5 กรกฎาคม 2550 21:15 น.
โนริโกะ
..........ถูกทิ้ง แหมคำคำนี้ช่างแทงใจดำซะจริง ๆ เลย ถ้าฉันไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อยละก็ฉันจะต่อยปากคนที่พูดคำนี้ออกมา ก็จะไม่ให้โมโหได้ไง คนสองคนคบกัน เมื่อไปกันไม่ได้ก็ต้องทางใครทางมันซิค่ะ
..........แต่ครั้งนี้ เขาก็พูดถูกเพราะฉันเป็นฝ่ายถูกทิ้งจริง ๆ นะแหละ ก็ผู้ชายเขาเริ่มเบื่อฉันแล้วนี่นา เมื่อก่อนฉันทำอะไรก็ดีไปหมด ถูกทุกอย่าง แต่พอเดี๋ยวนี้อะไรก็ไม่ดี ผิดไปหมด ทำไมมันกลับตาลปัตร เป็นหน้ามือกับหลังมืออย่างนี่หล่ะ
..........แต่กว่าเขาจะทิ้งฉันได้ เขาก็หาวิธีการหลายอย่างเลยนะ เพื่อให้ฉันรู้สึกดีขึ้น เขาไม่กล้าพูดว่าเบื่อฉันตรง ๆ อันนี้ฉันก็ซาบซึ้งในน้ำใจของเขานะ เหตุผลของเขาก็เช่น ฉันดีเกินไป เขาเป็นคนไม่ดี ถ้าคบกันต่อไปจะทำให้ฉันเสียใจมากขึ้น ถ้าเลิกกับเขาซะฉันอาจไปเจอคนที่ดีกว่า (ขอบคุณ ๆ ฟังดูดีนะ) หรือ ผมมีคนรักอยู่แล้วคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เขาเป็นคนดี ไม่มีความผิดอะไร ผมไม่กล้าทิ้งเขา แม้ว่าผมจะรักคุณก็ตาม (ไอ้ทุเรศ ก่อนคบกัน ฉันก็ถามแก่แล้วนะว่ามีใครหรือเปล่า แก่บอกว่าโสด หรือ บอกว่า โฉดกันแน่ ฉันอาจฟังเพี้ยนไปเอง อาจเป็นได้)
..........แต่เหตุผลก็ฟังแล้วดูเหมือนเขาเป็นสุภาพบุรุษดีนะ มองแล้วตัวเองดูดีขึ้นด้วย ถ้าฉันไม่ปล่อยให้เขาไปอยู่กับผู้หญิงที่ไม่มีความผิดคนนั้น ฉันก็ต้องเป็นนางมารร้ายแน่ ๆ เลย แต่ฉันไม่สนใจหลอกว่าเขาจะหาเหตุผลอะไรมาสาธยาย สรุปแล้วก็คือ เขาเบื่อฉันแล้ว แต่จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่จะสามารถรับฟังเหตุผลนี้ได้นะ มันตรงไปหรือเปล่า แต่อยากจะเตือนคุณผู้หญิงไว้ว่า เมื่อผู้ชายเขาบอกเลิกกับเรา ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลวิธีใด สรุปก็คือ เขาเบื่อและหมดรัก หมดความสนใจในตัวคุณแล้ว อย่าไปรั้งเขาไว้เลย เราก็กลับมาดูแลตัวเองให้เต็มที่ดีกว่า ให้สวยใสไร้ที่ติ หลังจากที่เราเอาเวลาไปห่วงใยใส่ใจดูแลเขามาตั้งนาน ปล่อยให้เขาไปตามยถากรรมที่เขาก่อไว้เถอะนะค่ะ และที่สำคัญที่สุดอย่าลืมทำบุญกรวดน้ำคว่ำขันอุทิศส่วนกุศลให้เขาด้วยนะคะ......
1 กรกฎาคม 2550 11:42 น.
โนริโกะ
...............เมื่อยามรักคนเราก็มักจะหน้ามืดตามัว หูหนวกตาบอด แล้วจะมีสักกี่คนที่จะมีสติแยกแยะได้หล่ะว่า เขาคนนั้นคิดจริงจังกับเราเหมือนอย่างที่เราคิดหรือไม่ คงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่คิดจะคบกับผู้ชายเล่น ๆ เพื่อเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ หลอกนะ คุณว่าจริงไหม เพราะการเปลี่ยนคู่ไปเรื่อย ๆ ก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเจ้าชู้ เป็นคาสโนวี่บ้างหล่ะ หญิงอย่างเรามีแต่เสียกับเสียเท่านั้น ไม่เหมือนผู้ชายถึงจะถูกมองว่าเจ้าชู้ประตูดิน แต่ก็ไม่ได้เสื่อมเสียแบบผู้หญิงอย่างเรา บางครั้งกลับถูกมองว่าเป็นผู้ชายมีเสน่ห์อีกด้วยซ้ำไป....
