19 เมษายน 2550 21:30 น.

แค่อยากทดสอบหัวใจหรือว่ายังรัก

โนริโกะ


.......... ฉันไม่รู้ว่าทำไม  ฉันถึงทำร้ายหัวใจตัวเองอยู่เรื่อย ๆ  ฉันแค่อยากจะทดสอบหัวใจตัวเองว่ามีความเข้มแข็งมากพอหรือยัง  หัวใจที่ถูกคนที่ตัวเองรักทำลายอย่างไม่มีชิ้นดี  (ในความรู้สึกของฉัน)  นี่คือ เหตุผลที่ว่า  แค่อยากทดสอบหัวใจหรือว่ายังรัก.....
..........นั่นคือ การที่ฉันได้กลับมาพูดคุยกับคนที่เคยทำร้ายตัวเอง  จนคิดว่าชาตินี้คงไม่มีวันอภัยให้คนคนนี้ได้อีกแล้ว  เพราะการกลับมาครั้งนี้ของฉันนั้น  ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวังมากขึ้น  เพราะอะไร?  ก็เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา  ความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญ  ความทุกข์ที่เคยได้รับ...
...........และสิ่งที่ฉันเจอ  ณ  วันนี้  มันก็เหมือนเหตุการณ์เริ่มต้นความรักในครั้งนั้น  และก็ได้ยินคำว่ารักจาก เธอ  อีกแล้ว  แต่ความรู้สึกของฉัน ณ วันนี้  มันกลับไม่เหมือนเดิม ทำไม?  ฉันกลับรู้สึกเฉย ๆ  กับคำว่า รัก  เพราะความเชื่อถือ เชื่อมั่น  ในคำพูดของเธอ  มันได้หมดลงแล้ว  แต่มันก็ยังมีความรู้สึกสบายใจ ที่อย่างน้อยในหัวใจของฉันความโกรธมันลดลง  แต่ไม่ใช่ลืมสิ่งที่เขาเคยทำนะ  ฉันจดจำทุกอย่าง  แต่เมื่อเราโกรธ  เราแค้น  จิตใจมันจะทุลนทุลาย  มันร้อนรุ่ม  แต่ถ้าเราทำใจยอมรับได้  อภัยและปล่อยวาง  เรากลับรู้สึกสบายใจขึ้น
..........แต่ฉันก็ยอมรับว่าบางครั้ง  ฉันก็ยังรู้สึกเสียใจบ้างบางเวลา  แต่ก็คิดเสมอว่า  เวลาจะช่วยทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้นได้  และเธอคนนั้นก็จะเป็นแค่เพื่อนร่วมโลกเท่านั้น  สักวันเธอก็จะจางหายไปจากความทรงจำ เพราะเธอหมดความสำคัญสำหรับฉันแล้ว...........
				
15 เมษายน 2550 11:50 น.

“ผู้ชายในสายลม” (3)

