25 ตุลาคม 2548 16:07 น.
แอ็ปเปิ้ล
เธอบอกฉัน...ในวันที่เราไม่พบกัน
ให้ขอบฟ้าตรงนั้น คือตัวแทนหัวใจเราที่ชิดใกล้
ให้ระยะทางที่ไกลห่าง...แบ่งช่องว่างความคิดถึงคอยส่งไป
ให้สายลมที่พัดผ่านกระทบกาย คือทุกความห่วงใยที่เธอส่งมา
ในทุกค่ำคืนไม่ว่าดาวจะเต็มฟ้า หรือสิ้นแสง
เธอบอกฉัน ให้เข้มแข็ง เพื่อความฝันที่รออยู่ข้างหน้า
ทุกบทเพลงที่ซาบซึ้ง และเคยเปิดฟังร่วมกันมา
ความหมายยังล้ำค่า...แม้วันนี้เราต่างเปิดฟังเพียงลำพัง
ยิ้มไว้นะ...แม้เราจะอยู่ในองศาที่แตกต่าง
เก็บความรู้สึกดีดีไว้เคียงข้างเหมือนตะวันที่สาดแสงไม่สิ้นหวัง
เรายังมีเรา อยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน คอยเป็นแรงใจช่วยเติมพลัง
ท้อเมื่อไร...ขอให้คิดทุกครั้ง เรายังรักกัน...ฉันยังรักเธอ
11 กุมภาพันธ์ 2548 09:49 น.
แอ็ปเปิ้ล
กาลเวลา..เดินทางผ่านสายลม
บันทึกเรื่องราว บนโลกกลม ๆ ที่กว้างใหญ่
ตรงที่เก่า..ฉันฮัมเพลงเบา ๆ บนถนนสายหัวใจ
มีเพียงรอยเท้า..ของฉัน..ที่ก้าวไป..เป็นเพื่อนร่วมทาง
มองตะวันลับฟ้า ในมุมเก่า
มองพระจันทร์ หม่นเหงาในคืนอ้างว้าง
มองดวงดาว ระยิบบนฟ้า เป็นเส้นทาง
จะมีรอยเท้าใครไหม.. มานั่งเคียงข้าง..เป็นเพื่อนกัน
18 มิถุนายน 2546 12:34 น.
แอ็ปเปิ้ล
"ชีวิตคือการต่อสู้ หนูอย่าอ่อนแอนะลูก โลกนี้ยังมีอะไรที่ลูกต้องเจออีกมากมาย"
....นี่คือ คำพูดของผู้หญิงที่ฉันรัก....
"โธ่เอ๊ย....ไอ้หมาน้อย ถ้อยคำนี้มักจะได้ยินเมื่อฉันพูดหรือทำอะไรผิดไป"
....นี่คือ คำพูดของผู้ชายที่ฉันรัก....
"ยัยลูกเป็ดขี้เหร่เมื่อไรจะโต แม่นกหงส์หยกเมื่อไรจะมีแฟนกะเค้าซะที"
มือที่พากันรุมขยี้หัวฉันจนยุ่งไปหมดของบรรดาพี่ชายตัวดี....ที่ฉันรัก
คำพูดเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของทุกคนที่ฉันจำได้ขึ้นใจเลยละ
แม้ในวันนี้ฉันจะโตขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง แต่ทุก ๆ คนก็ยังคงมองว่าฉันเป็นเด็กเหมือนเดิม
ความรัก ความห่วงใยยังมีให้ฉันอย่างไม่ขาดตอน ถึงวันนี้ฉันไม่รู้ว่า
จะมีคำใดที่ยิ่งใหญ่มากกว่าคำว่า....รักมากที่สุด....อีกแล้ว
5 มิถุนายน 2546
วันนี้ฉันต้องออกเดินทางอีกแล้วละ แต่การเดินทางครั้งนี้มันไม่เหมือนกับการเดินทางทุกครั้ง
ตลอดการเดินทางฉันรู้เพียงว่า สับสน อ่อนแรง หัวใจร่ำไห้ตลอดเวลา
มีเพียงความเงียบงันที่ก่อตัวในหัวใจของคนในรถที่มุ่งไปสู่จุดหมายปลายทาง
ที่ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ฉันเฝ้าภาวนาขอได้โปรดอย่าให้เรื่องราวที่ได้รับฟังมา
เป็นความจริงเลย แต่มันก็ไม่มีเปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นไปได้แม้แต่สักนิดเดียว
ฉันลงจากรถอย่างเหม่อลอย เดินไปยังห้อง ๆ หนึ่งที่มีร่างผู้คนนอนอยู่บนเตียงเหล็ก
รอที่จะทำอะไรสักอย่าง ฉันไม่รู้จักพวกเค้าแต่ก็อดที่จะรู้สึกหดหู่ไม่ได้
ผู้หญิง 2-3 คนยืนอยู่ข้างประตูพากันร้องไห้ ฉันมองไปรอบห้อง....