...............พวกที่คิดจะหลอกเราเล่น มักจะสนใจแต่รูปร่าง สรีระเราเท่านั้น มองแค่รูปร่างหน้าตา และก็ไม่ค่อยจะลงทุนคิดเอาแต่ได้ ให้เราทุ่มเทให้ทุกอย่าง ซื้ออะไรให้ก็รับ แต่ไม่เคยคิดจะให้อะไรเรากลับ ขนาดเวลาที่จะสละให้เรายังห่วงเลย ชวนไปเที่ยวด้วยกัน ก็อิดออดไม่อยากจะไป หรือมาก็มาแบบเสียไม่ได้ ค่ารถค่ากินก็ยังให้หญิงเราออกค่าใช้จ่ายให้เสียอีกแน่ะ และก็ไม่อยากเปิดเผยกับใครว่าคบเราอยู่ เพราะกลัว เสียเครดิต กลัวว่าจะไปจีบหญิงอื่นไม่ได้ คิดจะให้เราเป็นแค่คู่ควงเท่านั้น นอกจากนี้เวลาทะเลาะกัน ผู้ชายมักจะเป็นฝ่ายถูกเสมอ ๆ ทั้งที่เขาผิดเต็มประตู แต่เขาก็แก้ตัวไปอย่างน้ำขุ่น ๆ ให้ฝ่ายเราเป็นฝ่ายผิด และต้องเป็นฝ่ายขอโทษเขาอีกแน่ะ สังเกตดูให้ดีนะค่ะ พวกนี้มีเยอะ ถ้าเราเซ้าซี้มากก็พานโมโหโทษเราว่าจู้จี้จุกจิก เรื่องมาก โอ้ยสารพัดวิธีสรรหามาว่า
...............คนเรารักกันก็ต้องพยายามปรับตัวเข้าหากันใช่ไหมคะ มิใช่ว่าเราคอยแต่ชวนเขาปรับความเข้าใจคุยกัน เขาก็บ่ายเบี่ยงหรือเขาก็ไม่ยอมปรับตัวเองเลย ให้แต่เราเป็นฝ่ายปรับอยู่ฝ่ายเดียว...
...............คุณผู้หญิงค่ะ ดูออกบ้างไหมค่ะ แต่อยากบอกว่าขณะที่คบกันอยู่อาจจะไม่ได้รู้สึกหวาดระแวงพฤติกรรมเหล่านี้ หรืออาจสังเกตเห็นแต่ก็มองข้ามตรงจุดนี้ไป เพราะพวกเราจะพยายามสมานฉันท์อยู่แล้วไม่อยากให้เกิดปัญหาระหว่างกัน นี้แค่เป็นตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น บางคนอาจจะเจออะไรที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่านี้ก็ได้นะค่ะ แต่อย่างน้อยก็อยากให้คุณผู้หญิงระวังตัวไว้นะค่ะอย่าไปเผลอมอบตัวมอบใจให้เขาจนหมดนะค่ะ และจงระวังผู้ชายประเภทนี้ไว้ แต่ผู้ชายก็ไม่ได้เลวร้ายไปหมดหลอกนะค่ะ แต่ให้คิดไว้ถ้าเจอผู้ชายประเภทนี้ให้ตัดใจหนีให้ห่างเลย เพราะยังมีผู้ชายที่ดีกว่านี้อีกตั้งเยอะ ซึ่งเขาอาจจะเป็นเนื้อคู่หรือคู่แท้ของเรา ที่รอเราอยู่ข้างหน้าก็ได้นะค่ะ....
1 กรกฎาคม 2550 11:39 น.
โนริโกะ
...............บางครั้งคนเราก็ต้องพูดหรือทำในสิ่งที่ตนไม่อยากทำ ทำสิ่งที่ไม่ตรงกับหัวใจ เพราะคนเราก็มีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป เราไม่อาจไปบอกได้ว่าเหตุผลของเขาไม่ดีไม่ถูกต้อง เพราะคนแต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป
...............ฉันเองก็เช่นกันที่ต้องทำสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจต้องการ จะมีสักกี่คนที่เป็นเหมือนฉันบ้าง....