โนริโกะ

ในที่สุดฉันก็ให้อภัยภานุอีกครั้ง  เพราะด้วยความรักหรือความหลงกันแน่  ฉันก็ไม่เข้าใจ  แต่ตลอดเวลาฉันก็ต้องตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า  ทำไม่เขาไม่ทำแบบนี้เพื่อเรา  ถ้าเขารักเราจริง  ฉันพยายามอดทนให้ความสัมพันธ์ของเราเนิ่นนานที่สุด
	และวันหนึ่ง  ภานุ  ก็บอกกับฉันว่า  แพร  เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเถอะนะ  แพรดีเกินไปสำหรับผม  ผมมันคนไม่ดี  ยิ่งผมคบกับแพรต่อไป  แพรจะยิ่งเสียใจ  ฉันเกิดอาการช็อคจริง ๆ  พูดอะไรไม่ออกนึกแต่ว่า  เมื่อผู้ชายเขาพูดอย่างนี้  เราคงไปเหนี่ยวรั้งอะไรเขาไม่ได้  ฉันพูดเพียงแต่ว่า  ได้ค่ะ  เรากลับไปเป็นเพื่อนกันก็ได้
	ทำไมความสัมพันธ์ของเรามันสั้นจังเลยนะ  แต่จริง ๆ แล้วระยะเวลาไม่ใช่สิ่งสำคัญในการคบกัน  เพราะบางคนอาจคบกันรู้จักกันเป็น 10 ปี  ก็เลิกกันก็มีถมไป  แต่บางคนคบกันแค่เดือนกันก็ตกลงแต่งงานอยู่กันอย่างมีความสุข  เพราะอะไร?  เพราะคนสองคนต้องมีความจริงใจให้กัน  พร้อมที่จะปรับตัวเข้าหากันและเขาทั้งสองคนมีความรักให้กันและกันไงหล่ะ  ไม่ใช่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งค่อยแต่จะรับความรักจากอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น
	แต่ถึงยังไง ฉันก็ยังคงสงสัยในสาเหตุที่ฉันต้องเลิกกับภานุ  แต่ฉันก็ใช้เวลาไม่นาน  เพราะในที่สุดฉันก็รู้ว่า  ภานุเขาหมายปองกัน  น้องนัท   เขาพยายามทุกทางเพื่อเอาอกเอาใจให้เวลาเต็มที่ขนาดว่า  น้องนัท เขามีแฟนอยู่แล้ว  ฉันก็ไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไรกับเรื่องนี้  แต่ที่แน่ ๆ  ฉันบังเอิญได้รู้มาว่า  ภานุมีเมียและมีลูกอยู่แล้ว  อยู่ที่บ้านต่างจังหวัด  เพราะวันนั้น แม่ของภานุเขามาหาที่ทำงาน เพราะไม่รู้จักที่พักของลูกชาย  และฉันก็ได้คุย  และช่วยนำทางให้  จึงได้รู้ว่าเขามีเมีย มีลูกแล้ว  นี่คงเป็นความโชคดีของฉัน  ที่ฉันไม่ได้เผลอตัวเผลอใจไปให้กับเขามากไปกว่านี้  มิฉะนั้นก็คงมีแต่เจ็บกับเจ็บ  ฉันจัดให้เขาเป็นประเภทผู้ชายเจ้าชู้  เขาคงไม่อยากจะเสียเวลาไปกับฉันมากไปกว่านี้  เพราะถึงยังไง  เขาก็คงไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการแน่  สู้ไปหาคนที่ดีกว่าในแง่รูปสมบัติ  และทรัพย์สมบัติไม่ดีกว่าหรือ  
	ปล่อยเขาไปเถอะ........ดีแล้วที่เลิกกัน..........สิ่งที่สงสัยใคร่รู้ก็ได้รับคำตอบแล้ว.........คนแบบนี้เมื่อเขาผ่านมา...............ก็ปล่อยให้เขาผ่านไปเถอะ.........เหมือนกับสายลม................ที่บางครั้งพัดพาความเย็นมาให้.................บางครั้งก็พัดพาเอาความร้อนมาให้..................แต่ถึงอย่างไรสายลมเมื่อพัดผ่านมาก็ต้องพัดผ่านไป.................เหมือนดังเช่น....................ผู้ชายในสายลม

                                            จบบริบูรณ์

				
30 มีนาคม 2550 20:10 น.

