6 กรกฎาคม 2551 22:44 น.
แม่มดใจร้าย
หวาดกลัวนักรักกะล่อนตอนเหงาเหงา
ทำใครเศร้ามากมายร้ายนักหนา
ตอนเธอเหงาใครเฝ้าอยู่ทุกครา
หายเหงามาใครบ้าอยู่คนเดียว
รักกะล่อนตอนเหงาทำเศร้าหลาย
ล้วนทำร้ายหัวใจให้แห้งเหี่ยว
เธอหายเหงาใครเศร้าอยู่ดายเดียว
ใจเปล่าเปลี่ยวเหี่ยวเฉาเศร้าเหลือใจ
รักกะล่อนตอนเหงาทำเศร้าโศก
ทำให้โลกของใครต้องหม่นไหม้
ความรู้สึกของใครต้องเฉาไป
รู้บ้างมั้ยหัวใจกะล่อนจัง
4 กรกฎาคม 2551 20:02 น.
แม่มดใจร้าย
ยามฝนตกใจเศร้าเหงาหมองหม่น
ใครบางคนคิดถึงกันหรือไม่
ยามฝนตกหมองเศร้าเหงาหัวใจ
รู้หรือไม่ว่าใจคิดถึงเธอ
เสียงฟ้าร้องเสียงฝนกร่นกระหน่ำ
เหมือนตอกย้ำหัวใจจนพร่ำเพ้อ
อดีตกาลผันผ่านยังละเมอ
คิดถึงเธอยามฝนหล่นร่วงริน
ยามฝนตกคิดถึงกันหรือไม่
ฤๅ ว่าใจมิเคยได้ถวิล
เสียงฝนหลั่งฟ้าร้องน้ำตาริน
ฤๅ มิยินว่าใจใครคร่ำครวญ
3 กรกฎาคม 2551 20:31 น.
แม่มดใจร้าย
จะอยู่อย่างคนแก่แม้ยงโหย่ง
เดินโทงโทงคนบ้าอย่ามาเกี่ยว
แม้จะแก่แก่กะลาก็ตาเดียว
ไม่มีเอี่ยวอย่าเกี่ยวให้เฉาใจ
แม้จะแก่แก่กระโหลกโขกไม่แตก
จะเดินแบกคานทองอันผ่องใส
เป็นคนแก่กล้าหาญที่ชาญชัย
มีหัวใจแบบแก่แน่จริงเชียว
จะยอมแบกคานทองอันผ่องศักดิ์
ใครใครทักก็ยิ้มมิแห้งเหี่ยว
เป็นนางสาวคานทองแน่จริงเชี่ยว
อย่ามาเกี้ยวให้หมองนองน้ำตา
ถึงจะแก่แก่ชราอย่างกล้าหาญ
และขึ้นคานพร้อมศักดิ์และศรีข้า
เป็นนางสาวคานทองผ่องกายา
แก่ชราข้าคือสาวคานทอง