...............เมื่อเรารักใครสักคน เราก็คงอยากให้เขาอยู่กับเราไปนาน ๆ รักเราคนเดียว ถ้ารักมากก็เกิดความเห็นแก่ตัวมาก อยากครอบครอง ซึ่งถ้าเป็นแบบที่ใจต้องการ เราก็คงต้องมีความสุข แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะอะไรรู้ไหม เพราะเรารู้อยู่เต็มหัวใจว่า หัวใจเขาไม่ได้อยู่ที่เรา และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใจเขาอยู่ที่ใคร หรือมอบให้ใครหรือยัง แน่นอนว่าเขาพร้อมจะอยู่กับเรา แต่ความสุขอย่างนี้จะจีรังยั่งยืนนานแค่ไหน ขนาดที่คนที่เริ่มต้นมีความรักให้กันมากมาย วันหนึ่งความรักที่มีให้กันยังหมดลงได้ แล้วถ้าคนที่ไม่ได้รักเราจริง แค่คบกับเราเพื่อแก้เหงา เวลามันจะไม่สั้นยิ่งกว่าคนที่รักกันหรือ
...............บางคนอาจจะรับได้ แค่ขอให้เขาอยู่กับเรา ไม่คิดอะไรขอแค่เวลาที่อยู่ด้วยกัน ขอให้ต่างคนต่างมอบสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน แน่นอนการหลอกตัวเองอย่างนี้ อาจทำให้มีความสุข ถ้าเราสามารถปรับใจตัวเองให้คิดแบบนี้ได้ แต่สำหรับฉัน ฉันไม่สามารถคิดอย่างนี้ได้ และเพื่อให้ตัวเองสามารถดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้โดยปราศจากความทุกข์ในเรื่องของความรัก ฉันจึงต้องตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างลงไป เพื่อเป็นการตัดไปตั้งแต่ต้นลม
................นั้นคือ การบอกเลิกคบกัน เหตุผลคือเขาไม่ใช่สเป็คหรือคนที่เราต้องการจะคบเป็นแฟนด้วย คุณไม่มีคุณสมบัติเช่นนั้นเลย และคุณก็เคยบอกเลิกกับฉันก่อน และอยากคบฉันเป็นเพื่อน แล้ววันนี้คุณกลับมาทำไม มันสายไปแล้วเพราะฉันสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีคุณ...
...............ถามว่า ฉันยังรักเขาอยู่ไหม ก็ยังรักแต่ฉันรู้ว่าตลอดเวลาเขาไม่เคยรักฉันได้เลย ฉันพร้อมที่จะรักและดูแล และอยู่เคียงข้างกับคนที่เรารัก แต่เขาไม่มีความพร้อมอะไรเลย เขาขอแค่สนุกไปวัน ๆ ไม่อยากผูกมัด ยึดติดกับใคร เขายังมีสิทธิเลือก เมื่อความคิดของคนสองคนไม่ตรงกันแล้ว มันยากที่จะคบกันต่อไป แล้วเราจะเสียเวลายื้อเวลาออกไปทำไม ยิ่งยื้อออกไปหัวใจก็ยิ่งเจ็บ มันต้องมีคนใดคนหนึ่งที่กล้าตัดสินใจ และครั้งนี้ขอเป็นฉันบ้างนะ ที่ตัดสินใจบอกเลิกคุณ...ผู้ชายหลายใจ
1 กรกฎาคม 2550 11:34 น.
โนริโกะ
...............เมื่อเจอเธอฉันรู้สึกเหมือนกับชีวิตมีสิ่งเติมเต็ม เธอเป็นทุกสิ่งที่ฉันอยากให้เป็น ฉันเริ่มเรียกร้องสิ่งต่าง ๆ จากเธอมากขึ้น โดยไม่เคยรู้สึกถึงความรู้สึกของเธอเลยว่าเธอรู้สึกอย่างไร เธอเหนื่อยกับฉันแค่ไหน ฉันสนใจแต่ความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น...