บันทึก…คนอกหัก

โนริโกะ

การที่ความรักของคนสองคนต้องจบลงนั้น  ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่บอกเลิกเขาก่อน  หรือถูกเขาบอกเลิก  ความรู้สึกแรกที่มีคงมีแต่ความเสียใจ  โดยเฉพาะถ้าถูกเขาบอกเลิกด้วยแล้ว  คงจะมีแต่โทษตัวเองอยู่นั่นแหละว่าเราไม่ดีตรงไหน  หรือแม้ว่าเหตุผลที่เขาบอกเราว่า  เราดีเกินไปไปสำหรับเขา  เราก็คงงงอีกนั่นแหละว่า  เราดีเกินไปตรงไหน  เราควรทำดีให้น้อยลงหรือ  แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใด  สิ่งที่เขาคิดก็คือ  เขาคงถามใจตัวเองแล้วว่า  เขาพร้อมจะยอมอยู่กับผู้หญิงคนนี้ตลอดชีวิตหรือไม่  ยอมที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้หญิงคนนี้ไหม  พร้อมจะปกป้องดูแลเธอไหม  พร้อมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอได้ไหม  และคำตอบก็คือ  เขาไม่พร้อมและคงทำไม่ได้แน่นอน  นั่นแสดงว่าเขารู้ใจตัวเองก่อนเรา
	ฉะนั้นฉันจึงอยากให้ผู้หญิงอย่างเราคิดแบบเขาบ้าง  คุณลองคิดดูนะ  สาเหตุที่ความรักของคุณจบลงนั้นเพราะเหตุผลอะไรกันแน่  เมื่อเขาทิ้งคุณไป  ปล่อยให้คุณต้องอยู่กับความเสียใจ  ความทุกข์ ทรมาน  ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่  ถึงจะหายจากความรู้สึกเช่นนี้  อยากให้คุณถามตัวเองดูว่า  ผู้ชายอย่างนี้เราจะยอมอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตได้ไหม  แต่อย่าใช้ความรักที่คุณมีให้เขาตัดสินนะ  เพราะถ้าใช้ความรักตัดสิน  สิ่งไม่ดีในตัวเขาจะถูกบิดเบือนให้กลายเป็นสิ่งที่ดีไปซะหมด  เขาไม่ใช่ผู้ชายที่พร้อมจะปกป้องดูแลเรา  อยู่เคียงข้างเราไมว่ายามทุกข์หรือสุขอีกต่อไป  คนแบบนี้หรือที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกับเขา  นี้ขนาดเป็นแค่แฟนกันนะ  แล้วถ้าอยู่กันไปไม่ยิ่งกว่านี้หรือ  คิดเสียว่าดีแล้วที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้  ถ้าหากว่าคบกันไปถึงขั้นจะแต่งงานกัน  แล้วเรามารู้ใจตัวเองว่า  เขาไม่ใช่คนที่เราต้องการ  การที่เราจะบอกเลิกคบกับเขามันอาจจจะลำบาก  เพราะเราคบกันมานานความผูกพันก็มีมากขึ้นตามลำดับ  ใหคิดเสียว่าดีแล้วที่เลิกกันเสียตอนนี้  หากเรารู้สึกโหยหาเขา  ก็ให้หมั่นถามใจตัวเองบ่อย ๆ ว่าเขาคือคนที่ใช่สำหรับเราหรือเปล่า  เราต้องรักตัวเอง  ต้องเข้าใจว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ เพราะถ้าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการเริ่มแรกเราอาจทำใจยอมรับได้อย่างที่เขาเป็น  แต่ต่อไปเราจะยอมรับได้แน่หรือเปล่า  เพราะฉะนั้นปล่อยเขาไปเถอะนะ  อาจมีคนที่ใช่ และเขาเป็นตัวจริงสำหรับเรารอเราอยู่ข้างหน้าสักวันเราคงได้เจอเขาคนนั้น.......
				
18 มีนาคม 2550 09:58 น.

…นี่แหละความเหงา…

โนริโกะ

บางครั้งเรามองว่า  คนคนนี้มีเพื่อนฝูงมากมาย  เขาคงจะไม่รู้สึกถึงความเหงา  อย่างที่เรารู้สึกอยู่  แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเลย
	เขายังต้องแสวงหาความจริงใจจากใคร  จากคนอื่น ๆ  อีกมากมาย  ทั้งที่เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่งนะ  แต่เราก็ไม่รู้จะช่วยเหลือเขาอย่างไร
	เมื่อมองย้อนกลับมาดูตัวเอง  ซึ่งเป็นคนที่ไม่ชอบการมีเพื่อนเยอะ ๆ  แต่บางครั้งก็ยอมรับว่ารู้สึกเหงาเหมือนกัน  แต่จะทำยังไงได้  เราเลือกที่จะมีความสุขกับการใช้ชีวิตลำพังมากกว่า
	จนในที่สุด  เราก็เรียนรู้แล้วว่า  การที่เรารู้จักใช้ชีวิต  โดยการให้เวลากับตัวเอง  มีตัวเองเป็นเพื่อนนั้น  เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว  เพราะเมื่อวันใดวันหนึ่ง  เราไม่มีเพื่อน  แต่เราก็ยังมีตัวเองเป็นเพื่อน  ซึ่งตัวเราเองนี่แหละ  คือเพื่อนแท้ที่จะอยู่กับเราไปตลอด  ไม่ว่ายามสุขหรือยามทุกข์
	เราก็ได้แต่หวังว่า  เพื่อนคนหนึ่ง  คงจะพบทางออกในชีวิต  ถ้าหากเขาเลือกที่จะแสวงหาเพื่อน ๆ  มาเติมเต็มชีวิต  ก็ขอให้เจอคนที่ใช่  เพราะทางเลือกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน  แต่สำหรับเรา  เราเลือกที่จะเป็นเพื่อนกับตัวเอง  เพราะเราไม่ต้องไปเหนื่อยกับการแสวงหาความจริงใจจากใคร......
				
