29 สิงหาคม 2550 22:59 น.
แสงเหนือ
พักสักหน่อยดีไหม ใจที่ล้า
ให้กายาเอิบอาบฉาบอ่อนหวาน
ใต้นวลแสงแห่งจันทร์อันเจือจาน
เรไรขานบรรเลงเพลงราตรี
เพียงให้ใจ ได้พักหากเคว้งคว้าง
ฟ้าที่กว้างทางที่ไกลใช่หลีกหนี
ใช่ยอมแพ้แค่หยุดก่อนผ่อนชีวี
ให้จันทร์ชี้ทางวิมุติดุจทางจันทร์
พักสักหน่อยดีไหม หากใจท้อ
จันทร์ลออทอรักจักห่มขวัญ
แสงละมุนแสนละไมจากใจจันทร์
จักปลอบขวัญให้กล้าเพื่อฝ่าไป
พักสักหน่อยดีไหม ใจที่เจ็บ
เพื่อตามเก็บบทเรียนฝันเริ่มวันใหม่
พักใต้แสงจันทร์กรอทอละไม
ให้เรไรประโคมขับรับขวัญคลาย
พักสักหน่อยดีไหม ใจที่ล้า
ให้กายาเอิบอาบฉาบจันทร์ฉาย
เบื้องสายธารเรืองระยิบทิพย์ประพาย
ให้ใจกายหายหม่นค่อยด้นเดิน...
..
23 สิงหาคม 2550 20:36 น.
แสงเหนือ
ณ เบื้องหน้าสายตาคือฟ้ากว้าง
มีเส้นทางร้างไร้คนใฝ่ฝัน
เป็นทางรกลำบากยากฝ่าฟัน
เกลื่อนพฤกษ์พันธุ์หนามเหนี่ยวคอยเกี่ยวกาย
เป็นทางเชี่ยวเกลียวน้ำกระหน่ำกราด
ลมฝนสาดฟาดซ้ำกระหน่ำสาย
เป็นทางเวิ้งวาบว้างหว่างผืนทราย
ต้องเดียวดายทุกสิ่งทิ้งเดิมพัน
ทางสายนี้แน่นักประจักษ์รู้
เป็นทางสู่จุดหมายที่ใฝ่ฝัน
เป็นทางของนักสู้ผู้ประจัญ
ใช่ทางของนักฝันจะเกรียงไกร
ทุกย่างก้าวของนักสู้ผู้รู้ก้าว
มีค่าราวมณีทรัพย์นับไฉน
แม้หากใครใฝ่ฝันจะก้าวไป
ตื่นเร็วไวกล้าแกร่งแข่งเวลา
เมื่อไม่เริ่มเมื่อไหร่จะได้ก้าว
กี่เดือนดาวแล้วดับลับเวหา
กี่ตะวันลับเลือนเตือนเวลา
ให้นำพาเพียรเพ่งเร่งคำนึง
เมื่อไม่ก้าวเมื่อไหร่จะเข้าใกล้
เส้นทางไกลเมื่อไหร่จะไปถึง
เมื่อไม่พายสายน้ำยังขวางตรึง
กว่าจะถึงขึ้นฝั่งนั้นเมื่อไร
เมื่อไม่ทำเมื่อไหร่จะพูนเพิ่ม
เมื่อไม่เติมเมื่อไหร่จะเต็มได้
เมื่อไม่เข็นเมื่อไหร่จะเคลื่อนไป
ได้อะไรจากความคร้านผลาญชีวา
เพียงก้าวแรกรู้เริ่มประเดิมก้าว
เพียงเริ่มสาวก้าวย่างไปข้างหน้า
แม้จุดหมายเส้นชัยจะไกลตา
หนึ่งก้าวนั้นก็มากค่าคณาคุณ.
16 สิงหาคม 2550 00:54 น.
แสงเหนือ
แม้ชะตาจะแกล้งให้แล้งโชค
แม้ว่าโลกจะแกล้งให้แล้งฝัน
แม้ผู้คนสิ้นแล้งจะแบ่งปัน
สังขารขันธ์ซ้ำแกล้งให้แรงโรย
ดวงตาแม้หมองกร่ำเพราะช้ำโศก
สู้ในโลกมืดมนจนระโหย
ไร้แม้เสียงครวญคร่ำจะร่ำโอย
อ่อนระโหยโรยล้าในอาภัพ
ขอเพียงแสงไรไรในก้นบึ้ง
ที่มุมหนึ่ง ณ ห้องใจอย่าให้ดับ
ริบหรี่แสงแห่งศรัทธาอย่าไรลับ
ไว้ประคับประคองครรลองธรรม
เพียงดวงแสงแห่งปัญญาไม่คลาเคลื่อน
ไม่พล่าเลือนวูบดับกับตาช้ำ
เพื่อดำเนินทางที่ดีคอยชี้นำ
ไม่ถลำทางรกให้ตกไกล
ยืนหยัดอยู่ด้วยใจไปให้สุด
ดุจกระแสวารีที่หลั่งไหล
คืนยิ่งมืดมิดมนหม่นหทัย
ก็ยิ่งใกล้ถึงเช้าพราวแสงทอง.