...............จนวันหนึ่ง เธอคงจะรับไม่ไหวแล้วใช่ไหม เธอจึงบอกกับฉันตรง ๆ ว่าเธอขอหยุดเรื่องระหว่างเราได้ไหม? วันนั้นฉันไม่เข้าใจอะไรทำให้เธอเปลี่ยนไป เพราะฉันไม่เคยรู้จักคำว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา เลยสักนิดเดียว ฉันคิดถึงแต่ความรู้สึกตัวเองเท่านั้น
...............ฉันอยากให้เธอเป็นอย่างที่ฉันต้องการ อยากให้เธอเปลี่ยนตัวเองเพื่อฉัน โดยที่ฉันไม่เคยคิดเปลี่ยนตัวเองเลย และจนถึงวันนี้ ฉันก็คงเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แน่นอน เพราะฉะนั้นคนที่ฉันควรจะได้พบก็คือคนที่เข้ากับฉันได้ โดยที่ฉันและเขาไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อกันและกัน แน่นอนว่าตอนนี้ฉันอาจจะไม่เจอเขาคนนั้น และฉันก็ไม่รู้ว่าชีวิตนี้ฉันจะได้เจอเขาคนนั้นไหม แต่นับตั้งแต่นี้ฉันคงไม่ได้คาดหวังอะไรอีกแล้ว เพราะเมื่อฉันไม่มีเธอ ฉันได้กลับมาใช้ชีวิตของฉันเหมือนเดิมแล้ว หลังจากที่ฉันเปลี่ยนการดำเนินชีวิตจากการใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอดเกือบสามสิบปี แม้เธอจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของฉันในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าขาดเธอไป เหมือนอะไรบ้างอย่างในชีวิตขาดหายไป ทั้งที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้ขาดอะไรไป แต่เธอเข้ามาเป็นส่วนเกินในชีวิตของฉันต่างหาก เมื่อฉันสามารถตัดส่วนเกินในชีวิตออกไปได้ ชีวิตของฉันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันมีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขไม่เหมือนตอนที่มีเธอเข้ามา ชีวิตของฉันมีแต่สุข ๆ ทุกข์ ๆ ตลอดเวลา
...............มันเป็นสิ่งที่ยากมาก ในการที่จะตัดส่วนเกินออกจากชีวิต ฉันเฝ้าถามตัวเองตลอดเวลาว่าแน่ใจหรือยังที่จะตัดเนื้อร้ายออกไป ใจหนึ่งอยากจะเก็บไว้ แต่อีกใจก็กลัวเนื้อร้ายนี้จะทำให้ชีวิตของฉันต้องทุกข์มากขึ้น และสิ่งสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจคือ การถามหัวใจตัวเองว่า เขารักเรา เรารักเขา หรือเราทั้งสองรักกัน คำตอบคือ ไม่ ถ้าอย่างนั้นบทสรุปก็คือ เราทั้งสองยังไม่ได้รักกันเลย ฉะนั้นถ้าเขาอยากมีทางเดินของเขาที่ทำให้ชีวิตเขาจะมีความสุขขึ้น เราก็ควรปล่อยเขาไปดีกว่า ขนาดตัวเราเองก็ยังคิดเหมือนเขาเลย เมื่อฉันคิดได้อย่างนี้ฉันจึงตัดเนื้อร้ายนั้นทิ้งไป แน่นอนเลือดต้องออกอยู่แล้ว และฉันก็ต้องทนเจ็บบาดแผลไปอีกหลายเดือน แต่บาดแผลมันต้องมีวันหายเจ็บ แม้ว่าแผลจะไม่สนิทซะทีเดียว และอาจกลายเป็นแผลเป็นไปตลอดชีวิตก็ตาม แต่ฉันก็ยินดียอมรับมัน แค่ฉันพยายามเข้าใจความรู้สึกคนอื่น แค่นั้นว่า เขาไม่พร้อมดูแลเรา เราก็ปล่อยเขาไป ถ้าวันหนึ่งเราได้เจอกับคนที่พร้อมจะดูแลปกป้องเรา วันนั้นฉันคงพบกับความสุข แต่ไม่ว่าจะอย่างไร มันก็แค่เริ่มต้น บทสรุปเป็นอย่างไร ฉันก็ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ฉันจะพยายามทำทุกวันให้ดีที่สุด... และนี้ก็คือการให้ของฉัน ให้อภัยเขา คนที่ทิ้งเราไป และปรารถนาให้เขามีความสุข เมื่อใจเราไม่โกรธ ไม่แค้น ใจเราก็จะมีความสุข ความสุขที่รู้จักการให้ การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ การให้อภัย (เพราะฉันคิดว่า...ฉันเห็นแก่ตัวมามากแล้ว)
19 เมษายน 2550 21:36 น.
