8 มกราคม 2545 18:57 น.

นกน้อย ทุ่งข้าว และชาวนา

แสงแรก ประดับดิน

นกน้อย ทุ่งข้าวและชาวนา
เมื่อนกน้อยคาบหญ้าอุ่นเจ้าครุ่นคิด
มีชีวิต มวลมิตร สิทธิ์จะฝัน
มีบ้านเล็กอุ่นจิตนิจนิรันดร์
ปลูกข้าวฝันวันนกว่ายสายลมบน

หมั้นฝันไว้ด้วยบทกวีที่ทุ่งข้าว
แต่งงานกับลมหนาวสาวสายฝน
ข้าวของเราจักหล่อเลี้ยงเพียงพอคน
เมล็ดฝันมิลีบหล่นบนคันนา

พวกเราทำงานงามของความรัก
ช่วยทอถักแก่นในใจภาษา
ฝัน ใส หนาว ขาวประกายสายธารา
ระยับสวยงามตาใต้ตะวัน

รุ่งสางนี้แสงแรกไม่แปลกหน้า
เดินทางมาทายทักรักคนฝัน
หนึ่งนกน้อยขยับขับขานพลัน
การแบ่งปันเริ่มที่นี่มีน้ำใจ

เราคือสหายสามแห่งยามเช้า
สัมผัสหมอกหยอกเย้ารับเช้าใหม่
คล้องฤดูกาลสมานหว่านภายใน
หนึ่งเมล็ดเติบใหญ่เป็นรวงทอง

เป็นรวงทองของความฝันวันลมหนาว
เป็นลูกหนุ่มลูกสาวลูกทั้งผอง
แม่โพสพยิ้มละไมในละออง
ยิ้มยกย่องชาวนาผู้กล้างาน

ในเวลามีรวงทองของทุ่งข้าว
ฟ้าราตรีมีดาวระยิบหว่าน
ฝันกระพริบสถิตที่กวีกานท์
อุ่น อิ่ม หวาน ในบ้านฝันนิรันดร์ไป

เมื่อนกน้อยคาบหญ้าอุ่นเจ้าครุ่นคิด
เลิกชีวิตแรมรอนอย่างอ่อนไหว
ด้วยความรักอาทรกรุ่นละมุนละไม
ไม่เป็นใหญ่แต่หัวใจสบายดี				
8 มกราคม 2545 18:43 น.

ที่ว่าง ค่ำคืน ฟ้า และป่าใหญ่

แสงแรก ประดับดิน

ที่ว่าง ค่ำคืนฟ้าและป่าใหญ่

พักกายใจในเพลงของคืนค่ำ
หลังแหวกว่ายสายน้ำฉ่ำสดชื่น
เปลวแกว่งไกวยอดไฟเหิมเราเติมฟืน
ฟ้าเดือนดาวดาษดื่นคืนแห่งฝัน

มานอนพักที่ว่างกลางป่าใหญ่
ริมห้วยเล็กน้ำใสสมานฉันท์
ดนตรีนกหรีดหริ่งเรไรร่วมประชัน
บรรเลงลั่นมโหรีคลี่กลมเกลียว

เหมือนหย่อนตัวเบาบางกลางเมฆอุ่น
ที่นอนนุ่มละมุนเตียงจันทร์เสี้ยว
สายตาของผองดาวหวานวาวเรียว
ปลอบขวัญคนดายเดียวเลิกเปลี่ยวดาย

หลับเถอะหลับผ่อนกายใจให้สดชื่น
ไฟโชนฟืนมโหรีหรี่เสียงสาย
นกละเมอเสียงบางอย่างห่างประปราย
อุ่นสบายเพลงสุดท้ายของค่ำคืน				
8 มกราคม 2545 18:43 น.

ต้นไม้ ใบหญ้า และตาวัน

แสงแรก ประดับดิน

ต้นไม้ ใบหญ้าและตาวัน

ในเวลามีความรักถักวิญญาณ
ตะวันออกฉายฉานม่านหมอกไหม
ดินต้อนรับแสงนับแสนจากแดนไกล
ต้นกิ่งใบได้เช้าใหม่ไม้ชื่นบาน

ดอกเอ๋ยแย้มบานรับแสงชีวิต
จากผลึกทิศมาสรรค์สร้างอย่างอุ่นหวาน
หล่อเลี้ยงโลกเป็นดวงตาทิวาวาร
ชาวโลกล้วนเรียกขานท่าน ตาวัน

จากตาวันถึงตะวันเรียกสั้นเข้า
จากยามเช้ายามสายบ่ายแปรผัน
รักผู้อื่นอย่างบริสุทธิ์ หลุด เท่าทัน
ตาสวรรค์อนันต์ตลอดกาล

ตะวันทำงานงามของความรัก
แสงวิสุทธิ์ทอถักอย่างกล้าหาญ
จึงได้นามสุริยะ ณ.จักรวาล
หนึ่งนกร้องขับขานเบิกบานใจ

เมื่อดวงใจรักหมดจดหมดทั้งโลก
ใจดวงนั้นจักมีโชคและผ่องใส
พลังจิตเพิ่มชั้นขึ้นทันใด
วิญญาณได้เช้าใหม่สงบเย็น				
20 ธันวาคม 2544 13:26 น.

