7 ธันวาคม 2549 21:42 น.

ธารเศร้า

แม่มดใจร้าย



เหม่อมองธารสายน้อยยามใจเศร้า
ยามเราเหงาหัวใจใครจักเห็น
ธารหัวใจคอยรักทั้งเช้าเย็น
ยังไม่เห็นเธอนั้นคืนกลับมา

ธารสายน้อยคงเศร้าเหงาหมองหม่น
ต้องทุกข์ทนคอยรักกลับมาหา
นั่งรอคอยทุกวันและเวลา
กับน้ำตายามเศร้าร้าวลำเค็ญ

นับคืนวันน้ำตาที่ร่วงหล่น
แสนสับสนหัวใจไยไม่เห็น
นั่งรอรักคืนกลับอย่างยากเย็น
ทุกข์ลำเค็ญรอรักข้างสายธาร
				
6 ธันวาคม 2549 19:31 น.

ตอบกลอน

แม่มดใจร้าย



แม่มด          ขอเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ด้วย
                    ให้เธอช่วยเตือนจิตที่คิดถึง
                    ร่ายลำนำคำกวีที่ตราตรึง
                    ให้เธอซึ้งถึงจิตมิตรมิคลาย
ไม่ออกนาม   ที่เขียนมา เขียนให้ ใครหรือนั่น
                    เขียนให้เรา หรือนั่น หรือไฉน
                    ช่วยตอบที่ ให้หาย ข้อข้องใจ
                    หรือเขียนไว้ บอกกล่าว เล่าให้ฟัง
แม่มด          เขียนกลอนนี้ ตอบไว้ ในกลอนหนึ่ง
                    เป็นกลอนซึ่ง มีค่า มีความหมาย
                    เป็นกลอนชื่อ เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ
                    ก็เลยเก็บ เอาไว้ ให้อ่านกัน
ไม่ออกนาม   ต้องขอบใจ ที่เก็บไว้ ให้ได้อ่าน
                    เป็นคำขาน ที่มีค่า อยู่เสมอ
                    กลอนดีดี ที่มีนั้น เหมาะกับเธอ
                    เหมือนจะร้าย แต่ใครเจอ ต้องว่าดี
แม่มด           ในตัวฉัน ไม่มี ดีไรหรอก
                    ก็ขอบอก ฉันก็เป็น เช่นผู้หญิง
                    มีทั้งร้าย ทั้งรัก ให้พักพิง
                    มีทุกสิ่ง ที่ผู้หญิง เขาเป็นกัน
                    ไปนอนก่อนดีกว่า
                    ขืนช้าแย่แน่แน่
                    สมองไม่แล่นแล้วงอแง
                    ง่วงนอนแท้แย่แล้วเอย
ไม่ออกนาม   เธอจะแย่ เรื่องอะไร ไปหรือนั่น
                    สิ่งที่ฉัน พูดไปนี้ ดีเสมอ
                    ที่ผ่านมา ฉันรู้ นิสัยเธอ
                    เป็นโชคดี ที่ได้เจอ เธอคนดี
                    จะบอกให้ เธอไปนอน ให้หลับฝัน
                    ในสิ่งนั้น สิ่งดีดี ที่ถามถึง
                    เพียงพักผ่อน ร่างกาย จิตใจจึง
                    เพียงพักหนึ่ง ตื่นมาใหม่ ใสสดเอย
แม่มด          อารมณ์ศิลป์มาแล้วหรือพี่ท่าน
                    ถึงได้ขาน ขับเขียน กวีใส
                    เป็นลำนำ ลอยฝาก ในเว็บไป
                    ให้หัวใจ สดใส ทุกคืนวัน
ไม่ออกนาม  ไม่ได้มี อารมณ์ศิลป์ มาจากไหน
                    จะว่าไป ก็แค่ ได้ขับขาน
                    กลอนกวี บทเปล่า ไว้เล่ากัน
                    เพราะเพียงฉัน นั้นได้ อยู่ใกล้เธอ
                    ถ้าจะปิด หน้านี้ไป โดยไม่เซฟ
                    คงจะเจ็บ ในใจ ไปอีกนาน
                    ต้องเก็บไว้ สะสม ให้ได้อ่าน
                    เพื่อรำลึก วันวาน ในบทกลอน


				
6 ธันวาคม 2549 08:22 น.

