28 ตุลาคม 2555 04:48 น.
แม่น้ำในฟ้า
จ้องดวงตาคราแสงส่องระยิบ
ตากระพริบแวววาวเหมือนดาวไหว
เนตรดวงกลมดำขลับช่างจับใจ
วาบหวามไปทุกครั้งเมื่อนั่งมอง
สองตาเจ้าเร้าฝันจนกลั่นจิต
นิรมิตแสงงามท่ามยามสอง
ดุจดาวคว้างกลางฝันอันเรืองรอง
แอบจับจอง...ดาวนั้นในฝันดี
เหมือนดั่งแสงสุกใสในดวงเนตร
ซ่อนวางเวทย์มนตราพาจิตนี้
สุขยามฝันบรรยายร่ายกวี
เปี่ยมเปรมปรีดิ์ที่สุดเกินหยุดคำ
รักซึมซาบอาบแทรกชำแรกทรวง
เกิดเป็นท่วงทำนองเสนาะย้ำ
กวีหวาน ขานแผ่วเพียงแว่วนำ
จดทรงจำตราไว้ในรอยจินต์
20 ตุลาคม 2555 16:26 น.
แม่น้ำในฟ้า
ไม่รู้ว่าตะวันมันอยู่ไหน
อยู่ทิศใดกันหนอในตอนนี้
รู้แต่แสงแรงจ้าที่ฟ้ามี
ไร้ปราณีพาหม่นต้องทนคอย
รอเวลาฟ้าดับแสงลับเปลี่ยน
นับวารเวียนพาเศร้าเสียเหงาหงอย
แสงส่องหล้าฟ้าพร่างกระจ่างพลอย
เฝ้าใจน้อย น้อยจิตคิดถึงจัง
ปล่อยอารมณ์เคยชินเสียดิ้นดื้อ
หัวพาลตื้อตื๊อถามเหมือนตามรั้ง
อยากยินคำพร่ำหาพะว้าพะวัง
ยากหยุดยั้งเกินฝันทุกวันเป็น
ยามไกลห่างช่างนาน...เจ้ากาลเคลื่อน
กระไรเหมือนเลื่อนลอยแล้วค่อยเข็น
พอพ้นผ่านกาลเร้าจะเข้าเย็น
แสนลำเค็ญรอฟ้าสู่ราตรี
พอพบนวลชวนชิดจะพิศโฉม
ฟากโพยม...พาลเพี้ยนเร่งเปลี่ยนสี
ย่นย่อคืนหมื่นดาวสกาวพลี
สิ้นวารีเวลา...พบหน้ากัน...
จึงรู้เพียงเคียงคราวแค่ดาวล่อง
แม้นหมายห้องหัวใจสู่สวรรค์
เวลาไหลคล้ายน้ำที่ลามรัน
เมื่อเปรยเปรียบ เงียบงันจึงงดงาม
20 ตุลาคม 2555 15:48 น.
แม่น้ำในฟ้า
กล่อมหัวใจให้พักลงหลับใหล
บนเส้นไหมไมตรีที่โยงสาย
เจ้าจงหลับพักผ่อนนอนเอนกาย
ทอดจิตคลายทุกข์หวั่นให้ฝันปรน
อย่าหวาดหวั่นใดใดในอ้อมกอด
จงพริ้มพรอดเพลินท่านิทราผล
ชื่นจันทร์เปลี่ยนเวียนสู่สุริยน
ดวงกมล...นอนเถิด...เถิดจงนอน
12 ตุลาคม 2555 23:01 น.
แม่น้ำในฟ้า
ในภาพฝันอันพิสุทธิ์...สุดที่รัก
จงตระหนักเพียงรู้ได้ด้วยใจเห็น
ว่าจิตหมาย ที่หมายย้ำ สำคัญเป็น
เสมือนเพ็ญพิลาสแสงแห่งอัมพร
เธอเหมือนจันทร์อันพราวพร่างกระจ่างฟ้า
ฉันเพียงตาที่ชื่นชมบ่มอักษร
ยลภาพแสงแห่งจันทร์ฉายแล้วร่ายกลอน
ก็เพียงอ้อนเจ้าจันทร์จ้าวให้หนาวใจ
จะได้มองชำเลืองตาลงมาบ้าง
เลิกลอยคว้างอยู่กลางดาวสกาวไหว
มานี่มา มานั่งอิง แล้วผิงไฟ
ให้อุ่นไอ แห่งไฟรัก มันชักพา-
ความอุ่นคลายเมื่อกายร้าวเพราะหนาวเนื้อ
จะเร่งเชื้อพระเพลิงโหมโลมรักษา
บรรเลงพจน์แห่งบทฝันอ้อนจันทรา
ให้กลอนข้าฯ...ได้ห่มขวัญนะจันทร์เอย
12 ตุลาคม 2555 22:49 น.
แม่น้ำในฟ้า
เหมือนตัวลอยคล้อยไปในอากาศ
พบพิลาสลำแสงแห่งสวรรค์
ปรากฏร่างนางฟ้าองค์ลาวัณย์
เพริศผิวพรรณผ่องผุดสุดโสภา
นางย่างเยื้องเรืองท่าสง่างาม
เพลินพิศตามนางไปในชั้นฟ้า
ผ่านทุ่งเมฆเขตชั้นที่กั้นตา
คล้อยเวหาสู่ชั้นสวรรค์พรหม
ในห้วงจิตพิศเพลินเสียเกินกลับ
อยากเลยลับลืมทุกข์อยู่สุขสม
กับนางเพียงเคียงฝันทุกวันชม
ลืมทุกข์ตรม...หลับฝันนิรันดร์กาล
นางคือคนหนึ่งในดวงใจคิด
รสจริตจิตใจคล้ายความหวาน
ในฝันขมตรมเศร้าที่ร้าวราน
นานแสนนาน...ผ่านมาตามหาใจ
ไหวตระหนกอกหวั่นเมื่อครั้นตื่น
ยันกายฝืนลืมตาอุราไหว
ทุกรุ่งเช้าเฝ้าหลอนจะนอนไว
เพื่อพบใครในฝันแต่นั้นมา