31 กรกฎาคม 2554 14:39 น.
แม่จิตร
ทุกทุกทีที่เธอเผลอหลงรัก
ใจจึ่งเจ็บจนจมปลักยามรักหน่าย
มักหม่นหมองมองเหม่อเพ้อฟูมฟาย
โดยเดียวดายดื่มด่ำกับความทุกข์
เพียงพ่ายแพ้พิษแผลแก่รักร้าว
เร็วเรียนรู้เรื่องราวสู่ความสุข
สร้างศักดิ์ศรีสวยสมล้มแล้วลุก
เป็นปลอบปลุกปรับปรุงวันพรุ่งนี้
อย่ายินยอมย่ำแย่แพ้ชีวิต
เพราะเผลอผิดพลาดพลั้งหวังเต็มที่
ควรครุ่นคิดคุณค่าทุกนาที
แม้ไม่มีมวลมิตรคิดห่วงใย
อยู่อย่างหยิ่งเยียวยาเวลาเหงา
สิ่งโศกเศร้าซุกซ่อนพักก่อนได้
คอยเข้มแข็งขืนข่มอารมณ์ใจ
เลิกเหลวไหลรักเล่ห์เสน่ห์ลวง
หากโหยหาไห้เห็นเซ่นความรัก
เหน็ดเหนื่อยแน่นอนนักนานหนักหน่วง
ต้องตรึกตรองเตือนตนจนรู้ทรวง
แล้วลุล่วงหลบหลีกรักตรมตรอม
หนึ่งแนะนำนวลนางใช้เวลา
สองศึกษาซื่อสัตย์รักโอบอ้อม
ใครขอคบใคร่ครวญจริงหรือปลอม
เพื่อพรักพร้อมเพริศแพร้วแววมีรัก
22 กรกฎาคม 2554 23:21 น.
แม่จิตร
โคมจันทร์ส่องสว่างดาวพร่างแพร้ว
หริ่งหรีดแว่วบรรเลงบทเพลงป่า
คืนนี้สวยยามมองชมท้องฟ้า
ตระการตาทะเลดาวพราวระยับ
บนยอดเขาที่เราอยู่ยิ่งรู้สึก
ความล้ำลึกธรรมชาติประดาประดับ
โอ้ลมเอยวเนจรมาต้อนรับ
ได้พบกับความชุ่มชื่นระรื่นเย็น
นั่นสายหมอกเร่ร่อนไปนอนไหน
เมื่อคบไฟหิ่งห้อยคอยส่องเห็น
ระหว่างเรารำพึงใต้จันทร์เพ็ญ
ฤๅรอเป็นน้ำค้างท่ามกลางไพร
ท่ามกลางแสงโคมจันทร์
ระหว่างคืนเงียบงันบ้างหวั่นไหว
จึ่งคิดเขียนกาพย์กลอนสะท้อนใจ
สะท้อนความเป็นไปนัยผลงาน
สะท้อนความสุนทรีย์กวีศิลป์
เพื่อหลั่งรินหัวใจไม่ฟุ้งซ่าน
ปล่อยอารมณ์อัตตาบัญชาการ
เรียงร้อยผ่านอักษรชะอ้อนคำ
ยิ่งดึกดื่นคืนนี้มีลมหนาว
ขอผิงดาวดาษดื่นในคืนค่ำ
อาจมีใครหนาวเหน็บและเจ็บช้ำ
มาเถิดมาเพ้อพร่ำเป็นกันเอง
มาเถิดมาพาใจคลายหงอยเหงา
ต่างบอกเล่าเรื่องราวเลิกคร่ำเคร่ง
เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์อันครื้นเครง
ทั้งเรื่องราววังเวงเส็งเคร็งนัก
เราจะมีแต่กันและกัน
เพื่อแบ่งปันความเข้าใจไว้ตระหนัก
ด้วยเยื่อใยงดงามของความรัก
ที่ทอถักมิตรภาพตราบชีวิต
แล้วท่องไปสู่ห้วงแห่งสรวงสวรรค์
แวะทักทายพระจันทร์อันวิจิตร
ด้วยม้าหมอกเดินทางระหว่างทิศ
ระหว่างมิตรระหว่างเราที่เข้าใจ
แล้วอาจแวะพักคุยกับปุยเมฆ
ขอบคุณที่คอยสรรเสกน้ำฝนใส
แวะทักดาวพราวฟ้าอ่าอำไพ
ที่คอยให้ปรัชญาเวลาทุกข์
ราตรีนี้เหน็บหนาวยืนยาวนัก
เรามิตรรักจะมอบการปลอบปลุก
แทนโลกอันกักขฬะทุรยุค
บ้าเสพสุขกำหนัดวัตถุนิยม
เพื่อจะไปเรียนรู้สู่โลกกว้าง
ทุกก้าวย่างรู้ตื่นจากขื่นขม
ว่าโลกนี้มากล้นคนตรอมตรม
เถิดเราอย่างายงมจมทุกข์นี้
เรียนรู้โลกเพื่อเราเข้าใจโลก
รู้ทุกข์โศกแห่งอริยสัจจ์สี่
และทุกอย่างที่เข้ามาในชีวี
คลายจิตรที่ว้าวุ่นสุญญตา
8 กรกฎาคม 2554 03:37 น.
แม่จิตร
คืนนี้นอนไม่หลับ
ฉันคุยกับความเงียบเหงา
เปิดเพลงฟังเบาเบา
เหมือนช่วยเล่าเรื่องความหลัง
เรื่องที่เคยมีใคร
ยามอยู่ใกล้ชื่นใจจัง
คอยห่วงใยให้ความหวัง
คิดทุกครั้งยังสุขสม
โอ้! ป่านฉะนี้หนอ
คนเคยพะนอเคยชื่นชม
จะสุขหรือทุกข์ตรม
ตั้งแต่เธอจบสัมพันธ์
คิดถึง นะคนดี
ผ่านหลายปีความรักนั้น
เหมือนดาวสกาวจันทร์
สาดแสงอยู่เคียงคู่ฟ้า
ฉันจึ่งเขียนบทกวี
ฝากสิ่งนี้บอกเธอว่า
ขอบคุณที่ผ่านมา
คนลืมช้ายังห่วงใย
ความรักเหมือนดวงดาว
มองทุกคราวแสงพราวใส
อยู่สูงเกินเอื้อมได้
แต่หัวใจฉันไม่ลืม