เกิด แก่ เจ็บ ตาย

แม่มดใจร้าย


เกิดแล้วแก่เจ็บตายเป็นวัฏฏะ
เป็นสาระที่คนควรรับรู้
เจ้าเกิดมาดูโลกอย่างพร่างพรู
เจ้ารับรู้ผลกรรมที่ทำไป

ณ วันที่เจ้าเกิดรู้มั้ยเล่า
เจ้าได้เอาอะไรมาหรือไม่
สิ่งติดตัวเจ้านั้นมีอะไร
บอกได้มั้ยว่าเจ้าเอาไรมา

ณ วันที่เจ้าตายรู้ไว้เถิด
สิ่งที่เกิดตอนตายนั่นแหละหนา
เพี่ยงแค่โลงสี่เหลี่ยมนั่นแหละนา
ที่จะพาตัวเจ้าใส่เข้าไป

				
3 ธันวาคม 2549 21:08 น.

ภูกระดึง (ตอน 3 ข้าคือผู้พิชิต (จบ))

แม่มดใจร้าย

จากซำสามฉันเดินเพลินเลยนั่น
เดินไปนั้นหัวใจก็ฝันเพ้อ
เมื่อไหร่หนาจะถึงซะทีเออ
รีบหยุดเพ้อนะเธอเพื่อนบอกมา

เดินกันไปจนถึงซึ่งซำสี่
ชื่อซำนี่ไม่ต่างกันหรอกหนา
ซำกกซางสงสัยจังเพื่อนยา
มีไหร่นาถึงมาตั้งชื่อกัน


ในวันนี้มาต่อกันเถอะหนา
ถึงซำห้าแล้วหรือเพื่อนเพื่อนฉัน
เดินเรื่อยเปื่อยเกินไปหรือไงนั่น
ซำห้านั้นชื่อว่าพร่านพรานแป

เดินตั้งนานพึ่งถึงซึ่งซำห้า
สงสัยบ้าหรือไม่คงจะแย่
ต้องทนเดินต่อไปแสนท้อแท้
นึกอ่อนแอไม่น่ามาเลยตู

ถึงอย่างไรก็คงต้องเดินต่อ
อย่าพึ่งท้อตามฉันนะพวกสู
เดินเดินไปให้ใครนั้นรับรู้
ว่าเราสู้เดินต่อแม้อ่อนล้า

เห็นมั้ยเดินต่อไปยังซำหก
ต้องหยิบยกชื่อใหม่กันละหนา
ชื่อซำนี้มีชื่อซำกกหว้า
เอะเอะถ้าลูกหว้าจะมากจัง

เหลืออีกเพียงสามซำก็จะถึง
หลังแปซึ่งพวกเรายังมีหวัง
รีบพักเหนื่อยอ่อนล้าเติมพลัง
แล้วรีบตั้งใจเดินกันเถอะเรา

เดินต่อไปจนถึงซึ่งซำเจ็ด
ไม่หมกเม็ดเหมือนใจใครใครเขา
ซำกกไผ่โดนใจพวกพวกเรา
รีบจ้ำเข้าเร็วเร็วนะเพื่อนยา

ฉันรีบเดินจนโดนเพื่อนแซวแล้ว
แม่ดวงแก้วช๊อปปิ้งหรือไงหนา
เธอเดินเหมือนซื้อของในห้างนา
เหมือนดังว่าท้องฟ้านั้นติดแอร์

ต้องบอกเพื่อนทั้งหลายไม่โกหก
ไม่ตลกเลยหนาถ้าฉันแย่
หยุดเดินนานเกินไปใจท้อแท้
แล้วคงแย่ถ้าไม่รีบเดินเร็วพลัน