และความรู้สึกของฉันตอนนี้ก็ไม่ต่างจากผู้หญิงคนนั้นที่กำลังยืนร้องไห้
ฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่...เมื่อภาพตรงหน้าที่เห็นเป็นหีบกล่องสีขาวที่รองรับร่างไร้วิญญาณ
กระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่ติดอยู่ข้างหีบมีชื่อที่ฉันจำได้ไม่ลืมเลือน.....ผู้ชายที่ฉันรัก....
ฉันพรึมพรำในใจเหมือนคนไม่มีสติ.....พ่อคะหนูมารับพ่อกลับบ้านคะ.....
วันนี้ฝนตกตลอดทางเหมือนน้ำตาฟ้าจะหลั่งรินมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
ภาพผู้ชายที่ฉันรัก ยังชัดเจนในหัวใจเสมอ พ่อคือผู้ชายแห่งรอยยิ้มที่สดใส
ทุกครั้งที่พ่อยิ้มเหมือนทุกสรรพสิ่งในโลกกำลังเริงร่าสนุกสนาน
แม้ผู้หญิงที่ฉันรัก และผู้ชายที่ฉันรัก จะมีเส้นทางเดินที่ต่างกัน แต่ฉันก็รักท่านทั้ง 2 ไม่ต่างกันเลย
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ฉันไม่คิดเลยว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย
ที่ได้มีโอกาสทานข้าวร่วมโต๊ะกับพ่อ พ่อมักจะบ่นพรึมพรำว่าหนูรักแม่มากกว่า
บางครั้งก็อดที่จะขำกับอาการงอนของพ่อไม่ได้ ได้แต่บอกว่าก็รักเท่ากันนั่นแหละ
ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน พ่อมักจะลูบผม และถามเสมอว่า การเรียนเป็นไง ใกล้จบหรือยัง
พ่อจำได้ไหม.....หนูบอกพ่อว่าหนูเรียนจบเล้วนะ พ่ออย่าลืมแต่งตัวหล่อ ๆ มางานรับปริญญาหนูนะ
เพราะนาน ๆ ที่จะได้มีโอกาสถ่ายรูปด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่วันนี้หนูไม่คิดเลยว่าภาพถ่าย
ที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาในวันนี้ จะอยู่ในงานที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย
พ่อมักจะว่าหนูทำตัวเป็นลิงเป็นค่างไม่รู้จักโตซะที หากวันนี้พ่อยังอยู่ข้าง ๆ
ก็คงจะหัวเราะ และเรียกหนูว่า ไอ้หมาน้อย เหมือนเคย ....อาจจะนานที่ห่างกันไป
แต่ก็เนิ่นนานกับความรักและความห่วงใยที่พ่อให้มาตลอด หนูไม่เคยลืมเลือนเลย...
