16 พฤศจิกายน 2546 14:23 น.
แววดาว
เปรียบโลกคือละครหลายตอนจบ
มีอยู่ครบสุขเศร้าให้เราฝ่า
ผ่านหัวเราะบอบช้ำเสียน้ำตา
ต่างลีลาชีวิตสิทธิ์ของใจ
บ้างท้อถอยล้มลงตรงเริ่มต้น
บ้างสับสนหนทางที่สร้างใหม่
บ้างจุดหมายปลายทางช่างห่างไกล
บ้างกล้าไปสูงสุดประดุจดาว
ค่อยเปลี่ยนแปลงปรับสู้เรียนรู้โลก
เผชิญโชคโศกซ่อนผ่านร้อนหนาว
แพ้ชนะหมดเปลืองกับเรื่องราว
แต่ละก้าวบทเรียนเวียนวกวน
บทนิยามความหวังยังมีมอบ
คำหวานปลอบมีให้เมื่อใจหม่น
เราต่อสู้รันทดด้วยอดทน
กับถนนมายาที่ท้าทาย
วันนี้อาจเหนื่อยนักจงพักร่าง
เพื่อรอสร้างพรุ่งนี้มีความหมาย
ร่วมรังสรรค์วาดฝันสู่บั้นปลาย
แต่งนิยายสวยงามความเป็นจริง
ทุกแห่งหนบนโลกโศกจะไร้
เมื่อหัวใจแกร่งกล้าฝ่าทุกสิ่ง
แม้บทบาทอาจต่างแนวอ้างอิง
พร้อมจะวิ่งต่อสู้ไม่รู้แพ้
15 พฤศจิกายน 2546 19:25 น.
แววดาว
ทุกสิ่งที่เธอให้ฉันไม่เชื่อ
เธอทำเพื่อกลบเกลื่อนเหมือนภาพหลอน
เอ่ยน้ำคำพร่ำว่าห่วงอาทร
บทละครซ่อนภาพฉาบมายา
รักจึงต้องกลับกลายเหมือนพ่ายแพ้
ฉันเพียงแค่ของเล่นเร้นคุณค่า
รู้เมื่อเธอไกลห่างใจร้างรา
ฉันเสียใจยิ่งกว่าน้ำตานอง
เพราะสิ่งที่เธอมอบมักชอบอ้าง
พร้อมจะสร้างสายใยเชื่อมใจสอง
มอบสัญญาหวานถ้อยร้อยใจปอง
...รักเคียงครองหวานชื่นทุกคืนวัน...
กว่าจะรู้ว่าช้ำเพราะคำถ้อย
หลงรอคอยพลั้งพลาดวาดความหวัง
แค่กระต่ายหมายใจเคียงใกล้จันทร์
แค่เธอนั้นสัญญามาร่วมทาง
มิตรภาพเธอให้ฉันไม่เชื่อ
อยู่นอกเหนือความจริงสิ่งที่อ้าง
ปล่อยให้รักยอกย้อนซ่อนใจพราง
แล้วเธอก็ทิ้งขว้างอย่างเคยทำ
11 พฤศจิกายน 2546 21:05 น.