18 มีนาคม 2550 09:53 น.

“ผู้ชายในสายลม” (2)

โนริโกะ

แพร  เดี๋ยวจะกลับบ้านแวะรับผมที่หอพักหน่อยนะ  รถผมเสีย
อ๋อ  ได้ค่ะ เดี๋ยวจะไปรับนะ
วันนี้บริษัทนัดพนักงานไปซ้อมร้องเพลงเชียร์กีฬาสี  ที่จะมีขึ้นอาทิตย์หน้า  จึงให้พนักงานไปซ้อมร้องเพลงเชียร์ที่โรงยิม ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง 
พี่จ๋า  เดี๋ยวแวะรับภานุที่หอพักหน่อยนะคะ  ปกติฉันกับพี่จ๋าจะขับรถจักรยานยนต์คนละคันกลับบ้านพร้อมกันเสมอ  แต่วันนี้ดูเหมือนว่าฝนจะตกด้วย  เพราะท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว
เมื่อฉันกับพี่จ๋าไปถึงทางเข้าหอพัก  และต้องข้ามถนนเข้าไป พี่จ๋าพูดกับฉันว่า
แพร  ภานุจะไปกับแพรเหรอ  ฝนจะตกแล้วด้วย  และรถยนต์ของน้องนัทก็จอดอยู่  เขาอาจจะนั่งรถยนต์ไปกับน้องนัทก็ได้นะแพร
แต่เขาบอกให้แพรมารับนะคะ  ยังไงขอแพรเข้าไปถามเขาก่อนนะ  พี่จ๋ารอแพรอยู่ตรงนี้ก่อนนะ
เมื่อฉันขับรถจักรยานยนต์ข้ามถนนมาถึงหน้าห้องพักของภานุ
ภานุ  จะไปกันหรือยัง
เอ่อ  ฝนจะตกแล้วผมกลัวจะเปียกฝนเดี๋ยวจะไม่สบาย
แล้วจะไปหรือเปล่า  ขณะนั้นฝนเริ่มตกแล้ว  และดูเหมือนว่าจะแรงขึ้นเรื่อย ๆ   ฉันรอการตัดสินใจของภานุสักพักเมื่อหันไปมองพี่จ๋า  พี่จ๋าก็ขับรถจักรยานยนต์ไปก่อนแล้วเพราะฝนเริ่มตกหนัก
ถ้าไม่ไปก็ไม่เป็นไรนะ  งั้นแพรไปก่อนนะเพราะพี่จ๋าเขาไปแล้ว  ขณะนั้นในใจเริ่มรู้สึกน้อยใจ  
เมื่อฉันและพี่จ๋ามาติดไฟแดงพร้อมกัน  พี่จ๋าถามฉันว่า
ภานุ  ไม่มาเหรอ
เขาไม่มาคะ  เขากลัวเปียกฝน
พี่ก็ว่างั้นแหละ  เขาสำอางจะตาย  เมื่อฉันกลับพี่จ๋าใกล้จะถึงโรงยิมแล้ว  รถยนต์ของน้องนัทก็ขับแซงหน้ารถของฉันไปพร้อมกับบีบแตรให้  ขณะนั้นฉันกับพี่จ๋าเปียกปอนไปทั้งตัวแล้ว มองทางแทบไม่เห็น  แต่ไม่เป็นไร  เพราะบ้านของฉันอยู่ก่อนถึงโรงยิม  ฉันจึงแวะเข้าบ้านก่อน
ขณะนั้นฉันกำลังตัดสินใจว่าจะไปซ้อมเชียร์ดีไหม  หรือไม่ไปดีเพราะในใจฉันคิดถึงแต่เรื่องที่ผ่านมา จึงตัดสินใจโทรไปหาพี่จ๋า
ฮัลโหล  พี่จ๋า  มีคนมาซ้อมเชียร์เยอะไหมคะ
ก็เยอะเหมือนกัน  แพรมาสิ  ภานุเขาก็มานะ  เขามากับน้องนัท  ฝนเริ่มหยุดแล้ว  รีบมานะ
ฉันมีความรู้สึกสองจิตสองใจว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี  ใจหนึ่งก็อยากจะไปเห็นหน้าเขา  อีกใจก็รู้สึกน้อยใจจนไม่อยากจะพบหน้าเขาอีก  นี่หรือคนที่เขาบอกว่ารักเรา  แค่เปียกฝนเขายังไม่ยอมเปียกฝนกับเราเลย  หากเขาห่วงเราสักนิด  เขาคงจะขับรถจักรยานยนต์ให้เรานั่งแล้วเพราะขับรถขณะที่ฝนตกนั้นมันอันตรายเหมือนกันนะ...
ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจมาซ้อมเชียร์  เมื่อมาถึงก็นั่งใกล้กับพี่จ๋า และเพื่อนคนอื่น ๆ  ภานุหันมามองฉัน