บทกวี ตะวันเที่ยงกับเสียงเพลง

แสงแรก ประดับดิน

บทกวี ตะวันเที่ยงกับเสียงเพลง

                                  ในเวลามีดนตรีมีเพลงหวาน
                                  อาบสายธารสดชื่นนักเว้นวรรคไว้
                                  ยามร้อนนักเว้นวรรคพักกายใจ
                                  เพลงหวานใหม่ซึ้งซาบอาบอารมณ์

                                  ตอนกลางของเพลงรักมักหนักแน่น
                                  เปลือกกระพี้หุ้มแก่นแผ่นสะสม
                                  ใบไม้พลิกริกไหวย้ายกับสายลม
                                  มีเงารักเงาร่มเจ้ากลมเกลียว

                                  ไม้รักมนุษย์มากไหมหัวใจรู้
                                  ให้ที่อยู่เพิ่มน้ำใสเพิ่มใบเขียว
                                  ดูชื่นตาเย็นใจใบรูปเรียว
                                  เหมือนวางโลกโศกซีดเซียวไปเที่ยวกัน

                                  ไปเดินตามผีเสื้อในป่าใหญ่
                                  มานั่งถามหัวใจซึ่งใฝ่ฝัน
                                  ถามหารักเมตตาภาพอาบอนันต์
                                  สุขและสันต์วันเว้นวรรคพักชีวิต

                                  เพลงอุ่นหวานผ่านลึกจากผลึกกวี
                                  ใส่โทนคีย์ทำนองร้องเสนาะสนิท
                                  ตอนสุดท้ายของเพลงรักมักใกล้ชิด
                                  เหมือนเหล่ามิตรนักฝันผูกพันกวี

                                  บทกวีรักเราบ้างไหมหัวใจรู้
                                  ละมุนละไมเคียงคู่ผู้บานคลี่
                                  ใต้ตะวันดอกฝันแย้มแก้มรุจี
                                  ในบ้านฝันวันนี้ดีเหลือเกิน				
17 ธันวาคม 2544 21:07 น.

เมื่อละจอแก้วไปมองฟ้า

แสงแรก ประดับดิน

ละจอแก้วไปมองฟ้า

เธอมีตัวตนหรือเปล่าเหล่าเพื่อนรัก
หรือเพียงมาทายทักตามคำขอ
วันทรายเนียนเรียนรู้ครู่ที่รอ
คืนดาวละออทอถักจักรวาล

รู้จักกันในเนตสังเกตไหม
เพียงสนใจเรื่องเดียวกันฉันท์สมาน
ชอบบทกวีละอองคำฉ่ำอ้อยตาล
เพียงแรกทานหวานลื่นชื่นฉ่ำใจ

มาเพิ่มพื้นที่ว่างเปล่าให้อวกาศ
ใจนิราศแรมรอนร่อนไถล
เบาเหลือเกินล่องลิ่วอย่างปลิวไป
อวกาศกว้างใหญ่เพื่อใครกัน

หากมีเพียงชาวเราเหล่ามนุษย์
ท่ามกลางการชำรุดจุดแปรผัน
น่าเสียดายที่ว่างไร้ใหญ่อนันต์
ดาวเหล่านั้นดวงไหนไร้คนพาล

ตัวอักษรอยู่ในสายใยแก้ว
ปรากฏแล้วต่อหน้าเธอเสนอสาร
คำของฉันรอเธอตลอดกาล
เมื่อเธออ่านรู้สึกใดหรือไม่เลย

ฟ้าสีดำเหมือนกาแฟแก่จนขม
ขาดน้ำตาลขาดนมขมหรือเฉย
กอบเก็บดาวแทนน้ำตาลหวานเหมือนเคย
ดื่มสังเวยแด่โลกหล้าจักรวาล

รู้จักกันในเนตสังเกตไหม
เรียนรู้ใจแม้ไร้จิตสมัครสมาน
บทกวีสีดำใส่น้ำตาล
คำเจือจานขานขับหลับไม่ลง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงแรก ประดับดิน
Lovings  แสงแรก ประดับดิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงแรก ประดับดิน
Lovings  แสงแรก ประดับดิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแสงแรก ประดับดิน
Lovings  แสงแรก ประดับดิน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแสงแรก ประดับดิน