30 กรกฎาคม 2549 02:12 น.
แสงไร้เงา
ที่ฉันตบตบด้วยปากพร้อมฝากจิต
มาแนบชิดเรื่องราวข้อกล่าวหา
มิได้หลงคิดเข้าข้างอย่างขวัญตา
ที่เขียนว่าใจฉันนั้นดำเอย
ยิ่งมาว่าเราร้ายและใจดำ
จะจูบย้ำตามใจไม่อยู่เฉย
เกรงว่าจูบนี้หวามทั่วทรามเชย
เจ้าฮัดเช่ยบอกมาว่ารักกัน
น้อยแน่ะจะมาจุมพิตทั่วทั้งร่าง
ซะซะอย่างฉันจะยอมง่ายหรือนั่น
ใจก็ดำแถมปากร้ายไม่อายกัน
อุ้ยตายตายจิตฉันหวั่นอีกที
กลัวจริงจริงกลัวจะโดนตบคว่ำ
จะใจดำกับฉันจริงหรือหมอนี่
คำก็ตบคำก็จูบไม่รอรี
พูดดีดีไม่ได้หรือไงมิตร
ดู๋ดูว่าเราร้ายและใจดำ
น่าตบคว่ำด้วยปากดั่งทากติด
ช่างกล้าพูดไม่อายในความคิด
เดี๋ยวจุมพิตอีกครั้งทั้งร่างเลย
18 กรกฎาคม 2549 04:39 น.
แสงไร้เงา
อยู่เมืองนอกบอกกันมันเหว่ว้า
เริ่มหัดพูดภาษา-พอเข้าหู
จะซึมเศร้าเหงาไหมให้คิดดู
ต้องมาอยู่ไกลทางต่างลำเนา
เรียนไม่จบหลักสูตรพูดไม่คล่อง
จะหันมองทางไหนใจนึกเหงา
ไม่ร่ำรวยสวยสง่าปัญญาเบา
ภาพรวมคือ"ผู้เยาว์"เขาว่ากัน
มีแต่เพียงเสียงเพลงช่วยปลอบจิต
มิมีเพื่อนคู่คิดร่วมสร้างฝัน
จึงเขียนกลอนปลอบใจไปวันวัน
รอคนนั้น-คนไหน-ที่ใจจริง
"จาก : แสงไร้เงา - 29/03/2006 02:24 "
หนุ่มหน้ามลคนไหน"ป้าไม่รู้"
จะเที่ยวตู่ถามหาป้าเกรงกริ่ง
กลัวมีคนรับจ้างมาอ้างอิง
จึงยังนิ่งเฉยไว้ไม่ภิเปรย
ป้าก็อยู่เมืองนอกบอกอีกหน
และคบคนทั่วไปใจเปิดเผย
"ส่วนหนุ่มนอก"เมืองไทยป้าไม่เคย
รู้จักเลยสักคนจึงจนใจ
เห็นเพียง"หนุมกระบี่"ที่มาบ่อย
จะนั่งคอยถามหาถ้ามาใหม่
"หนุ่มเนื้อเหลือง....วู้วู้....อยู่หนใด?