9 มิถุนายน 2546
วันนี้แม้จะไม่มีร่างผู้ชายที่ฉันรักอีกแล้ว แต่พ่อยังอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ กายลูก ๆ ตลอดไป
ฉันประคองอัฐิของพ่อไว้ เดินไปกลางสะพานที่มีกระแสน้ำไหลเชียว ที่แห่งนี้คงจะทำให้
ดวงวิญญาณของพ่อได้เย็น สงบ ขอฝากความรักและศรัทธาไว้ ณ ลำน้ำชีแห่งนี้ด้วย
11 มิถุนายน 2546
หลายวันมานี้ฉันไม่มีกระจิตกระใจ จะทำอะไร ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น
ฉันเหนื่อยจัง เหมือนพิษไข้จะเกาะกุมอีกแล้ว ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา ปวดแขนข้างขวาไปหมด
สายน้ำเกลือค่อย ๆ ไหลผ่านเส้นเลือด ข้าง ๆ เตียงที่โรงพยาบาล ผู้หญิงที่ฉันรักกุมมือให้กำลังใจ
แววตาที่เป็นห่วงและกังวลยิ่งทำให้ฉันเจ็บปวด และ รู้สึกโกรธตัวเองอย่างที่สุด
ฉันบอกกับตัวเองว่า จะอ่อนแอไม่ได้นะ วันนี้ต้องลุกขึ้นสู้ ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ไป
ฉันจะต้องดูแล....ผู้หญิงที่ฉันรัก... อย่างดีที่สุด อยู่เพื่อคนที่เรารักและรักเราต่อไป
เค้าบอกว่าโชคชะตามักจะเล่นตลกกับเราเสมอ
ภายใต้ความตลดของชีวิตแฝงด้วยหยดน้ำตาตกใน
บ่อยครั้งที่ฉันตัดพ้อกับโชคชะตาว่า ทำไมต้องให้ฉันอยู่กับความเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในช่วงเวลานี้ ฉันเพิ่งรู้ว่าความสุขที่แท้จริงมันไม่มี ชีวิตคนเรามีแต่ความทุกข์
ทุกข์มากรู้สึกทรมาน ทุกข์น้อยรู้สึกสบาย แต่จากนี้ไปอีกกี่ครั้งที่ฉันต้องหัวเราะทั้งน้ำตา
ฉันเชื่อมั่นว่า ฉันจะเข้มแข็งและทนไหว
ตลอดเวลาความรักยังอยู่รายล้อม แม้ความตายก็ไม่อาจพราก
แม้บ้านหลังนี้จะไม่มีพ่อ พวกเรายังคงรักพ่อแและพ่อยังอยู่กับเราเสมอ
ทุกครั้งที่คิดถึงพ่อ ฉันจะคิดเสมอว่าพ่ออยู่ในที่ ๆ เป็นสุขที่สุดแล้ว
ความตายเหมือนการนอนหลับนาน ๆ แต่การมีชีวิตอยู่คือการต้องดิ้นรนต่อสู้
แม้ผู้ชายใจดีจะ ณ ดินแดนอันไกลโพ้น แต่ฉันรู้สึกว่าไม่ว่าฉันจะทำอะไร
เหมือนมีความปรารถนาดีและกำลังใจคอยส่องสว่างมาจากฟากฟ้าไกล
ผู้ชายที่ฉันรักอาจจะเป็นดาวดวงนั้นที่ทอแสงประกายดั่งรอยยิ้มสดใสของพ่อ
ที่ฉันได้เห็นเสมอยามมีชีวิต พ่อคะ....พ่อยังอยู่กับพวกเราเสมอ ....หนูรักพ่อคะ.....
เวลาเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดหย่อน
และเวลาไม่อาจเดินย้อนกลับมาตรงนี้
เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม เรื่องราวดีดี
เป็นเพียงภาพอดีตที่มีในความทรงจำ
แต่ความรักยังฝังลึกตรงกลางใจ
แม้วันนี้จะหลือไว้เพียงความบอบช้ำ
โอ้...หนึ่งชีวิตที่จากไปในคืนค่ำ
ขอบอกย้ำว่าห่วงหาและอาลัย
หลับเถอะนะ....หลับให้สบายเวลานี้
โลกใบเก่าอาจไม่ดีเท่าโลกใหม่
หวังเพียงสุดโพ้นฟ้าดินแดนไกล
พ่อของลูกอยู่สุขสบายก็เพียงพอ
แม้ชีพดับแต่ความรักไม่ดับสิ้น
วานผืนดิน แผ่นฟ้า ช่วยบอกต่อ
ตราบโลกนี้ และโลกหน้าที่เฝ้ารอ
ข้าวอนขอฝากรักส่งถึงภพไกล
9 เมษายน 2546 14:23 น.
