7 กันยายน 2549 19:50 น.
แม่มดใจร้าย
แดดแรงแสงจ้าลาลับ
หลบกับห้วงครามน้ำใส
พลิ้วคลื่นงามตาอำไพ
แสงทองส่องใจงดงาม
เมื่อแดดลับลาจากฟ้า
ห้วงน้ำก็พาใจหวาม
เห็นคลื่นพลิ้วไหวสวยงาม
แดดตามยามอัสดง
อาทิตย์ลาลับล่วงโลก
เงาโศกโลกพลันหมองหม่น
หัวใจก็ยังมั่นคง
ซื่อตรงต่อรักที่มี
ไม่เคยแปรผันในรัก
แต่มักไม่ได้อย่างนี้
เลยต้องขอบอกลาที
วันที่แดดลับดับลง
6 กันยายน 2549 20:27 น.
แม่มดใจร้าย
ฉันแต่งกลอนสอนให้ใจได้คิด
เตือนดวงจิตมิให้ใจไหวหวั่น
รักหรือไม่ไม่เป็นสิ่งสำคัญ
อาจเป็นฝันลอยมากับสายลม
เป็นเพียงความรู้สึกดีที่มีให้
แต่มิได้ทำให้ใจขื่นขม
ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะต้องตรม
หรือขื่นขมกับรักที่หักใจ
เพราะตัวฉันเคยผ่านความรู้สึก
รักร้าวลึกเกินนึกหรือหวั่นไหว
เคยถูกรักทำปวดรวดร้าวใจ
แล้วหัวใจก็ผ่านมาด้วยดี
เพราะตัวฉันนั้นมีรักรอบข้าง
ไม่อ้างว้างเหว่ว้าน่าหน่ายหนี
รอบข้างฉันยังมีคนใยดี
พร้อมยังมีความรักที่ปักใจ
4 กันยายน 2549 21:23 น.
แม่มดใจร้าย
อยากเอ่ยคำว่า...ขอโทษ
ถ้าเธอยังโกรธฉันอยู่
แต่เธอนั้นคงไม่รู้
เพราะดูเธอนั้นเฉยเมย
แต่ฉันไม่ใช่คนผิด
จึงคิดว่าทำเฉยเฉย
อย่างนี้จะดีกว่าเลย
แกล้งเฉยและไม่สนใจ
3 กันยายน 2549 19:57 น.
แม่มดใจร้าย
รักเธอชั่วชีวิต
รักเธอนิดมิเสื่อมคลาย
รักเธอมั่นจนตาย
รักเธอมลายฉันยังจำ
รักเธอจากดวงจิต
รักเธอคิดทุกคืนวัน
รักเธอคอยจดจำ
รักเธอช้ำยังสู้ทน
1 กันยายน 2549 18:46 น.
แม่มดใจร้าย
ฟ้าใสสวยราวภาพฝัน
เสกสรรค์ปั้นแต่งนักหนา
แดดใสทอแสงงามตา
สกุณาร่าร้องเริงลม
หมู่มวลวิหคโผผิน
ร่อนบินหาถิ่นสุขสม
หากินด้วยใจรื่นรมณ์
เที่ยวชมทั่วท้องนภา
พฤกษาพากันชูช่อ
ไม่ท้อแม้แดดแรงกล้า
ดอกไม้ต่างสีนานา
ต่างพากันล้อเล่นลม
หัวใจยามนี้มีสุข
ไม่ทุกข์หรือต้องขื่นขม
ได้ยืนท่ามกลางสายลม
ได้ชมไพรพฤกษ์พนา
สิงสาราสัตว์น้อยใหญ่
ในไพรได้ใกล้พฤกษา
เป็นถิ่นอาศัยนานมา
พึ่งพาซึ่งกันและกัน