14 พฤศจิกายน 2552 21:53 น.
แสงเพชร
หากมิสิ้นวิญญาณพานจากไป
ห้วงหทัยให้ซึ้งยังตรึงฝัน
เฝ้าคะนึงถึงเธอทุกคืนวัน
คอยยึดมั่นสัญญามาเว้าวอน
อยู่ห่างไกลกันบ้างบางเวลา
แต่คุณค่าความฝันนั้นยากถอน
มั่นเสมอเพ้อให้ใจอาวรณ์
อยากจะอ้อนออดไว้ในทุกครา
อากาศหนาวคราวนี้แสนมีห่วง
อัสสุล่วงไหลรินถวิลหา
ใจโผผินบินไปใกล้กานดา
อยากจะคว้าครองอุ่นมา กรุ่นไอ
แสนคิดถึงหนึ่งรักที่ภักดี
ป่านฉะนี้นารีมีสุขไหม
อาการหนาวร้าวลึกนึกห่วงใย
สุดอาลัยในเขาเฝ้าระทม
ค่ำคืนนี้มีรักมาฝากถึง
ร่ายรำพึงซึ้งหวานสานสุขสม
บรรเลงเสียงเคียงใกล้ให้ภิรมย์
พิณจะห่มห่อเจ้าจนฝันดี
เสียงบรรเลงเพลงรักจักหวานซึ้ง
ป่านประหนึ่งน้ำผึ้งจึงสุขศรี
มอบด้วยใจให้ฟื้นคืนชีวี
กล่อมฤดีนี้ด้วยดนตรีใจ
ค่ำแล้วหนอขอห่วงดวงใจเจ้า
ที่ข้าเฝ้าพะนอนั้นสดใส
ดนตรีรักจากห้วงดวงหทัย
ฝากคนไกลด้วยฝันอันผูกพัน
นิทรานี้ฝันดีนะที่รัก
เจ้าจงพักสักนิดจิตสุขสันต์
ค่ำคืนนี้มีเพลงบรรเลงบัน
กล่อมจอมขวัญเคลิ้มหลับกับเสียงพิณ ๐
๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
แสงเพชร
29 ตุลาคม 2552 21:21 น.
แสงเพชร
ความคิดถึงหนึ่งใครได้โลดแล่น
ถูกอัดแน่นแนบทรวงด้วยห่วงหา
วิมลักหนักไว้ในวิญญา
ปรารถนานั้นเพียงเพราะห่วงใย
หลับตานิ่งอิงแอบแนบคิดถึง
สู่คะนึงซึ่งฝันวันฟ้าใส
รัก ห่วงใยให้เธอที่ห่างไกล
ด้วยดวงใจใสซื่อสื่อเรื่องราว
เหนื่อยมากไหมในวันอันท้อแท้
อย่ายอมแพ้แม้วันอันเหน็บหนาว
กำลังใจได้ส่งตรงทุกคราว
รักยืนยาวยื่นให้ด้วยไมตรี
ด้วยห่วงหาอาทรตอนห่างไกล
จงปลอดภัยไร้ทุกข์ให้สุขี
ขอเป็นเพื่อนเยือนใจในราตรี
กล่อมคนดีด้วยเพลงบรรเลงพิณ
จึงบรรเลงเพลงพิณให้ยินถึง
อีกฟากหนึ่งซึ่งใจให้ถวิล
กรีดนิ้วน้อยคอยมอบปลอบยุพิน
ดั่งสายน้ำนำรินสู่ถิ่นเธอ
เสียงกังวานสานฝันอันสดใส
สู่ห้องใจให้เธอเสมอเสมอ
รักแนบไว้ในเสียงเคียงเจอะเจอ
นำเสนอเพื่อวันหวังภิรมย์
คลื่นเสียงพิณผินสู่ประตูรัก
พร้อมจะผลักเพื่อเชื่อมเลื่อมสุขสม
กล่อมทั้งสองครองใจให้ชิดชม
พลิ้วแผ่วลมห่มไว้ในวิมาน
หลับตาลึกนึกไปใจส่งถึง
ฟากฟ้าหนึ่งซึ่งเสียงเคียงแว่วหวาน
สู่นิทราคราเหนื่อยเมื่อยจากงาน
ขอนงคราญหลับลงตรงเสียงพิณ ๐
แสงเพชร
๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๒
17 ตุลาคม 2552 01:52 น.
แสงเพชร
โอ้ว่าดึกดื่นแล้วแก้วตาหนอ
เสียงเพียงออ ออดอ้อนซ่อนความหลัง
จรดปลายนิ้วพลิ้วพรมเพลงประดัง
ก่อมนต์ขลังข้ามคืนของราตรี
บรรเลงนิ้วน้อยน้อยคอยสลับ
สำเนียงจับจิตใจในวิถี
เสียงสูงต่ำไต่ย้ำค้ำชีวี
ปล่อยดนตรีนี้ปลอบประโลมดึง
ความคิดถึงหนึ่งใครให้โลดแล่น
รักข้ามแคว้นแดนไกลให้ถามถึง
ออดอ้อนเสียงสร้อยเศร้าคราวคะนึง
ชโลมหนึ่งหทัยให้หายตรม
เสียงสั้นยาวเคล้าหริ่งเรไรร้อง
ดังคะนองล่องลอยราวขื่นขม
สำเนียงให้โหยหาว่าตามลม
คล้อยอารมณ์รักแสน ณ แดนไกล
หลับตาพริ้มพลอยให้ใจลอยล่อง
พริ้วทำนองเนิ่นนานปานน้ำไหล
ปล่อยอารมณ์เลื่อนลอยคล้อยตามไป
คิดถึงใครคนหนึ่งที่ตรึงตรา
ความถี่เสียงเพียงเป่าบรรเทาใจ
ห่วงอาลัยในเขาเฝ้าโหยหา
อยากบรรเลงเพลงนี้มอบกานดา
ให้กลับมาร่วมฟังนั่งใกล้กัน
ผิวลมออกบอกใบ้ด้วยใจรัก
อยากชวนเจ้าหนุนตักพักร่วมฝัน
เสียง อี้ ออ หยอกล้อคลอรำพัน
น่าสุขสันต์เสียจริงจะอุ่นใจ
แต่ดึกนี้มีเดือนเป็นเพื่อนข้า
ยังเหว่ว้าวังเวงเพลงเศร้าไหม
ด้วยระลึกนึกถึงซึ้งบางใคร
จนหมดใจในกาลก่อนนิทรา
โอ้ดึกแล้วแก้วฯจ๋ามาพักผ่อน
จะเป่ากล่อมเจ้านอนตอนนี้หนา
เสียงจากลมพรมไปให้กานดา
จงหลับตาเถิดน้องนอนฝันดี
๑๖ต.ค๕๒
แสงเพชร
หลับฝันให้สบาย ฉันจะคอยสร้างฝัน
ดินแดนแห่งนั้น จึงกลายเป็น จริง
30 กันยายน 2552 11:49 น.
แสงเพชร
ราตรีกาลก่อนนี้มีเงียบเหงา
คอยซึมเศร้าเฉาไปในหม่นหมอง
อยู่สันโดษเดียวดายชายตามอง
ทุกหัวห้องของใจให้ปิดตาย
จากแผลรักปักลึกผนึกร้าง
ถูกทิ้งขว้างทางใจให้หดหาย
แสนเจ็บปวดปร่าไปใกล้วางวาย
รักสลายหน่ายหนีมีเศร้าตรม
หลายเพลาพาผ่านการซึมเซา
คล้ายคอยใครคลายเหงาเคล้าสุขสม
จากเรื่องราวหนาวร้อนกร่อนระทม
วอนพระพรหมห่มรักอีกสักคราว
อดีตกาลผ่านไปใจคอยนึก
จากแผลลึกร้าวเชือดชวนเหน็บหนาว
พลอยให้เศร้าเหงาหงอยร้อยเรื่องราว
ช้ำทุกคราวเฉาฤทัยในคืนวัน
อาจจะเป็นเช่นฟ้ามาลิขิต
สวรรค์บิดเบือนเส้นเน้นสิ่งฝัน
ให้เราสองต้องพบสบพักตร์กัน
ด้วยคืนวันอันสวยแสนงดงาม
ต่างหยิบยื่นไมตรีแสนมีค่า
สื่อสายตาพาใจให้ไหวหวาม
ร้อยเรื่องราวรักใคร่ไว้ติดตาม
สุดวาบวามท่ามคืนของเงาจันทร์
อุษาวางสว่างแจ้งแห่งแสงใส
เติมหัวใจจนไหวในความฝัน
ดั่งเปิดโลกราวฟ้าสว่างพลัน
ได้สุขสันต์เสริมสร้างทางสิ่งดี
ต่อจากนี้ชีวิตคิดสุขสันต์
มากผูกพันมั่นไว้ในสุขี
จะถนอมกล่อมรักและภักดี
สัญญานี้มีให้ไปนิรันดร์ ฯ
:+ แสงเพชร +:
๓๐ กันยายน ๒๕๕๒
29 กันยายน 2552 09:39 น.
แสงเพชร
อาการนี้มีขึ้นเพราะคืนนั้น
เย็นเฉียบพลันทันทีที่เธอหาย
ทรมานไปหมดทั้งใจกาย
ใยถึงหน่ายหนีหน้าไม่มามอง
ปล่อยคนเศร้าเหงาใจไว้คอยหา
ใยหนีหน้าพาให้ฤทัยหมอง
ดั่งอกทรุดสุดช้ำน้ำตานอง
เฝ้าแต่มองเหม่อหาแสนอาลัย
ด้วยเหตุผลกลใดใยหลบลี้
อย่าได้หนีหน้าไปให้หวั่นไหว
แสนเจ็บปวดรวดร้าวหนาวฤทัย
น้ำตาไหลใจสั่นสะท้านดวง
สุดอาลัยให้หนาวร้าวทั้งกาย
ดูเหมือนคล้ายครั่นไข้ขึ้นใหญ่หลวง
พิษแผ่ซ่านรานไล้ไปทั่วทรวง
โอ้พุ่มพวงดวงใจใยหนีไกล
ฤา ผิดใจเรื่องใดได้เคืองขุ่น
เจ้าจึงฉุนหมุนกายหายไปไหน
ปล่อยตัวเราเฝ้าคอยจนลอยไป
เหมือนร่างไร้วิญญาณนานแสนนาน
ทุกราตรีมีเสียงเคียงกระซิบ
ดั่งน้ำทิพย์ชโลมโฉมประสาน
แต่บัดนี้มีหนาวให้ร้าวราน
ทรมานซานซมจมน้ำตา
เจ้ารู้ไหมใจนี้มีแต่ช้ำ
แสนระกำซ้ำซ้ำพร่ำโหยหา
อยากบอกไว้ให้เธอกลับคืนมา
เอ่ยวาจาจากกันด้วยอันใด
การพลัดพรากจากกันนั้นบั่นจิต
มาถูกฤทธิ์พิษรักเข้าผลักใส
หมดแล้วเอยเคยหวานปานดวงใจ
แสนอาลัยเศร้าหมองร้องอีกครา ๐
แสงเพชร
๒๙ กันยายน ๒๕๕๒