13 ตุลาคม 2546 14:51 น.
แววดาว
ผิดหรือที่หลงรักใครสักครั้ง
วาดความหวังเลิศลอยคอยเพ้อหา
พร้อมหัวใจทุ่มเททุกเวลา
ทั้งสัญญารักมั่นนิรันดร์ดร
ผิดหรือที่สบตาคนน่ารัก
แรกรู้จักซึ้งใจยากไถ่ถอน
ยิ่งชิดใกล้ใฝ่หายิ่งอาวรณ์
ยิ่งจะจรจากลายิ่งอาลัย
ผิดหรือที่ละเมอจึงเพ้อฝัน
ทุกคืนวันคร่ำครวญชวนหลงใหล
ยิ้มหวานหวานสวยซึ้งติดตรึงใจ
กับดวงหน้าสดใสซ่อนไมตรี
ผืดหรือเมื่อพากเพียรเขียนจดหมาย
มาทักทายเยี่ยมเยือนเหมือนน้องพี่
ส่งดอกไม้ดอกงามความหวังดี
แทนสิ่งที่หัวใจมอบให้กัน
ผิดหรือที่ห่วงใยอยากใกล้ชิด
เป็นดั่งมิตรคิดถึงยังซึ้งฝัน
จะเนิ่นนานเพียงใดไม่สำคัญ
พร้อมแบ่งปันรักแท้มอบแด่เธอ
ผิดหรือที่เรียงร้อยถ้อยความรัก
เพราะตระหนักว่าใจแอบไปเผลอ
ให้เพลิงรักสุมทรวงห่วงละเมอ
ได้แต่เพ้อทุกข์ทนอยู่คนเดียว
12 ตุลาคม 2546 13:15 น.
แววดาว
คือหนึ่งหยดน้ำตาวิวาห์ร้าง
มอบไว้ต่างน้ำสังข์คราวครั้งก่อน
เมื่อเธอสิ้นน้ำใจไม่อาทร
ทั้งตัดรอนน้ำคำไม่อำลา
จากไปพร้อมน้ำฝนที่หล่นร่วง
เจ็บช้ำทรวงโศกตรมสมน้ำหน้า
เหมือนละครน้ำเน่าเศร้าโศกา
ฉันเหมือนสิ้นน้ำยาทอดอาลัย
เธอเปรียบสายน้ำวนสุดทนต้าน
ดุจสายธารน้ำตกวกเวียนไหล
หรือเธอมีน้ำเค็มเต็มหัวใจ
จึงยากไร้น้ำจิตคิดถึงกัน
เบื้องหลังรอยน้ำหมึกระลึกย้อน
เคยพร่ำวอนน้ำปิงอิงแอบฝัน
ดินน้ำฟ้าเป็นพยานสานสัมพันธ์
คืนที่จันทร์แต้มดาวหนาวน้ำค้าง
เปรียบเธอเพชรน้ำหนึ่งซึ้งคุณค่า
เชื่อวาจาน้ำถ้อยร้อยสรรค์สร้าง
เธอกลับเป็นน้ำกร่อยค่อยจืดจาง
เธอไม่ต่างน้ำนิ่งยิ่งไหลลึก
คำพูดเธอมีน้ำหนักควรจักเชื่อ
สำนวนเจือน้ำตาลหวานรู้สึก
เหมือนน้ำเย็นฉ่ำใจให้เหิมฮึก
มิทันนึกจึงต้องช้ำ...เพราะน้ำเงิน
11 ตุลาคม 2546 15:12 น.