แววดาว
ฉะเชิงเทราสุรินทร์ถิ่นสงขลา
ทั้งพังงาตากแพร่แม่ฮ่องสอน
ศรีสะเกษขอนแก่นแดนชุมพร
สมุทรสาครภูเก็ตเพชรบุรี
อำนาจเจริญสุโขทัยเมืองชัยนาท
ตรังเลยตราดกาฬสินธุ์ถิ่นกระบี่
กำแพงเพชรเชียงใหม่อุทัยธานี
นครศรีสมุทรสงครามงามสุพรรณ
หนองบัวลำภูอุตรดิตถ์พิจิตรน่าน
ถิ่นเมืองกาญจน์อุดรนครสวรรค์
สระบุรีอ่างทองระยองจันท์
ประจวบคีรีขันธ์ยโสธรนครพนม
พัทลุงยะลามุกดาหาร
สมุทรปราการระนองนครปฐม
ทั้งหนองคายลำปางต่างนิยม
แวะเยี่ยมชมร้อยเอ็ดเพชรบูรณ์
อยุธยาสกลอุบลเลิศ
เชียงรายเทิดเอกลักษณ์ไทยไม่สิ้นสูญ
พิษณุโลกปราจีนถิ่นลำพูน
เมืองสตูลสารคามงามถิ่นนนท์
ปทุมชลพะเยาเข้าโคราช
นราธิวาสปัตตานีที่ฉ่ำฝน
ราชบุรีลพบุรีดีเลิศล้น
สิงห์บุรีสระแก้วยลคนเลื่องลือ
นครนายกบุรีรัมย์งามน้ำจิต
เมืองแห่งมิตรสุราษฎร์ประกาศชื่อ
ชัยภูมิเกษตรกรรมนำฝีมือ
กรุงเทพคือเมืองหลวงใหญ่ไทยคุ้นเคย
9 พฤศจิกายน 2546 17:55 น.
แววดาว
ภาพใส่กรอบครอบครัวพร้อมทั่วหน้า
ปริญญาลูกรับประดับหรู
โล่รางวัลสรรเสริญเกินเชิดชู
ใครหนออยู่เบื้องหลังสิ่งทั้งมวล
จากก้าวแรกก้าวเริ่มต่อเติมก้าว
ผ่านเรื่องราวชีวิตเมื่อคิดหวน
คำสอนสั่งฝังใจจงใคร่ครวญ
พ่อแม่ล้วนมอบให้แต่วัยเยาว์
เพราะความเพียรคือชีวิตดุจมิตรแท้
สร้างเสริมแต่ความฉลาดพ้นขลาดเขลา
แม้ปัญหาสารพันก็บรรเทา
ถ้ายึดเอาความเพียรคอยเขียนทาง
ส่วนความคิดคือพลังดุจดังญาติ
ด้วยสามารถเกื้อหนุนค้ำจุนสร้าง
คิดให้เป็นเห็นชอบระบอบวาง
เดินสายกลางลิขิตชีวิตตน
เมื่อรู้คิดรู้เพียรรู้เรียนรู้
ดำรงอยู่ในขอบเขตหลักเหตุผล
ท้อที่สุดทุกข์ที่หนักเกินจักทน
ย่อมผ่านพ้นยิ้มได้แม้ภัยมา
คือคำสอนปรับใช้ในชีวิต
รู้ถูกผิดแยกแยะและศึกษา
ความสำเร็จคงมั่นวันเวลา
เพราะวาจาพ่อแม่ให้...ลูกใช้เดิน
7 พฤศจิกายน 2546 20:02 น.
แววดาว
น้ำนมให้คุณค่าทางอาหาร
น้ำกะทิรสหวานทานแล้วอ้วน
น้ำอ้อยนั้นดื่มเพลินขอเชิญชวน
น้ำส้มล้วนลองลิ้มชิมรสกัน
น้ำฝนรินฉ่ำชื่นจากผืนฟ้า
เกิดน้ำท่วมไหลบ่าน่าหวาดหวั่น
น้ำตกคือเสบียงเลี้ยงพืชพรรณ
น้ำหนาวนั้นถิ่นเที่ยวเลี้ยวไปชม
น้ำใจมีเผื่อแผ่แก่เพื่อนพ้อง
น้ำตานองสะอื้นซ่อนขื่นขม
น้ำคำสื่อภาษาแห่งคารม
น้ำมือบ่มความฝันสร้างสรรค์งาน
น้ำเน่าคือละครตอนสามทุ่ม
น้ำมนต์คุ้มโพยภัยให้พ้นผ่าน
น้ำเย็นอาบเพียงนิดจิตชื่นบาน
น้ำใต้ศอกทรมานร้าวรานใจ
น้ำท่วมปากพูดจาทำหน้าจ๋อย
น้ำเงินพลอยหมดค่าน่าหมั่นไส้
น้ำตาเช็ดหัวเข่าอีกเท่าใด
น้ำมันไทยเปลี่ยนแปลงแพงเหลือเกิน