6 ตุลาคม 2555 14:46 น.
แม่น้ำในฟ้า
อยากเขียนกลอนความรักสักหมื่นบท
เขียนเพื่อจดในใจไว้ในฝัน
เขียนว่ารักรักรักไว้ทักกัน
เขียนให้เธอเท่านั้นในฝันนอน
มอบกุญแจหัวใจให้เธอถือ
ไว้ในมือพร้อมสิทธิ์อ่านอักษร
เปิดประตูสู่บ้านวิมานกลอน
อ่านทุกตอนตระหนักในรักนำ
คำจารใจด้วยคมแห่งความรัก
เขียนจำหลักรักเธอจนเผลอย้ำ
เป็นอักษรกลอนรักไม่วรรคคำ
ด้วยสุขล้ำค้ำเขียนเหมือนเวียนวน
ว่าหนึ่งรักสองรักสามรักกล่าว
สี่ห้ายาวสาวไปเป็นล้านหน
มีซ่อนไว้อีกเพียบจะเปรียบปรน
มันลามล้น...จนเหลือมิเบื่อใจ
กลอนเลยมีแต่คำว่ารักถ้อย
ไม่สิ้นสุดดุจสร้อย...สีสุกใส
เมื่อนิทรามานับจงหลับไป
สวมสร้อยใส่...ฝันซ้อนนอนฝันดี
รักฉันแม้นไกลตัวแต่หัวใจ
จะคงอยู่...ใกล้ใกล้เธอตรงนี้
รอพบเธอในฝันทุกวันมี
อย่างล้นปรี่เปี่ยมรัก...ด้วยรักรอ
6 ตุลาคม 2555 14:30 น.
แม่น้ำในฟ้า
มองเมฆลอยคล้อยเห็นตอนเย็นย่ำ
เมฆลอยต่ำเกาะกลุ่มเป็นพุ่มเห็น
เหมือนขุนเขาเงาดำเมื่อย่ำเย็น
ฟ้าครามเป็นฉากกรอบช่างชอบชม
เมฆม้วนกายคล้ายควันลดหลั่นแสง
เด่นดูแดงแดดส่องแสงทองสม
เลื่อมลายลัดตัดแสงแห่งฟากพรม
ขมวดปมเป็นศิลป์จินตนา
ไกลไกลรอบขอบฟ้าเมฆาขุ่น
สีดูตุ่นหมุนเคลื่อนอยู่เกลื่อนฟ้า
แม้ดูเหมือนอยู่ลิบเพียงพริบตา
เมฆมวลหนามัวหม่นจะฝนโปรย
เมื่อแสงลับ...ดับดวงตะวันรอน
เงาสิขร...ก้อนเมฆวิเวกโหย
ปะทุแสงแวงวับรับลมโชย
เสียงโอดโอย....ครวญคร่ำพร่ำฝนริน
ฝนตกฟังหลั่งสายมิวายพ้อ
นานเนิ่นหนอ...รอหยุดสุดถวิล
ถึงนวลเจ้า...เฝ้าทนฟังฝนยิน
อยากโบยบิน...หัวใจไปหานาง
เพื่อกอดกายคลายหนาวคราวฝนตก
เอาอุ่นอก..โอบกอดเพียงทอดร่าง
บรรเทาหนาวร้าวสั่นสรรพราง
ทดแทนร้าง...ห่างจิตด้วยคิดครวญ
28 กันยายน 2555 13:39 น.
แม่น้ำในฟ้า
หลับตาพริ้มยิ้มยวนช่างชวนฝัน
มองจอมขวัญอิ่มอุ่นนอนหนุนหมอน
ขับเพลงหวานผ่านฟ้าพาเจ้านอน
พร้อมกับศรแห่งรักไปปักทรวง
ให้ฝันถึงหนึ่งใจใครคนหนึ่ง
ดวงคำนึงหนึ่งนั้นในฝันห้วง
รอกอดรักรับเจ้า..สู่..ดาวดวง
พาเยือนสรวงควงแขนบนแดนดาว
ยลยวนยิ้มพริ้มเพรา...ยามเจ้าหลับ
ยิ้มเจ้าจับบางใจในแดนด้าว
ให้นิ่งจ้องมองยิ้มที่พริ้มพราว
อุ่นคลายหนาวคราวหน่ายสบายชนม์
หนาวเหนื่อยหนักนักหนอพอยลยิ้ม
ก็อาบอิ่มปริ่มเปรมเกษมพ้น-
-โลกีย์กาก มากกรอบ ที่ชอบกล
เมื่อยามยล...ยิ้มยวนช่างชวนเย็น
หากอยู่ใกล้ได้กอดตลอดคืน
ก็ยอมตื่นแขนชาทุกคราเห็น
เพียงชื่นหอมดอมฝันทุกวันเป็น
เดือนยามเพ็ญผ่องผุด...ดุจกอดเธอ
17 กันยายน 2555 14:46 น.
