ผลแข่งขัน วันนี้ ได้ที่สอง ตัวสำรอง สิ้นบท หมดทางแก้ ไม่มีคำ อกหัก ในรักแท้ เป็นผู้แพ้ เท่านั้น ในวันนี้ เธออวยพร เพื่อให้ ใครสมหวัง แม้ลับหลัง เธอกลาย เป็นบายศรี หวังสักวัน ชั้นฟ้า จะปราณี ให้เธอมี รักแท้ มาแก้กรรม เธอถูกบีบ ใจบ้าง ในบางคืน เธอคั้นน้ำตากลืน ในบางค่ำ จะให้เธอ ถามไถ่ ว่าใครทำ เธอจองจำ ตาจน ด้วยตนเอง
อยากจะฟัง ปืนเที่ยง สักเปรี้ยงหนึ่งกว่าจะถึง ถ่อไกล ไปอีกโข เลาะฝั่งคลอง มองหลัก ปักกิโล น่าโมโห เห็นปัก แต่หลักไมล์ กางแผนที่ ชี้จุด จะหยุดพัก เป้าหมายหลัก ปากคลอง บางกอกใหญ่ บัวลอยเอ๋ย เส้นทาง ค่อนข้างไกล ย้อยเหงื่อไหล โทรมกาย ถึงปลายมือ พักก่อนเถอะ ครึ่งทาง บางกอกน้อย ประเดี๋ยวย้อย ขึ้นฝั่ง อ่านหนังสือ หากเจ้าลง สรงลึก เพื่อฝึกปรือ ล้างสะดือ เสียด้วย เราช่วยกัน เฮ้?ทูนหัว บัวลอย หล่นลงน้ำ ย้อยถลำ โดดคว้า จ้าละหวั่น ต้องเสียชื่อ เสือมือไว คว้าไม่ทัน อะไรกัน?ได้ไง?ย้อยไม่ยอม ดูบัวลอย เล่นน้ำ สามสี่ยก เห็นตระหนก หน้าตื่น ยื่นมือพร้อม ย้อยคว้ามับ ฉับไว ได้ตามฟอร์ม แล้วตะล่อม ขึ้นฝั่ง นั่งติติง อย่าไปยุ่ง กอหญ้า ว่าแล้วไหม? เจออะไร ไหนดู อยู่นิ่งนิ่ง อย่าขืนตัว บัวลอย ย้อยเจอปลิง ถามจริงๆ ล้างสะดือ มาหรือยัง? ...ฯ*****ตลิ่งต่ำ ย้ำเตือน เดือนสิบสองน้ำในคลอง นองท้น ขึ้นล้นฝั่งเห็นปลิงควาย ว่ายปร๋อ ในกอซังภาพความหลัง ครั้งก่อน ปลิวว่อนมาบัวลอยเอ๋ย เคยปลื้ม ไหงลืมทุ่งทิ้งผ้าถุง รูถ่าง ไว้ต่างหน้ายกนิ้วนับ จับยาม จบสามตาทำนายว่า บัวลอย ทิ้งย้อยไปเจ้าแกล้งหลอก บอกว่า ไปหาแม่จะซื้อแห ทอดปลา มาให้ใหม่มองดูแห แผลเก่า แล้วเศร้าใจจะหาใคร ช่วยชุน มันพรุนนักข้าลงข่าย หลายผืน เมื่อคืนนี้แต่ไม่มี คนช่วย เลยป่วยหนักรีบกระดก ยาดอง ป้องกันชักโอ้ที่รัก บัวลอย ย้อยเมายา....เอื๊อก!
หากแย้มยัง อยู่ยั้ง ยืนยง พรุ่งนี้คง ขอลา ฟ้าเมืองหลวง เก็บรักหลอก ร้อยไว้ ได้เป็นพวง กวาดรักลวง สุมไว้ ไม่ต้องเรียง หลังจากนั้น- -เที่ยวสอดแนม แรมรอน หารักแท้ เอาให้แน่ ต้องไป ไกลปืนเที่ยง โอ้สวรรค์ นั่นปะไร ไม่ลำเอียง พบคู่เคียง เรียงวัย ไล่เลี่ยกัน ณ.ชายน้ำ ลำประโดง คงคาน้อย หลังกออ้อย แย้มแอบดู เธออยู่นั่น มนต์มัดใจ เสกมาก จนปากมัน หมายมัดมั่น กินรี ที่ชายคุ้ง กลืนน้ำลาย คล้ายกรวด อย่างรวดร้าว เห็นหล่อนก้าว ออกมา จากผ้าถุง มนต์มัดใจ ให้ผล จนอกตุง เลยรีบมุ่ง มัดนาง ด้วยกางเกง
ไวโอลิน คู่มือ เธอซื้อให้ อุทกภัย ท่วมถม จนจมร่าง เกินจะกู้ คืนกลับ จากอัปปาง จะปล่อยวาง ร้างทราก ก็ยากเย็น เคยเอียงคอ สีประสาน หวานเพลงรัก เธอก็มัก เอียงคอ ล้อฉันเล่น วันนี้หรือ มือสองข้าง ต้องว่างเว้น จะร้องเล่น กับอะไร ไม่เหลือแล้ว ตะวันลับ ทิวไม้ ยิ่งใจหาย เคยขึ้นสาย ลองเสียง เพียงแผ่วแผ่ว ยามราตรี สีร้อง ทั้งสองแนว หวังให้แว่ว ถึงเธอ เสมอมา เถอะคืนนี้ แม้มีเพียง แค่เสียงร้อง มือทั้งสอง ฉันต้องใช้ เพื่อไขว่คว้า ยกฝ่ามือ ขึ้นมอง นองน้ำตา จะปิดหน้า ร้องไป ให้เธอฟัง
ฉันยากไร้ อย่างนี้ ทีเดียวหรือ ?ใช้หนังสือ,ท่อนแขน หนุนแทนหมอน ? ผ้าถูพื้น ผืนยังใหม่ ใช้ห่มนอน ? เธออาทร ถามฉัน ..วสันต์พรำ มือละมุน อุ่นประคอง ทั้งสองแก้ม หลับเถิดแย้ม ประเดี๋ยวคง ไข้ลงต่ำ เธอห่วงใย ในแววตา กว่าถ้อยคำ ฉันจดจำ แววนั้น ผ่านวันคืน วสันต์นี้ ที่ฉันนอน มีหมอนแล้ว แต่ยังแว่ว เสียงฝน ปนสะอื้น สงสารหมอน อยู่บ้าง ในบางคืน ต้องเปียกชื้น เปื้อนช้ำ ด้วยน้ำตา ................. แรงกระเพื่อมมาจากเพลง"วสันต์ถวิล" ฟังในคืนฝนพรำ