แววดาว
ยิ้มเหงาเหงาเศร้าซ่อนสะท้อนลึก
ค่อนคืนดึกเหน็บหนาวร้าวทรวงหม่น
ร้างแสงเดือนเยือนตาฟ้าเบื้องบน
คิดถึงใครบางคน...สู้ทนรอ
ดาว จะรู้หรือไม่ใครห่วงหา
ดาวจะมาปลอบใจบ้างไหมหนอ
คอยเสียจนอ่อนล้าน้ำตาคลอ
จวนจะท้ออ่อนแอยอมแพ้เธอ
สารภาพจากจิตว่าคิดถึง
เพียงครั้งหนึ่งห่างไกลใจพลอยเหม่อ
ทิ้งเพียงภาพต่างหน้ามิมาเจอ
ได้แต่เพ้อครวญคร่ำช้ำในทรวง
โอ้ดึกดื่นคืนนี้ไร้สีแสง
ไยฟ้าแกล้งซ่อนดาวจากราวสรวง
เมฆหมอกหม่นบังพรางน้ำค้างลวง
หลงในห้วงมายาที่ฟ้าทำ
มิสงสารหรือไรใจเจ้าเอ๋ย
กรุ่นไอรักล่วงเลยเคยหวานฉ่ำ
ผ้าเช็ดหน้าหอมซึ้งตรึงความจำ
รินถ้อยคำฝากไว้แทนไมตรี
แล้วจะหลับอย่างไรในคืนเศร้า
เมื่อความเหงาเยี่ยมเยือนเป็นเพื่อนพี่
กอดหมอนข้างเดียวดายหน่ายฤดี
บทเพลงฝันคืนนี้...ไม่มีดาว
11 ตุลาคม 2546 14:54 น.
แววดาว
ข้าวหมูแดงยำใหญ่ไข่พะโล้
แกงเทโพผัดเผ็ดเนื้อเป็ดย่าง
ยำหมูยอทอดไข่ไก่อบฟาง
ผัดถั่วค้างแกงส้มข้าวต้มปลา
ผัดกะเพราไข่ดาวข้าวขาหมู
ก๋วยเตี๋ยวปูพะแนงแกงไก่ป่า
มัสมั่นผัดไข่ใส่แตงกวา
ผัดคะน้ากะหล่ำส้มตำไทย
ขนมจีนน้ำยาราดหน้ากุ้ง
ผัดผักบุ้งแกงลาวข้าวมันไก่
ยำกุนเชียงเกาเหลากุ้งเผาไฟ
ไข่ยัดไส้น้ำตกห่อหมกปู
ต้มมะระต้มยำน้ำพริกเผ็ด
แกงจืดเห็ดปลาเก๋าผัดเต้าหู้
ผัดพริกอ่อนแกงคั่วยำถั่วพู
ต้มเลือดหมูหมึกย่างหอยนางรม
ข้าวหมกไก่ไข่น้ำยำปลาแดก
ผัดโป๊ะแตกผัดไทยแหนมไข่ต้ม
หมูผัดขิงข้าวทิพย์ทำใส่น้ำนม
แกงหอยขมลาบเป็ดผัดเผ็ดเนื้อ
ข้าวไก่ทอดมะระผัดบะหมี่
ยำหัวปลีแกงไก่ใส่มะเขือ
หมูบะช่อห่อเกี๊ยวก๋วยเตี๋ยวเรือ
กุ้งอบเกลือหมูหย็องปูดองเค็ม
9 ตุลาคม 2546 15:23 น.
แววดาว
ตุ๊กตาตัวนั้นที่ฉันพบ
เคยซ่อนหลบอยู่หลังถังขยะ
ดูเปรอะเปื้อนเศร้าหม่นแดดฝนชะ
ใครกันนะใจดำนำมาทิ้ง
ฉันจึงเก็บมาไว้อย่างใจคิด
เนรมิตชุดใหม่ให้งามยิ่ง
ตั้งชื่อว่า น้องแนนแสนเพราะพริ้ง
เป็นเหมือนสิ่งที่ฉันผูกพันรัก
คอยเป็นห่วงเป็นใยไม่เลือนร้าง
เป็นหมอนข้างอบอุ่นนอนหนุนตัก
เล่านิทานขับกล่อมพร้อมทายทัก
ก่อนจะพักนั่งนับดาวที่พราวฟ้า
ฉันมิเคยมีใครจะให้ซึ้ง
ชีวิตหนึ่งยากไร้ใครปรึกษา
ยิ้มเยาะกับรอยฝันวันเวลา
มีเพียงเจ้าตุ๊กตามาใกล้ชิด
ฉันจึงเก็บเจ้าไว้ในห้องรัก
พร้อมทอถักสัมพันธ์มั่นในจิต
เป็นเหมือนญาติเหมือนเพื่อนและเหมือนมิตร
เป็นคู่คิดเป็นแรงใจไม่ลดละ
ตุ๊กตาตัวนั้นที่ฉันพบ
เจ้าเคยหลบอยู่หลังถังขยะ
เพราะฉันเป็นเหมือนเจ้าเข้าใจนะ
แค่พันธะเดียวดายคล้ายอ้างว้าง