4 พฤษภาคม 2546 21:09 น.
แว่นหนา
แต่งกลอนมาก็ตั้งหลายบทแล้ว
ต่างมุมมองต่างแนวและต่าง size
มีวี่แววว่าเริ่มจะหมดไฟ
แต่ทำไมยังเขียนได้ ไม่รู้เหมือนกัน
เคยคิดจะเลิกแต่งกลอนตั้งหลายที
ความสามารถก็ไม่มี...เลิกเถอะฉัน
แต่เพราะมีเพื่อนเพื่อนมาวิจารณ์
บอก ชอบมาก แล้วฉันจะเลิกได้อย่างไร
อาจจะแต่งกลอนไม่เพราะเท่าไรนัก
แต่จะต้องเพราะใจรัก มีไรมั้ย
จะอยู่นี่ ประถม-มัธยม-มหาลัย
ใครมาไล่ก็ไม่ไป เค้าไม่ยอม!
3 พฤษภาคม 2546 16:11 น.
แว่นหนา
เธอจะรู้บ้างไหม
รอยยิ้มสดใสของฉัน
เหน็ดเหนื่อยปวดร้าวทรมาน
ซ่อนอยู่ใต้ยิ้มนั้นมากมาย
ดวงตาคู่นี้
หากมองดีดีจะรู้ความหมาย
ว่าฉันอ่อนแอเพียงใด
อ่อนแอจนต้องร้องไห้มาหลายที
ฝืนยิ้มเมื่อพบเจอ
ไม่อยากให้เธอเป็นห่วงไปมากกว่านี้
อยากให้เธอห่วงตัวเองหน่อย พ่อคนใจดี
แต่ก็อ่อนแรงลงทุกที...จะฝืนได้อีกเท่าไรกัน...
30 เมษายน 2546 16:51 น.
แว่นหนา
ว่ากันว่าเสียงฝนตกจะไพเราะ
ถ้าคุณแกะแขนเดินควงกับคนนั้น
และนิ่งเงียบฟังไปพร้อมพร้อมกัน
ภายใต้ร่มหนึ่งคันกับหวานใจ
จินตนาการไม่ออกเลยนะ
ทำแบบนั้นแล้วมันจะเพราะตรงไหน
ได้ยินแต่ จั่ก จั่ก จั่ก เพราะยังไง
งั้นก็คงช่วยไม่ได้...ต้องลองดู
29 เมษายน 2546 20:37 น.
แว่นหนา
ข้อความที่เราต่างพิมพ์โต้ตอบ
มันประกอบเป็นบางอย่างเธอรู้ไหม
อ่านด้วยตา ไม่รู้ว่าทำไม
มันถึงอุ่นที่ใจ ได้ไงกัน
อยากลองเอาหน้าแนบจอสักครั้งนึง
เผื่อจะรู้สึกถึงอุ่นไอนั้น
จะได้ใกล้ตัวอักษรเธอนานนาน
แต่ก็กลัวไฟดูดเหมือนกัน...บ้าจังเรา ^__^
27 เมษายน 2546 21:50 น.
แว่นหนา
หากเพียงเธอมาแย้มแอบเปิดอ่าน
สมุดกลอนของฉันเพียงสักหน่อย
เธอคงรู้ว่าใครกันที่ฉันคอย
ที่ห้ามเธออ่านอยู่บ่อย เพราะอะไร
เรื่องอื่นอื่นยอมได้อยู่เสมอ
แต่เล่มนี้ขอนะเธอ อ่านไม่ได้
ไม่ต้องการให้เธอรู้ ที่เขียนไป
เธอเป็นแรงบันดาลใจหลายกลอนเลย