แม่น้ำในฟ้า
ฉันกำลังมีความรัก
แปลกใจนักวันวานที่ผ่านผัน
มิเคยคิดยามเราใกล้ชิดกัน
ใจจะสั่นไปได้ถึงเพียงนี้
ฉันกำลังเฝ้าเรียนรู้
สิ่งที่อยู่ในใจมันล้นปรี่
คิดถึงกันทุกวันทุกนาที
ช่างโชคดีเหลือเกินที่พบเธอ
ฉันกำลังรักใครคนหนึ่ง
นัยน์ตาซึ้งสบพักต์พิศไผลเผลอ
อยากโอบกอดทุกคราที่พบเจอ
สัมผัสเธออบอุ่นละมุนละไม
ทว่าเสี้ยวเวลานั้น
ช่างแสนสั้นมิอยากจะเคลื่อนไหว
นาฬิกาเคลื่อนผ่านเราสองไป
แต่มิอาจเคลื่อนใจให้ไหลตาม
เร็วเกินฝันกับความเป็นจริง
ทั้งที่เราหยุดนิ่งทิ้งคำถาม
"แปลกดีนะ"ทำไมในทุกยาม
เวลาข้ามพ้นผ่านเพียงพริบตา
ฉันกำลังงง
จะซื่อตรงต่อใจดีไหมหนา
ฤาออกเดินตามเข็มนาฬิกา
แล้วลืมตาขึ้นมาพบความจริง
จะคงมีเธอฉันอยู่หรือเปล่า
กระจกเงาสะท้อนในทุกสิ่ง
แม้นไกลกายเงียบงันมิไหวติง
ปล่อยให้รักดำดิ่งสู่ห้วงใจ
12 กันยายน 2555 19:24 น.
แม่น้ำในฟ้า
ดั่งเหมือนฝันอันสูงลอยคล้อยคล้ายเมฆ
เมื่อต้องมนต์สุดวิเศษเสน่หา
ลอยละลิ่วจนปลิวว่อนร่อนนภา
พร่างพราวตาสุดซาบซึ้งตรึงหัวใจ
ในยามนี้มีรักล้นจนมันเอ่อ
ห้วงคำนึงมีแต่เธอเพ้อหวิวไหว
คล้ายว่าคือมือของคนบนฟ้าไกล
แนบหัวใจสองเราชิดจนติดกัน
วันและเดือนที่เลื่อนผ่านแม้นนานเนา
ใจสองเรานั้นเกินสุดจักหยุดฝัน
ประหลาดแท้แค่นัดพบยิ่งทบวัน
เหมือนกับมันไม่เคยพอหนอเวลา
เคยมีใครจะได้ชมอารมณ์รัก
แบบไกลพักตร์และกายห่างกันบ้างหนา
ชี้ชมเดือนพอเคลื่อนผ่านประสานตา
มองขึ้นฟ้าพาจดจ้องแอบส่องเพ็ญ
ก็สุดชื่นในห้วงฟ้านภาผ่อง
เหมือนมีร่องรุ้งสะพานเคลื่อนผ่านเห็น
ทอดข้ามฟ้าผ่านดาวน้อยนับร้อยเป็น
สะพานรักอันเยือกเย็นในราตรี
สุขแสนสุขแสนคิดถึงตรึงความรัก
ภาพแห่งพักตร์ประจักษ์รู้ตาคู่นี้
ความงดงามยามนิ่งฝันเงียบงันมี
หนึ่งวลี ได้ปรากฏความงดงาม
คือคำหนึ่งซึ่งออกเสียงสำเนียงว่า
รักก้องหล้า ณ ฟ้าห้วงแห่งสยาม
ที่สุดฝัน นั้นบรรเจิด เลิศนิยาม
ด้วยใจความที่งามนัก"รักเจ้าเอย