เพลง : ใจรอนแรม http://roukpanda.exteen.com/20070324/entry-3
ผู้ใด แม้หาเลี้ยงชีวิตได้โดยยาก ลำบาก
ก็ไม่ประพฤติทุจริต ๓
ผู้นั้น ชื่อว่า เป็นผู้ประกอบในธรรม โดยแท้
14 สิงหาคม 2550 00:18 น.
แสงเหนือ
ทะเลระยับ ประดับเดือนฉาย
ลมพัดคลื่นพราย กระทบฝัน
หาดร้าง ครวญคร่ำรำพัน
อาบแสงจันทร์ เพียงเดียวดาย
เราดั่ง นกขมิ้น
โบยบินอ่อนล้า หาความหมาย
จากฝั่ง ปรารถนาท้าทาย
สู่ปลายฝั่งฟ้า เดือนเพ็ญ..
.
11 สิงหาคม 2550 21:10 น.
แสงเหนือ
สายเอ๋ย...สายใย
แต่หลังปางไหนเสกสรร
นำส่งลูกน้อยในครรภ์
ผูกพันดั่งดวงชีวา
เรือนเอ๋ย...เรือนครรภ์
แม่นั้นฟูมฟักรักษา
พ่อเฝ้าเอาใจมารดา
ห่วงถึงลูกยาในครรภ์
วันเอ๋ย...วันเกิด
วันให้กำเนิดลูกขวัญ
ใครเจ็บเจียนพลีชีวัน
ใครนั้นผู้ให้ชีวา
สีเอ๋ย...สีขาว
ฝ่าเท้าคู่น้อยนั้นหนา
ผ่านปีกี่จูบตรึงตรา
ผ่านกาลเวลาฤาวาย
ใส่เอ๋ย...ใสใจ
ลูกน้อยยิ่งใหญ่ความหมาย
ดุจเป็นเจ้าหญิงเจ้าชาย
กว่าเจ้าเติบกายใหญ่มา
เก็บเอ๋ย..เก็บออม
เฝ้าถนอมเพียรอยู่สู้หา
ทรัพย์สินล้วนเพื่อลูกยา
กี่เหนื่อยกี่ล้าลาเลือน
แววเอ๋ย...แววตา
ดวงไหนจักมาเสมอเหมือน
ดุจพรหมองค์ประเสริฐในเรือน
มิกลายหมายเบือนเชือนชา
สุขเอ๋ย...สุขใจ
ลูกรักฝักใฝ่ศึกษา
มีศีลมีธรรมจรรยา
เติบกล้าคุณค่าเรืองรอง
ทุกข์เอ๋ย...ทุกข์ใจ
พ่อหวั่นแม่ไหวใจหมอง
ยามลูกหากพลาดขาดตรอง
เดินผิดครรลองสัมมา
ดวงเอ๋ย...ดวงใจ
ดวงไหนยิ่งใหญ่ในหล้า
เท่าของสองดวงชีวา
บิดรมารดาการุณ
บุตรเอ๋ย...บุตรใด
หวังในใจเพื่อเกื้อหนุน
ทำชอบตอบแทนพระคุณ
ของสองการุณหนุนมา
บุตรเอ๋ย...บุตรนั้น
แม้แบกสองท่านบนบ่า
ให้กิน-ถ่ายชั่วชีวา
ยังไม่ชื่อว่าตอบแทน
บุตรเอ๋ย...บุตรใด
หวังในผลเลิศประเสริฐแสน
อันเป็นไปเพื่อตอบแทน
เป็นแก่นแห่งบัณฑิตชน
ศรัทเอ๋ย...ศรัทธา
สิ่งไหนใดหนามีผล
ยังท่านมั่นไว้ในกมล
เพื่อผลตราบสิ้นกาลนาน
ทานเอ๋ย...ทานใด
เป็นไปเพื่อผลไพศาล
เป็นทรัพย์ฝากไว้ในกาล
ยังท่านหมั่นทานอาจิณ
ศีลเอ๋ย...ศีลใด
เป็นเกราะคุ้มภัยนิจศีล
เป็นทิพย์อาภรณ์เครื่องประทิน
ยังท่านใฝ่ถวิลยินดี
ปัญเอ๋ย...ปัญญา
ตามหลักสัมมาประเสริฐศรี
เกิดจากฟังอ่านล้วนดี
ยังท่านให้มีปัญญา
พระเอ๋ย...พระคุณ
ของสองการุณล้นฟ้า
เกินเทียบเปรียบด้วยวาจา
เป็นสิ่งซึ้งค่าในฤดี
บุตรเอ๋ย...บุตรใด
ตอบแทนท่านได้เช่นนี้
เป็นบุตรอภิชาติฉลาดดี
พิสุทธิ์ศรีล้ำเลิศประเสริฐเอย.