รีบรีบเดินกันต่อเถอะเพื่อนเอ๋ย
รีบรีบเลยเห็นมั้ยซำหน้านั้น
เป็นซำแปดแล้วหนายอดชีวัน
ไม่ได้ฝันนั่นไงซำกกโดน

เป็นซำแปดที่เราเดินมานั่น
ซำหน้านั้นใจฉันอยากจะโหน
อยากจะเปลี่ยนเป็นลิงที่ทะโมน
จะห้อยโหนโยนตัวกันขึ้นไป

สงสัยเดินเหนื่อยหนาจึงคิดหนัก
ความเพ้อทักหัวใจจนหวั่นไหว
รีบรีบดึงความคิดสู่จิตใจ
ก้มหน้าไปเดินต่อกันเถอะเรา

รีบเดินไปจนถึงซึ่งซำแคร่
ถ้าจะแย่ไหนแคร่กันนะเล่า
ไม่เห็นมีแคร่เลยนะพวกเรา
สงสัยเอาไปซ่อนแล้วเพื่อนยา

ณ ซำแคร่ซึ่งเป็นซำที่เก้า
พวกเราเล่ารีบเดินเหิรขึ้นฟ้า
ตั้งหน้าตรงปีนป่ายไม่ระอา
โขดหินหนาขวางหน้าข้าไม่เกรง

ผ่านโขดหินสูงใหญ่ที่มากล้น
เราดั้นด้นปีนป่ายหัวใจเหวง
ปีนบันไดตั้งตรงอลเวง
เหมือนจะเคว้งฉากหน้ากับฟ้างาม

ปีนกันไปจนถึงซึ่งสุดหล้า
เล่าท้องฟ้าก็พาใจหวาบหวาม
ฟ้าสีสวยสดใสพาใจงาม
ใจสวยตามท้องฟ้าที่มั่นคง

เห็นฟ้าสวยสดใสใจก็ซึ้ง
ที่เราถึงซึ่งถิ่นใครใครหลง
หลังแปนี้ที่ใจใฝ่ผจง
แล้วเราคงขึ้นชื่อระบือนาม

ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่พิชิต
แดนดินติดชื่อหนึ่งในสยาม
ภูกระดึงงามซึ่งระบือนาม
ทั่วเขตคามผู้คนดั้นด้นมา
				
3 ธันวาคม 2549 19:46 น.

รักคือ

แม่มดใจร้าย


คือน้ำผึ้ง คือน้ำตา คือยาพิษ
คือหยาดน้ำ อมฤต อันชื่นชุ่ม
คือเกสร ดอกไม้ คือไฟรุม
คือความกลุ้ม คือความฝัน นั่นแหละรัก

ในความหมายข้างต้นคงทำให้
ในหัวใจได้รู้ถึงความรัก
ความหมายแท้ในใจย่อมประจักษ์
ความหมายรักนั้นเป็นเช่นคารม

อยากจะให้รักเป็นเช่นน้ำผึ้ง
ควรนึกถึงความรักที่สุขสม
อยากให้รักนั้นเป็นเช่นพิษตรม
รักไม่สมดังใจที่ต้องการ

อยากให้รักนั้นเช่นเป็นหยาดน้ำ
อมฤตชุ่มช่ำเหมือนเป็นสาร
กลั่นออกจากดวงใจใครต้องการ
รักชื่นบานสุขสมมิตรมใจ

อยากเปรียบรักนั้นเป็นเช่นเกสร
ดอกไม้อ่อนอ้อนใจให้หลงใหล
เปรียบรักนั้นดั่งเช่นเป็นดวงไฟ
รุมร้อนใจใครใครไม่ต้องการ

เปรียบความรักที่มีเหมือนความกลุ้ม
คือทุกข์สุมดวงใจไม่ให้หวาน
เปรียบรักเช่นฝันไปไม่ต้องการ
คำกล่าวขานทั้งมวลล้วนความรัก


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแม่มดใจร้าย
Lovings  แม่มดใจร้าย เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแม่มดใจร้าย
Lovings  แม่มดใจร้าย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแม่มดใจร้าย
Lovings  แม่มดใจร้าย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแม่มดใจร้าย