่  ลองนั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ สักพักแล้วคิดดูครับ )
   หากชีวิตเราเป็นของเรา  จะสู่หนใดย่อมเป็นไปตามเรา  แล้วไอ้หมอดู ( ขออภัยที่หยาบคาย ) มันรู้กันได้อย่างไร  ว่าวันนั้นวันนี้  อายุเท่านั้น อายุเท่านี้ เราจะเป็นเช่นไร  แล้วมันเกิดขึ้นจริง ๆ ได้อย่างไร ดวงดาวและตัวเลขมันมาเกี่ยวข้องกับชีวิตฉันได้อย่างไร  ตกลงฉันคืออะไร
   ผู้ที่เรียกตัวเองว่ามนุษย์สร้างคำปลอบโยนตัวเองมากมาย  สำหรับปลอบใจตัวเองเมื่อทำอะไรผิดพลาด  ฉันอยู่บนโลกนี้มาแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้นเอง  คำปลอบโยนต่างฉันใช้มาจนหมดทุกคำที่เคยรู้จักแล้ว  แต่ตอนนี้มันหมดแล้ว  ฉันไม่เหลือคำอะไรมาปลอบตัวเองอีกแล้ว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ คาลิฟโซ
Lovings  โอ คาลิฟโซ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ คาลิฟโซ
Lovings  โอ คาลิฟโซ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโอ คาลิฟโซ
Lovings  โอ คาลิฟโซ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงโอ คาลิฟโซ