14 กุมภาพันธ์ 2551 13:04 น.
แม่มดใจร้าย
ระหว่างทางความฝันและความหวัง
ด้วยพลังแรงใจที่สร้างสม
หวังเชยชิดเคียงใกล้ให้ภิรมย์
ทุกสิ่งสมมิใช่ให้ภินพัง
ระหว่างทางความฝันเคยหวังวาด
คงขยาดเหลือเพียงความวาดหวัง
รอยยิ้มชื่นมิเคยมั่นจีรัง
เหลือเพียงรอยชิงชังฝังในใจ
ระหว่างทางความหวังที่ฝันฝาก
คงลาจากห่างจิตมิสงสัย
ความผูกพันมั่นคงสิ้นลงไป
เหลือเพียงรอยอาลัยในทรงจำ
4 กุมภาพันธ์ 2551 00:01 น.
แม่มดใจร้าย
ณ ราตรีไร้ดาวพร่างพราวฟ้า
ความเหว่ว้าโอบล้อมพร้อมเคลื่อนไหว
หมู่เมฆเหงาเป็นเงาอยู่ข้างใจ
รอบางใครโอบเอื้อเจืออาทร
ณ ราตรีแห่งนี้ที่มีเหงา
คอยเป็นเงาข้างใจให้ทอดถอน
หนาวหัวใจไร้ใครเอื้ออาทร
ให้สะท้อนหวั่นไหวในอุรา
ณ ราตรีแห่งนี้ที่พำนัก
ขอหยุดพักหัวใจแห่งตัวข้า
รอบางใครสักคนเจือเมตตา
โอบเอื้อมมือไขว่คว้ายามล้าใจ
24 มกราคม 2551 21:17 น.
แม่มดใจร้าย
เกิดฤกษ์งามยามดีคนนี้แน่
ต้องใช่คู่แท้แท้เลยละนั่น
มาเถอะนะเกี่ยวก้อยปรองดองกัน
อย่ามาตัดสัมพันธ์ให้ร้าวรอน
แอบไปดูฤกษ์ยามถามถ่องแท้
แหมแหมแหมหมอดูมิตอบสนอง
บอกว่ารอไปก่อนนะบังอร
อีกสักสองสามปีจึงมีมา
คงจะรอไม่ไหวละคุณหมอ
จะให้รอไปถึงชาติไหนหนา
เพื่อนก็หนีแต่งงานอีกแล้วนา
เอาเถอะนะถ้าไม่มีไม่เป็นไร
อยู่เป็นโสดตายสนิทคิดท่องเที่ยว
แอบเลาะเลี้ยวตามทางอันกว้างใหญ่
เสาะหาที่สวยงามศิวิไลซ์
หล่อเลี้ยงใจให้สุขทุกคืนวัน
จะแอบหนีไปเที่ยวอีกแล้วหนอ
เดี๋ยวไปขอดูก่อนเถอะนะนั่น
จะใกล้ไกลไปไหนดีกว่ากัน
เดี๋ยวไปฝันก่อนนะถ้าคิดไป..
22 มกราคม 2551 10:11 น.
แม่มดใจร้าย
ฉันก็มีจิตใจมิใช่หรือ
หรือขึ้นชื่อเป็นคนต้องทนไหว
ใครจะดีจะร้ายสักเพียงใด
ต้องสู้ทนนิ่งไว้มิไหวติง
ฉันก็มีเลือดเนื้อมีชีวิต
และหัวจิตหัวใจใช่หยุดนิ่ง
ยังอยากหาไออุ่นให้พักพิง
ให้อุ่นอิงยามล้าคราร้าวรอน
ฉันก็มีหัวจิตและหัวใจ
ยามหวั่นไหวหัวใจก็ร้าวอ่อน
ขอเถอะนะฉันคนพเนจร
ยามรานรอนขอพักพิงอิงอุ่นไอ
20 มกราคม 2551 21:06 น.
แม่มดใจร้าย
ปากเอ๋ยปากปากคนใช่ปากกา
สักแต่ว่าพูดไปได้ทุกที่
มีแต่ปากพูดไปทุกนาที
ระวังสีที่ปากจะออกมา
ปากคงดีมากไปเลยได้แผล
แล้วก็แย่เพราะปากนั้นเหมือน..
พูดออกไปจนคนเบื่อระอา
เพราะปาก..พูดได้แต่ไม่ดี
อย่าสักว่ามีปากเหมือนมี..
เอาแต่พูดถึงเรื่องที่บัดสี
คอยแต่พูดในสิ่งที่ไม่ดี
หรืออยากมีสีที่ปากจงบอกมา