โนริโกะ
..........เส้นที่กั้นแบ่งระหว่างความรัก ความชอบ กับความหลงนั้นบางและเล็กมาก มากเสียจนบางครั้งเราไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างออกมาได้ แต่ถึงอย่างไรทั้งรัก ชอบ หรือหลง 3 สิ่งนี้ก็ไม่มีทางที่จะเหมือนกันไปได้เลย
..........หลายคนสับสนระหว่าง คนที่รัก คนที่ชอบ และ คนที่หลงชอบ จะมีสักกี่คนที่เข้าใจคำว่า รัก ในโลกนี้คงไม่เคยมีใครที่จะไม่เคยรัก ไม่เคยชอบและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนจำนวนมากต้องเคยหลงรักใครบางคนอย่างถอนตัวไม่ขึ้นมาแล้ว อย่างน้อยก็สักคนหนึ่งในชีวิต
..........คนส่วนใหญ่เวลาอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบ มักไม่ค่อยมีอาการเคอะเขิน ประหม่าจะสามารถแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาให้เขารู้ได้มากที่สุด กล้าที่จะบอกความในใจให้เขาคนนั้นรับรู้โดยไม่ต้องคิดมาก
..........แต่กับคนที่รักแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น จะเขินอาย หน้าแดงจนทำอะไรไม่ถูก พูดอะไรแต่ละที ก็คิดแล้วคิดอีกกว่าจะกลั่นกรองคำพูดในใจ ออกมาบอกกับเขาได้
..........ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากความชอบเป็นเพียงอาการรักขั้นเริ่มต้น เป็นความถูกใจในรูปร่างภายนอก บุคลิกหรือนิสัยบางอย่างแบบปกติธรรมดา ยังไม่มีการผูกพันทางใจอย่างยาวนานเหมือนอย่างเช่นความรัก
..........ในกรณีที่ความถูกใจที่ว่านั้นเกินกว่าปกติธรรมดา ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นความหลง
..........ถ้าเป็นความรักแล้ว ความหมายของมันจะลึกซึ้งมากกว่า ต้องผ่านการผูกพันกันทางใจมาอย่างยาวนาน จนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกัน ยิ่งทั้งคู่ให้ความรักไปมากเท่าไรก็ยิ่งได้รับตอบกลับคืนมามากเท่านั้น จะไม่มีคำว่า ยอมทน
..........ในความรักของคนทั้งสอง ทั้งสองฝ่ายมอบความรู้สึกดี ๆ แก่กันและกัน ไม่ใช่มีแต่เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ให้โดยที่อีกฝ่ายได้แต่รับข้างเดียว
..........แต่ถ้าเป็นความหลง ทั้งคู่จะไม่เคยมีการแลกเปลี่ยนความรักให้กันและกัน จะมีเพียงคนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่เป็นผู้ที่ให้ความรักความห่วงใยแต่เพียงลำพังขณะที่อีกคนได้แต่เป็นผู้รับฝ่ายเดียว โดยไม่เคยที่จะให้ความรักตอบแทนกลับคืนกฃเลย แต่ครั้นจะเลิกราจากเขาไปก็ไม่สามารถจะปฏิเสธหรือหักห้ามใจตนเองได้
..........หากอยากจะรู้ว่า ความรักของคุณนั้นเป็นความรักที่แท้จริงหรือ ความหลงก็ต้องมาดูว่าทั้งคุณและเขาได้มอบสิ่งดี ๆ ให้แก่กันหรือไม่ เข้าใจกันดีหรือ เวลาอยู่กับเขาแล้วคุณยังมีความสุขดีหรือ ถ้าทั้งหมดนี้ คุณตอบว่าใช่ นี่ก็เรียกว่า ความรัก
..........แต่หากคุณยังต้องถามตัวเองอยู่ว่า ทำไมเข้าไม่เคยทำดีกับฉัน ไม่เคยใส่ใจฉัน และทำไมฉันจึงยังต้องรักเขาอยู่ ทั้งที่เขาทำฉันเจ็บมามากมาย ทำไม ฉันยังทนรักเขาอยู่ได้ ก็แสดงว่าความรักที่คุณมีอยู่ มันไม่ใช่ความรักที่แท้จริง แต่เป็นความหลง
..........ไม่มีความผิด ความถูกและไม่มีการลงโทษ เพราะเรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
..........หากคุณกำลังหลงใครสักคน โดยที่อีกฝ่ายไม่มีวี่แววจะรักตอบกลับมาแล้ว คงเป็นการดีกว่าเป็นแน่ที่จะรีบตัดใจจากใครคนนั้นเสียแต่เนิ่น ๆ ก่อนจะต้องทุกข์ทรมานมากมายไปกว่านี้ ความรัก คือ การแลกเปลี่ยนสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน แต่ความหลงอยู่ฝ่ายเดียวมีแต่จะสร้างความผิดหวัง และความทรมานให้เกิดขึ้น