7 กันยายน 2550 10:12 น.
โคลอน
เมื่อสามวันที่ผ่านมา ยายของฉันไม่สบายต้องเข้าไอซียู ทุกคนที่บ้านอยู่พร้อมเพรียงกันตั้งจิตอธิษฐานให้ยาย ปลอดภัย ฉันกับน้าอยู่ไกลแต่ใจไปอยู่หน้าห้องไอซียูแล้ว แม่เล่าให้ฟังว่า
พอยายฟื้น ประโยคแรกที่ยายพูดก็คือ"นิมนต์พระมาหรือยัง" และยายก็พูดอะไรเยอะแยะอีกมากมายปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ได้ ในขณะที่ตาท่านเหม่อลอยอยู่ ช่วงเวลานั้นแม้แต่ผู้ชายตัวโตๆก็ร้องไห้ได้อย่างไม่อายใคร ฉันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของแม่ในขณะที่เล่า แม่ของฉันเป็นผู้หญิงที่แข็งและเป็นคู่กัดกับยายมาตลอด บ่อยครั้งที่ฉันต้องเป็นกรรมการบนเวทีและแอบเอนเอียงมาฝั่งยายเล็กน้อย เพราะฉันไม่ชอบที่แม่จะไปงัดข้อกับยายซึ่งไม่สมควร โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองก็ทำแบบเดียวกัน พอยายไม่สบายหนักจึงได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่ไม่เคยเห็น ความอ่อนโยนยังมีอยู่ในตัวแม่ และความเข้มแข็งยังมีอยู่ในตัวยาย
ขณะที่นั่งพิมพ์อยู่นี้ยายก็ยังอยู่ในห้องไอซียูอยู่แต่อาการดีขึ้นเรื่อยๆจนน่าอัศจรรย์ จากที่ทุกคนเห็นก็คือ ความสดใสของยายได้ฟื้นกลับมาเหมือนดั่งนกฟินิกส์ มันทำให้ฉันหายใจได้โล่งขึ้น โลกดูน่าอยู่ขึ้นทั้งๆที่ก็เป็นโลกใบเดิม ยายพูดคุยเล่าเรื่องเฮฮาสมัยตัวเองยังเป็นเด็ก ไม่รู้
เพราะอะไรยายถึงยังจำได้ดีทุกเรื่องราวทั้งๆที่ยายไม่เคยพูดถึง หรือเพราะจริงๆแล้วยายไม่เคยลืมเลยต่างหาก ทุกคนที่บ้านบอกว่า ยายเล่าไปหัวเราะไปจนทุกคนอดที่จะขำตามไม่ได้ จนนางพยาบาลต้องเชิญตัวทุกคนให้ออกไปนั่งรอหน้าห้องไอซียูเหมือนเดิม แต่ฉันเชื่อว่าแม่และน้าๆของฉันไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนคนไข้ท่านอื่นหรอก เพียงแต่เสียงหัวเราะเบาๆของคน6-7
คนมันคงจะมีพลังเท่านั้นเอง:p วันหยุดนี้ฉันคงไม่อยู่ ก.ท.ม หรอกเชื่อขนมกินได้เลย ฉันจะไปนั่งฟังยายเล่าเรื่องตลกดีกว่า เพราะมันน่ารื่นรมย์กว่าฟังจากแม่ทางโทรศัพท์เยอะเลย
ยายบอกว่า"ไม่ต้องกลัวเดี๋ยวจะเขียนพินัยกรรม แบ่งหนี้เป็นก้อนๆ ไม่ต้องแย่งกัน ได้ทุกคน"(รู้สึกสำนวนการพูดแบบนี้จะคุ้นๆ555โดนย้อนรอย) (T_____T)(^____^)หัวเราะทั้งน้ำตา พอจะนึกหน้าตาของทุกคนออก...นี่แหละนะ รอยยิ้มในห้องไอซียู ที่อยากจะประกาศให้โลกรู้ว่า "ฉันภูมิใจในตัวยายจริงๆ"