เชิญขานไขตอบถ้อยเป็นร้อยกรอง
"จาก : ป้าหมู - 29/03/2006 03:38"
หนุ่มบ้านทุ่งมะกาอยู่ฟ้าหนาว
เขียนกลอนคราวใดหนอใจก็ผ่อง
เพราะถ้อยคำใหม่ใหม่ที่ใจปอง
ยังพอคล้องใจเหงาที่เศร้าซึม
"จาก : บัญชา ปิยะ - 29/03/2006 05:38 "
อยู่เมืองนอกบอกได้ไม่เหว่ว้า
หลายภาษาเจื้อยแจ้วแล้วไม่ขรึม
สนุกดีไม่เหงาเพื่อนเราตรึม
(สระอึมลงยากฝากบอกกัน)
ถ้าหากเหงาเล้าหมูอยู่เป็นเพื่อน
มาเยี่ยมเยือนอยู่บ่อยพลอยสุขสันต์
มาทักทายน้องใหม่ใจตื้นตัน
น้าหมูนั้นใจดีพี่พูดจริง
"จาก : Ora - 29/03/2006 13:51"
อยู่บ้านนอกบอกได้ว่าไม่เหงา
เพราะมีเล้าป้าหมูอยู่ให้สิง
หลบลมร้อนผ่อนกายไปพักพิง
อีกหนึ่งสิ่งคือเรียนรู้อยู่งานกลอน
เพื่อนพี่น้องบ้านเล้าล้วนใจดี
แนะสิ่งที่ถูกต้องของอักษร
สุขหรือทุกข์ร่วมใจใส่อาทร
ไม่ทุกข์ร้อนผ่อนใจได้ตรงนี้
"จาก : กริ๊ม - 29/03/2006 22:11"
ใครบอกว่าไม่เหงาเฝ้าทักท้วง
เพราะความเหงาทั้งปวงนั้นทวงถี่
จึงเข้าออกบอร์ดลานบ้านกวี
ฝากวาทีรำพันวันเวลา
นี่ล่ะฤามิเหงาที่กล่าวขาน
ตัวเล็กเองสร้างบ้านก่อจากป้า
เห็นอยู่นอกใหม่ใหม่เหงาอุรา
จึงเมตตาสร้างบ้านวรรณกรรมฯ
เจ้าบ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก เด็กไทยพลัดถิ่น ณ แผ่นดินอเมริกา
"จาก : ตัวเล็ก usa - 29/03/2006 22:26 "
แต่ตอนนี้มีเพื่อนเยือนเต็มบ้าน
กว่าจะผ่านมาต่อรอเช้าค่ำ
เข้าบ้านโน้น-บ้านนั้นปันถ้อยคำ
มีครบขาประจำ-ซ้ำขาจร
ก็คงหายเงียบเหงาเศร้าใจจิตร
มีเพื่อนมิตรวนเวียนเขียนคำอ้อน
บ้านสุกรวดีมีแต่กลอน
ชอบขอดค่อนนินทาว่าใคร-ใคร
" จาก : ป้าหมู "- 30/03/2006 07:33
แสงไร้เงาขอทักท้วงอีกหน
มันเงียบเหงาเศร้าจนทนไม่ได้
คนไม่เคยมาอยู่รู้อย่างไร
คิดถึงไทยเช้าค่ำพร่ำรำพัน
ไม่ได้ไกลจาก ตัวเล็กฯ-ป้าหมู
สามเราอยู่ผืนแผ่นดินเดียวนั่น
คนละรัฐเดินทางไม่ถึงวัน
ใจตื้นตันเพื่อนพ้องมาทักทาย
ขอบพระคุณเพื่อนเพื่อนและพี่พี่
ตัวฉันนี้น้องใหม่ใจมุ่งหมาย
เหมือนไร้เพื่อนทั้งที่มีคนมากมาย
เหมือนอยู่เดี่ยวเดียวดายในเวลา
"จาก : แสงไร้เงา" - 30/03/2006 07:52
"แสงไร้เงา" ขอบคุณก็อุ่นจิต
เพราะมีมิตรต่างบางอยู่ห่างหล้า
ลุยหิมะมานานห่างบ้านนา
จากชิคาโกไปลุยไล่ร้อน
อยู่ ณ เมืองโคลวิส ชิดภูเขา
นั่งใต้เงาสนใหญ่จนใจอ่อน
จะคืนถิ่นดินไทยใจอาวร
ภาพสะท้อนความหลังยังฝังใจ !
" จาก : บัญชา ปิยะ โคลวิส แคลิฟอร์เนีย " - 31/03/2006 04:02
อยู่ไกลบ้านนานวันที่ผ่านพ้น
แต่ยังหม่นจิตอยู่แต่สู้ไหว
ด้วยมีมิตรทางกลอนฝากฤทัย
ด้วยฝันใฝ่ในฝันดั้นด้นมา
"แสงไร้เงา" เจ้าอยู่ ณ หนไหน
โปรดขานไขสักนิดส่งจิตหา
เพียงรู้จักทักทายในเวลา
คงมิกล้ารบกวนป่วนฤดี
" จาก : ตัวเล็ก usa "- 31/03/2006 05:22
แม้มิใช่ฟูเฟื่องอยู่เมืองนอก
แต่บางกอกงดงามตามวิถี
ประชาชนชาวไทยมากไมตรี
ทุกวันนี้ไม่หลอก...อยู่นอกเมือง
" จาก : นกนางนอน " - 31/03/2006 21:17
อยากกลับไทยใจจะขาดรอนแล้ว
ฟังนกแก้วเล่านิทานไปตามเรื่อง
หิวก็หาผักปลาเกลื่อนนองเนือง
ไม่หมดเปลืองปรู๊ดปร๊าดแถวฟ๊าตสฟู้ต
" จาก : นกหวีด " - 31/03/2006 21:28
ไปจับกุ้งจับปลาแถวหน้าบ้าน
มาแกงเลียงหม้อบานรสกระฉูด
เรือหางยาวเร็วยิ่งวิ่งปร๊าดปรู๊ด
หน้าบ้านใครไม่อยากพูดให้อาวรณ์....