แอ็ปเปิ้ล
เธอบอกว่าฉันเข้มแข็งดี
หากขาดอะไรไปหรือไม่มีคงไม่เท่าไหร่
ถ้าอะไรที่ว่า...คือเจ้าของโชคชะตาหัวใจ
ให้แกร่งแค่ไหน...ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน
แล้วคนที่ว่า...ก็คือเธอ
ฉันไม่มีนะเหรอ...จำไว้เหอะสั้น ๆ
ถ้าขาดเธอไปชีวิตฉันคงเคว้งคว้างในแต่ละวัน
แค่เธอทำเหมือนให้จบกัน...ฉันก็ไม่เป็นอันทำอะไร
นึกถึงเมื่อไร...ใจฉันแพ้
สร้างภาพว่าเข้มแข็งทั้งที่อ่อนแอไม่รู้เท่าไหร่
ฉันไม่เคยวาดหวังกับความรักว่าจะต้องได้อะไร
จึงยอมให้ใจไป...แม้ต้องแลกด้วยน้ำตาหม่นไหม้ก็ยอม
ความเวิ้งว้างกำลังมาเยือน...โลกยังหมุนอยู่เรื่อยไปไม่จบสิ้น
แต่ทว่า...หัวใจของฉันเวลานี้ นับวันยิ่งจะแผ่วลง
ความคิด ความรู้สึก อารมณ์ และจิตใจ
เหมือนไม่มีอยู่ในตัวตนของฉันเลย
อาจเพราะความรู้สึกดีดีที่เรียกว่า...รัก...กำลังจะจากไป
ในวันที่สายลมแห่งรักพัดมา พัดเธอและฉันให้ได้มารู้จักกัน
ท่ามกลางความห่างไกล บนหนทางแห่งการรอคอย และต่างหวังว่าสักวันคงได้ใกล้กัน
ฉันไม่รู้จักความรัก....เธอสอนให้ฉันได้รู้จักความหมายของคำ ๆ นั้น
เธอสร้างคืนวันและเวลาที่แสนมีค่า โอบล้อมไม่ด้วยถ้อยคำที่ว่า
คิดถึง ห่วงใย กำลังใจ และความผูกพัน
ทางแห่งฝันที่เราจะเดินไปด้วยกันตรงขอบฟ้าไกล
ทำให้ฉันได้รู้ว่า นิยามความรัก ที่แท้ก็คือ..ความเข้าใจระหว่างคนสองคนที่จะเชื่อมให้ใกล้กันในวันที่ห่างไกล
แต่ในวันนี้...สายลมกำลังจะพัดพาเธอไปจากฉัน
เพิ่มความห่างไกลให้ไกลยิ่งกว่าเดิม ด้วยเหตุผลที่ว่า
"ฉันมีเพียงความว่างเปล่าให้กับเธอ" ถ้อยคำนั้นทำให้ฉันพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
การรอคอยของเธอกำลังจะสิ้นสุดลง
เธอบอกว่า "เมื่อเจอคนที่แสนดีผ่านมาในชีวิต เธอคงไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป"
ฉันพร้อมที่จะเข้าใจดีในทุกอย่าง รู้ตัวอยู่เสมอ..ฉันก็แค่คนอื่นคนไกลไหนเลยจะสำคัญเท่าคนใกล้
ในขณะที่เธอบอกฉัน...รู้ไหมว่าหัวใจคนคนนี้เป็นอย่างไรบ้าง และเธอเองก็คงจะลืมไป
ว่าคนที่เธอพูดอยู่....เป็นคน ๆ เดียวกันกับคนที่รอเธอ
ฉันเหม่อลอยไปไกล...โชคชะตาของหัวใจกระซิบบอกฉันว่า "ขอบฟ้าไม่มีจริง"
ความรู้สึกในตอนนี้เหมือน...ลมหายใจจะหยุดลงเป็นช่วง ๆ
หลังจากนั้นโลกทั้งใบก็ระงมไปด้วยเสียงร่ำไห้ของคนอ่อนแอ
ฉันขอโทษ...ที่ทำให้เธอผิดหวังในตัวฉัน
ที่ผ่านมาเธอจะมองฉันว่าร้ายหรือดีก็สุดแล้วแต่เธอเถอะ
แต่ขอได้โปรด...อย่าดูถูกทุกความรู้สึกที่ฉันมีให้เธอว่า...เป็นเพียงความว่างเปล่าเลย
คำพูดของเธอทำให้ฉันปวดใจ แต่ในความเจ็บปวดไม่เคยทำให้ไร้รัก
ฉันอาจไม่เคยบอกว่ารักเธอมากแค่ไหน....แต่อยากให้รู้ไว้
ในทุกอักษรของความรู้สึกที่บอกเล่าจากหัวใจว่า...ฉันรักเธอนะ...
เพราะคำ ๆ นี้มันจะยังคงอยู่ให้เธอได้เห็นและไม่หลุดลอยไปไกลเหมือนคำพูดจากปาก
ไม่มีอะไรเป็นความผิดของเธอและฉันทุกอย่างเป็นไปตามโชคชะตาของหัวใจ
เมื่อเธอได้พบคนที่แสนดี ฉันคนนี้ก็ดีใจไปกับเธอด้วย ได้แต่หวังว่าเขาจะรักเธอมาก
มากกว่าในความรักที่เธอบอกว่าไม่เคยหาได้จากฉัน...และขอให้เธอรักเขาให้มากกว่าที่คอยบอกฉันไว้...ก็พอ
เพราะชีวิตของฉันไม่มีพรหมลิขิต ไม่มีปาฎิหารย์
จะมีก็แต่เพียงโชคชะตาที่ขีดเส้นทางสายอ้างว้างให้กับฉัน
ดังนั้น...สุดเส้นขอบฟ้า ณ ที่มีรุ้งทอดข้ามผ่านฉันจะเดินไป
ด้วยความหวังที่ว่า...โชคชะตาของหัวใจอาจทำให้เธอผ่านมาพบฉันเข้าสักวัน
ในวันที่เธอไม่มีใคร....ทุกความรู้สึกของฉันยังคงไม่เปลี่ยนไป
แม้เธอจะไม่เข้าใจฉัน....แต่ฉันรู้หัวใจฉันดี...ฉันรักเธอ
คงเป็นเพราะฟ้าเบื้องบนเป็นคนขีดโชคชะตา
ส่งฉันและเธอได้มาให้ได้พบเจอกัน
ให้ฉันได้มีโอกาสลิ้มรสในความชื่นบาน
ให้เรามีกัน....มีวันเวลาที่ดี
และเป็นที่ฟ้าเบื้องบนเป็นคนพรากเราเช่นกัน
ให้เวลาเพียงแค่นั้น...กลับต้องเสียเธอไป
ฉันรู้ว่าไม่มีหวัง จะเหนี่ยวและรั้งเธอไว้ข้างกาย
แต่รู้ใช่ไหม...ว่าฉันไม่เคยเสียใจ
แค่เธอรักฉัน...ที่ผ่านมาก็เป็นเกียรติเกินพอ
ไม่ขออะไรมากมาย...แค่ได้รักเธอ
แค่มีเวลาช่วงหนึ่ง...ที่สมบูรณ์เพราะมีเธอ
ชีวิตของฉันก็คุ้มกว่าคนมากมาย
แค่เพียงได้พบได้เจอะเธอนั้นก็ดีเกินพอ
จากนี้ฉันจะไม่ร้องและไม่ขออะไร
ถ้าเราจะต้องจากกันไม่ว่าด้วยเหตุผลใด
แต่รู้ใช่ไหม...ว่าฉันไม่เคยเสียใจ...ที่ได้รักเธอ
4 เมษายน 2546 16:22 น.
แอ็ปเปิ้ล
เค้าไปจากเธอแล้ว!!!!
ไม่เป็นไร ทำใจดีดีไว้...ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอนะ
อย่าร้องไห้ ... น้ำตาลูกผู้ชาย...ฉันกลัว...ฉันหวั่นไหว...ฉันปวดใจ
ฉันไม่เหลือใครแล้ว
...ไม่เป็นไรเธอยังมีฉัน...
ทำไมเธอถึงดีกับฉันอย่างนี้ละ...
เพราะ- - - เพราะ- - - เพราะฉัน..... (ความเงียบงันกลืนคำตอบให้จางหายไป)
เธอดื่มเหล้าหนักขึ้นทุกวัน เธอบอกว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอลืม
ฉันห่วงเธอ....และบอกให้เธอเลิกได้ไหม
ถ้าฉันเลิกเธอจะให้อะไรฉัน?
เธออยากได้อะไรละ
ขอให้เธอรักฉันได้ไหม..... ฉันนิ่งไป- - - ทำไมจะไม่ได้ละ
ความใกล้ชิด ความผูกพัน ความสงสาร - - -
ทุกความรู้สึก ... กำลังจะก่อตัวเป็น ความรัก ใช่ไหม?
ครั้งหนึ่ง...ฉันเคยเฝ้ามองเธออยู่ห่าง ๆ
มองทางแห่งความฝัน ... และความสำเร็จของเธอ
วันนี้ "เธอล้มลง" ฉันจับมือเธอไว้
ฉันพยายามจะฉุดดึงเธอขึ้น ..... เธอประคับประคองตัวให้ลุก
เธอมีกำลังใจมากขึ้น ....ฉันดีใจที่เธอยิ้มได้
วันนี้...โลกของฉันกลายเป็นสีชมพู
เมื่อเธอเดินมาและบอกกับฉันว่า "เธอรักฉัน"
รัก รัก รักคืออะไรกันนะ แม้ไม่รู้ความหมาย...แต่ฉันก็อบอุ่นใจจัง
ความรัก...ทำให้ฉันกลายเป็นนักกวี
เธอบอกว่า....เธออยากวาดภาพและให้ฉันแต่งกลอนประกอบภาพนั้น
ฉันยิ้ม .... ฉันดีใจ ...ฉันจะรอ
เวลาผ่านไป....
พักนี้เธอดูซึมไปนะ....
เมื่อวานเค้าโทรมา...ใครเหรอ...คนที่ทอดทิ้งฉันไปไง
เค้าขอโทษ...และอยากให้เรามาเริ่มต้นใหม่
แล้วเธอบอกเค้าไปว่ายังไงละ ?
ฉันรอฟังคำตอบด้วยหัวใจที่สั่นไหว เธอนิ่งไป...
ไม่เป็นไรนะ...อยากให้เธอเลือกในสิ่งที่เธอต้องการ
ฉันฟืนพูดไป....ทั้งที่ใจจมน้ำตา
เธอบอกว่า...เธอไม่รู้หัวใจตัวเอง...
แต่แววตาเธอ...บอกกับฉันว่าความอาทรและเยื่อใย มีมากเกินจะเก็บซ่อนไว้ได้
บ่อย ๆ ที่เห็นเค้าเดินผ่านมาและทักทาย
แต่เธอทำเฉย ๆ ไม่ค่อยยิ้มและพูดจา
แต่สิ่งที่ฟ้องว่ามันไม่จริงคือสายตา
สบตากันทุกครั้งก็เป็นเธอที่หวั่นไหว
เจ็บปวดรู้ไหมที่ได้รู้ความเป็นจริง
ว่าเธอนั้นไม่เคยจะลืมและยังรักเค้ามากมาย
เจ็บปวดทุกครั้งแต่ต้องทนอยู่เรื่อยไป
จะห้ามได้อย่างไร...กับเค้าคนที่เธอ...ไม่ลืม
วันนี้...ฉันสับสน อ่อนล้า อ่อนแรง
ความดีใจและเสียใจปะปนกันไปหมด...ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไรไป
เห็นเธอมากับเค้าฉันก็พอจะเข้าใจว่าคืนดีกันแล้ว
บอกกับตัวเองว่าในใจไม่ขมขื่นแต่น้ำตากลับไหลมาจากไหล
อีกหน่อยเธอคงจะลืมฉัน...อีกหน่อยเราคงไม่ได้พบกัน
ฉันคงเดียวดายอยู่อย่างนี้ทุกวันและคงได้เจอภาพเธออยู่ในฝัน...ตลอดไป
เธอมาบอกลาฉัน....ขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมาและบอกให้ฉันลืมมัน
ฉันบอกกับตัวเองอย่าร้องไห้นะ....อย่าแสดงความอ่อนแอไห้เค้าเห็นตอนนี้
ไม่เป็นไร..ฉันเข้าใจ ฉันจะพยายามลืมมันให้ได้นะ...
เธอเดินจากไปแล้วไปพร้อมกับตัวจริงของเธอ
ฉันยืนแน่นิ่งอยู่กับที่....รู้สึกเหมือนลมหายใจหยุดลงชั่วขณะ
ชาไปหมดทั้งหัวใจ เจ็บจังเลย...
เคยคิดว่าเรารักกัน
คงเพราะฉันเข้ามาในวันที่เธออ่อนไหว
เคยคิดว่าเรามั่นคงต่อใจ
คงเพราะเธออ่อนแอเกินไปในวันวาน
เหมือนว่าเธอเคยรู้สึก
เหมือนบางครั้ง...ความคิดนึกเธอหวั่นไหว
เหมือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไป
เหมือนทำให้สองใจเราตรงกัน
แต่ทุกอย่างก็แค่เหมือน
แท้จริงย้ำเตือนฉันแค่ฝัน
เจ้าของใจเธอคือใครคนนั้น
สำหรับฉัน...แค่เงาตัวจริงที่ผ่านมา
หากเธอจะช่วยรับรู้
หัวใจที่มีอยู่คงไม่รอนล้า
ช่วยบอกฉันทีว่าที่ผ่านมา
เธอไม่ตั้งใจจะบอกว่า...รักกัน
วันนี้ฉันเข้าใจมากขึ้น...
ความรักทำให้ฉันกลายเป็นนักกวี
ส่วนความผิดหวังทำให้ฉันกลายเป็นนักปรัญชา
รักคืออะไร วันนี้ฉันได้คำตอบแล้ว
รัก....คือการจากลา ไม่เหลือซึ่งพันธนาการใด ๆ
หากนั่นหมายถึงอิสระและความสุขของคนที่เรารัก
อาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่พอจะทำให้ใครสักคนได้เห็นค่า
เมื่อถึงที่สุดฉันคงต้องบอกลาความรัก และบอกตัวเองว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว
สายน้ำไม่ย้อนกลับ
ความรักจึงหลับไหล
อดีตกาลผ่านเลยไป
รอยอาดูรหวนให้คอยจดจำ
หัวใจแห้งและแล้ง
อย่ากลับมาเพื่อแทงซ้ำ
แหลกพอแล้วที่เธอทำ
ตอกและย้ำจนฝังใจ
เพราะไม่รู้..จึงเคยรอ
หวังเกิดก่อ...คงเป็นได้
แท้จริงแล้วโง่งมงาย
ตามเก็บฝันเพียงลำพัง
...นาทีที่เธอไป...
หัวใจเหมือนถูกขัง
ตรึงจนชาในภวังค์
ถูกกลบฝังใต้ผืนดิน
ความรักฉันหมดแล้ว
ถูกทำลายจนแหลกสิ้น
สิ่งที่เหลือให้กลืนกิน
คือหยดรินหยาดน้ำตา
ลาก่อน...เจ้าความรัก
ขอไปพักใต้เงาฟ้า
ลืมเถิดที่ผ่านมา
ให้บทลา...กลบสัญญา...หมดสิ้นไป
ถึงกระนั้น...ฉันก็ไม่รู้สึกโกรธ หรือโทษเธอ
แต่กลับอดที่จะศรัทธาในความรักและความมั่นคงที่เธอมีให้เค้าไม่ได้
ทางแห่งฝันของเธอใกล้เป็นจริงแล้วสินะ
ส่วนทางของฉัน....ไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรอีก
จะต้องเจ็บอีกสักกี่ครั้ง...จะต้องเจอความผิดหวังสักกี่หน
แต่ฉันก็จะรอ.....รอ.....รอสักวัน
ที่จะพบเจอ....คนที่รักฉันอย่างแท้จริงไม่ว่าจะไกลหรือจะแสนนานเพียงใด
สำหรับบทเรียนนี้...
ฉันจะให้มันกลายเป็นเรื่องเล่านิทานแห่งน้ำตา
ของคนโง่เขลาคนหนึ่งเท่านั้นเอง...
และจากนี้คงต้องมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจไว้ให้ดีดี o^___^o