และฉันก็มองกลับอย่างเฉยเมย  ระหว่างซ้อมฉันกับภานุไม่คุยกันเลย จนกระทั่งซ้อมเชียร์เสร็จก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน ภานุเดินมาหาฉัน  และชวนฉันไปกินข้าวเย็นด้วยกัน
	แพร  ไปกินข้าวกันไหม  เมื่อเขาเข้ามาพูดดี ๆ กับฉัน  ฉันก็ตอบกลับไปดี ๆ  และพยายามไม่เอาเรื่องที่ผ่านมามาคิดมาก
	แล้วไม่กลับ  หอพักเหรอ
	ไม่กลับ  วันนี้จะค้างกับเพื่อนแถวนี้แหละ  ไปกินข้าวด้วยกันนะ  เราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเลย  
	แล้วไหนบอกว่า  จะไม่มาไง   ถึงยังไงฉันก็อดถามไม่ได้อยู่ดี  ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่รื้อฟื้นแล้วนะ
	ใครบอกว่าจะไม่มา  ก็กำลังคิดอยู่  แพรก็รีบออกมาเลย  นี่ถ้าไม่ได้น้องนัทนะ คงไม่ได้มาเจอแพรหรอก  ฟังแล้วเหมือนคำแก้ตัว  และเหมือนฉันเป็นคนผิดที่ใจร้อนไม่ยอมรอคำตอบจากเขา	ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจที่จะลืมเรื่องราวเหล่านี้ทิ้งไปซะ  เพราะมันจะทำให้ฉันกับภานุทะเลาะกันและไม่สบายใจกันไปเปล่า ๆ
	เรื่องราวระหว่างฉันกับภานุก็ยังคงดำเนินไปเหมือนเดิม  คือในที่ทำงานเราจะไม่ค่อยได้คุยกัน  แต่ก็ยังโทรคุยกันทุกวัน  วันไหนที่ภานุจะไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ  ตอนเย็นเขาจะโทรมาบอกว่า
คืนนี้ผมจะไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ นะ
เดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก  เพิ่งหายไม่ใช่เหรอ  ก่อนหน้านี้เมื่อภานุไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ทีไรเขาจะไม่สบายทุกที  เขาบอกว่าปฏิเสธเพื่อนไม่ค่อยได้  และก็ไม่ได้ไปบ่อย ๆ  นาน ๆ เพื่อนจะชวนสักที
กลับดึกไหม
ไมรู้เหมือนกัน
กลับเมื่อไร โทรบอกด้วยนะเป็นห่วงนะ  ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าการกระทำของฉันนั้น  เป็นการยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขามากไปหรือเปล่าแต่ขณะนั้น  ไม่ได้คิดอะไร
ได้  แล้วผมจะโทรหานะ
ภานุ  ก็ปฏิบัติอย่างนี้ตลอดจะโทรบอกเมื่อจะไปเที่ยว  หรือเวลากลับก็จะโทรหา  ไม่ว่าจะดึกแค่ไหนฉันก็นอนรอโทรศัพท์  บางครั้งก็หลับไปแล้วก็ยังตื่นมารับโทรศัพท์ทุกครั้ง  จนกระทั่งวันหนึ่งภานุบอกว่าจะโทรบอก ว่ากลับเมื่อไหร่  แล้วเขาก็ไม่โทรบอก  ซึ่งทำให้ฉันโมโห  เมื่อเจอกันที่ทำงานตอนเช้าฉันจึงทำบึ้งตึงใส่เขา  และเขาก็รู้ตัวนะ  เขาก็ไม่เข้ามาวุ่นวายกับฉันเลยตลอดทั้งวัน...   (โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ)
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโนริโกะ
Lovings  โนริโกะ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโนริโกะ
Lovings  โนริโกะ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟโนริโกะ
Lovings  โนริโกะ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงโนริโกะ