9 เมษายน 2545 10:33 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
ธรรมชาติลีลา ( เสาวรจนี )
ณ ราตรีมีโสมงามจรัสแสง
ดาวแต่งแต้มประทินฟ้าเวหาหาว
พระพายชื่นลูบไล้แสงแห่งดาว
สุขสกาวสว่างเพ็ญเย็นชื่นใจ
กระแสสินธิ์ยังไหนเอื้อยอย่างเชื่องช้า
หมู่มัจฉาต่างแหวกว่ายใต้ธารใส
วิหกเผอละเมอร้องกับเรไร
คงเสียใจอาลัยรักที่ร้างลา
ดอกปทุมอวบอูมอิ่มน้ำค้าง
เด่นอยู่กลางวารีสีเขียวขาว
พระจันทร์หยอกสายชลเพื่อมเป็นเหลื่อมพราว
แวววับวาวดังมณีบุรีพรหม
ขุนคีรีโค้งงามทอดตามหล้า
ดังอ่อนร่างชมความงามเวหาหน
หรือเจ้าถูกลมเล้าลามเลียลน
จึงผ่อนปรนโอนอ่อนร่างตามลมเลียฯ
สุมามาสแจ่มฟ้า จรูญหาว
พราวพร่างจรัสดาว แต่งแต้ม
พระพายรื่นเชยดาววาว ยวนหยั่ว
ยามค่ำบุหลันแจ้ง แจ่มจ้าฟ้างามฯ
ธาราสงบนิ่งคล้าย หยุดไหล
มัจฉาว่ายเวียนไป ทั่วคุ้ง
ลมเชยผ่านปทุมไหว โดดเด่นงามเลิศ
โสมส่องชลเหลื่อมรุ้ง ดั่งแก้วเมืองเทวัญฯ
ปักษาผวากู่ก้อง พงพนา
ดุจดังเสียงโหยหา ร่ำไห้
อาดูรคู่เคียงคลาด จรถิ่นจรไกล
ทุกค่ำคืนร่ำไห้ คั่งคั้นทรวงกมลฯ
พนมนอบร่างโน้ม ตามภพ
กายอ่อนทอดจด แผ่นหล้า
ขุนเขาแกร่งยังสยบ นบแด่เบื้องนภา
งามสิ่งใดกล่าวอ้าง บ่สู้งามโพยมฯ
.แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า.
6 เมษายน 2545 11:31 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
กาล - กานต์
(กลบทอักษรล้วน)
.....น้ำเนตรนองหน้าน้องนับเนื่องแน่น
คั่นครุ่นแค้นคิดคร่ำครวญควรคิดใคร่
จิตจากจรเจ้าจากใจจรจากใจ
ดุจดาวดับแดดับดิ้นดังดาบดาย
แสนโศกศัลย์สิ้นเสียสูญสุดโศกเศร้า
หวงห่วงแหไห้โหยหวนหาห่างหาย
แรกเรียนรักเริ่มรับรู้รักเรี่ยราย
กาลกลับกลายก่อกลโกงกาต์ก่อกรรมฯ
...แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า.....
6 เมษายน 2545 11:31 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
อธิษฐาน
(กลบทเบญจวรรณห้าสี)
.....ลมลูบไล้ลามเลียทิวยอดหญ้า
ดาวดาดาษเด่นดวงช่วงเวหา
แพรวพราวพิศพริ้งเพริดแลงามตา
แวววับวาววูบวาบไหวหวั่นใจ
ค่ำคืนครวญครางคอยกลอยสวาท
จรใจจากจิตจวนเจียนจะดับไหม้
โหยหวนไห้ห่างหาคิดอาลัย
แรกเริ่มรักเรียนรู้เจ็บช้ำเจียนตายฯ
(กลบทเลวงวางตรวจ)
แสงโศกเศร้าเหงากมลดุจโดเดี่ยว
ล้วนแลเหลี่ยวเที่ยวหาทุกถิ่นฐาน
เพียงพบพานหน้ามลนวลน้องนาง
ชีพชายชาญสิ้นสูญย่อมยอมยม
ก้มกรานกราบอธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เทพทุกทิศดลจิตเสกสุขสม
มิหมองหมายให้ฝันล่องลอยลม
ช่วยชี้ชมอิงแอบแนบเนื้อนวลฯ
.........แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า........
4 เมษายน 2545 17:45 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
ราชพฤกษ์
..ราชพฤกษ์ห้อยระย้าสีเหลืองสด
ดังกนกกรองทองผ่องสวรรค์
ยามจับต้องแสงสีสุริยัน
สวยเฉิดฉันดังสุวรรณกรรณิกา
ยามพระพายสายลมเชยรำเพยพัด
ดอกสะบัดร่วงลิ่วเป็นริ้วสาย
แสงสุรีต้องดอกเป็นเลื่อมพราย
ดุจสุพรรณฉายแสงกลบลบปฐพี..
..แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า..
4 เมษายน 2545 10:33 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
อ้อมกอดดิน
.....แสงทองอาบโอบอุ้มคุ้งขอบฟ้า
มวลปุบผาแบ่งบานรับวันใหม่
เสียงร่าร้องของวิหก ณ พงไพร
ขับขานไขสดใสดังกังวาล
เจ้านกน้อยขยับปีกอย่างเริงร่า
เพื่อมุ่งสู่ท้องฟ้าเวหาหาว
เฝ้าใฝ่ฝันดั้นด้นถึงรุ้งพราว
ที่ทอดยาวราวสะพานเบื้องฟ้าไกล
พ่อจ๋า...ลูกโตพอจะบินได้
แม่จ๋า...ลูกขอไปตามใจฝัน
ไปเกาะรุ้งต่างคอนหลากสีนั้น
ด้วยพลังความฝันในชีวี
แม้ดั้งด้นเหนื่อยยากลำบากสู้
เพียงมุ่งสู่ขอบฟ้ารุ้งหลากสี
แต่ปีกอ่อนปวดร้าวทับทวี
ร่างจึงพลีทิ้งร่วงลงสู่ดิน
น้ำตาเจ้ารินไหลใครจะเห็น
ใครจะเป็นผู้ป้อนยามเจ้าหิว
หรือประคองยามเจ้าสิ้นทุกสิ่ง
เลือดไหลรินใครจะซับรักษากาย
รวมกำลังขยับปีกคืนผืนป่า
อนิจา!...รู้ตัวพลันเมื่อสาย
ร่างอ่อนล้าเกินขยับเขยื้อนกาย
ชีพสลายซบหน้าลงอ้อมกอดดิน.....
.....แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า.....