" จาก : นกนางนอน" - 01/04/2006 23:10
ขอบคุณทุกๆคนที่ร่วมต่อถ้อยร้องกรอง
เก็บทุกข้อความ มาบันทึกไว้ที่นี่ด้วยประทับใจ
คนเล้าหมู คงไม่มาที่ไทยโพม ยกเว้นพี่ตัวเล็ก-พี่ออร่า
..................ประทับใจจริงๆ คะ.......................
16 กรกฎาคม 2549 02:50 น.
แสงไร้เงา
ผมเป็นกุ้งใช่ปูดูรูปร่าง
ก้ามเรียวบางสมตัวไม่มัวหม่น
มองผ่านได้ถึงหัวทั้งตัวตน
ผมเห็นคนมามองจ้องสบตา
เธอยิ้มหวานผ่านตู้เหมือนรู้จัก
แล้วทายทักชักชวนทวนคำว่า
ช่างน่ากิน-น่าชมสมราคา
เธอมองมา-มองไปใจนิยม
เธอตกลงปลงใจไม่ชักช้า
เธอเข่นฆ่าพวกพ้องพี่น้องผม
ที่บ้านเธอมีเพื่อนมาเยือนชม
ถ้วยถาด-กลมตั้งอยู่คู่เหล้าไวน์
หลังสิ้นใจได้ยลหลายคนที่
หยิบชิ้นนี้-ชิ้นนั้นแย่งกันไขว่
เมื่ออิ่มหนำสำราญเบิกบานใจ
ทิ้งเปลือกไว้ให้เห็นเป็นกระบุง
สรุปว่าผมตายวายสังขาร์
พร้อมกับญาติกามาเป็นถุง
เขาเปลี่ยนชื่อผมใหม่ใส่เครื่องปรุง
กลิ่นหอมฟุ้งตลบ"กุ้งอบเกลือ"
15 กรกฎาคม 2549 07:21 น.
แสงไร้เงา
หญิงสาวผู้อาศัยในแดนฝรั่ง
ชื่อไม่ดังนามสกุลไม่คุ้นหู
ยังไม่มีชายหนุ่มมาอุ้มชู
มาเคียงคู่ดูแลแผ่อุ่นไอ
พูดอังกฤษไม่ชัดยังขัดข้อง
ทั้งสีผิวก็ฟ้องไม่ผ่องใส
เพียงแต่มีส่วนดีที่จิตใจ
เป็นคนไทยไกลบ้านผ่านเวลา
มีเพื่อนคุยผ่านจอพอหายเหงา
พร้อมเรื่องเล่าแบ่งปันวันหมอกหนา
เพื่อนหญิงชายทายทักสมัครมา
เป็นเพื่อนคุยจ๊ะจ๋าพาชื่นบาน
ยังไม่มีคู่รักเป็นหลักหมั่น
ปล่อยเรื่องนั้นวางไว้ไม่ฝันหวาน
อยู่เป็นโสดต่อไปให้นานนาน
จะขึ้นคานวันไหนไม่ห่วงเลย
30 มิถุนายน 2549 15:23 น.
แสงไร้เงา
เธอคือลมหายใจในความฝัน
ทุกคืนวันฉันยังคิดถึงเสมอ
อาจทำได้ถูกต้องแอบมองเธอ
เก็บเอามาพร่ำเพ้อเสมอมา
เธอคือลมหายใจในความฝัน
ยังตื้นตันอบอุ่นด้วยคุณค่า
อยากมีเธอเคียงข้างไม่ร้างลา
ซับน้ำตาคอยดูแลแผลตรงใจ
เธอคือลมหายใจในความฝัน
ความจริงนั้นเรารักกันไม่ได้
ขอเก็บความอบอุ่นละมุนละไม
แม้วันไหนขอฉัน" ฝั น ถึ ง เ ธ อ "