29 สิงหาคม 2552 21:26 น.
แม่จิตร
เหมือนหยาดน้ำสายฝนบนฟากฟ้า
ที่เมตตาหลั่งรินจนดินชื่น
เหมือนแสงดาวพราวพร่างทุกวันคืน
ที่ดาษดื่นโดยรอบโอบกอดจันทร์
เหมือนสายลมพรมพลิ้วทุกทิวไม้
ที่อยู่ใกล้ไถ่ถามแม้ยามฝัน
เหมือนสาดแสงคุณค่าของตะวัน
ทุกเช้านั้นอบอุ่นความสุนทรีย์
เหมือนเสียงคลื่นบรรเลงเพลงหวานนัก
กระซิบรักหาดทรายทุกวันวี่
เหมือนน้ำหวานนานาในมาลี
ให้ผึ้งมีชีวิตอยู่ต่อไป
เหมือนกับแสงหิ่งห้อยแม้น้อยนิด
มาส่องทางมืดมิดทุกทิศได้
เหมือนความงามที่เห็นเป็นชื่นใจ
ให้หลงใหลทุกคราเวลามอง
เหมือนกับยาพิษยามผิดหวัง
อาจดับชีพกระทั่งคนทั้งสอง
เหมือนความเจ็บทุกคราน้ำตานอง
หลังจากต้องเลิกร้างระหว่างใจ
สิ่งเหล่านั้นก็คือความรัก
เมื่อรู้จักก็รู้รสความสดใส
ทั้งนรกสวรรค์นิรันดร์ไป
รวมอยู่ในนิยามของความรัก
12 สิงหาคม 2552 00:26 น.
แม่จิตร
๏ สายใยหทัยทะนุถนอม
ขณะกล่อมกะลูกขวัญ
ป้อนนมอุดมคุณอนันต์
รสชาติสะอาดหวาน
๏ ลูกน้อยก็พลอยจะปิติสุข
นิรทุกข์เพราะดูดทาน
ด้วยรักตระหนักจะบริบาล
ปิยบุตรวิสุทธิ์สม
๏ อบอุ่นละมุนอมตะรัก
ปฏิบัติมิเคยตรม
รักแม่สิแท้ดุจพระพรหม
กรุณาและอาทร
๏ ยามลูกผวาขณะจะหลับ
ก็จะโอบและแนบนอน
พร้อมเสียงเจรียงเสนาะกะกลอน
คติธรรมประจำใจ
๏ ยามตื่นแน่ะตาบุตรแป๋ว
ดุจแก้วสิอำไพ
โอษฐ์นุ่มก็จุมพิตละไม
รติสร้างระหว่างกัน
๏ รักใด ฤ เทียบ ธ ชนนี
ก็บ่มีจะเทียมทัน
เลี้ยงกุลบุตรพิถิพิถัน
ก็เพราะรักอนรรฆเอย
5 สิงหาคม 2552 22:39 น.
แม่จิตร
เหมือนฉันอยู่ในโลกความโศกเศร้า
ตั้งแต่ความรักของเรานั้นจบสิ้น
ใจเอ๋ยใจปวดปร่าน้ำตาริน
ถึงวิญญาณแตกดับกี่กัปกัลย์
ฤๅฉันอยู่ในโลกความโศกเศร้า
หลงยึดเอากฎเกณฑ์แห่งเบญจขันธ์
หลอกตัวเองหดหู่อยู่ทุกวัน
ว่าสิ่งนั้นที่เห็นเป็นของเรา
เพราะยังอยู่ในอารมณ์รักขมขื่น
กับวันคืนความทรงจำวันเก่าเก่า
กับเหตุการณ์เธอเคียงข้างเหมือนอย่างเงา
ที่ทุกเช้าฉันจุมพิตหลังนิทรา
จึ่งวันนี้ฉันพบแต่ฤดูโศก
อยู่ในโลกฟุ้งซ่านอย่างเพ้อบ้า
และบางครั้งก็มีดอกน้ำตา
ร่วงลงมาจากใจอยู่ในที
รู้ทั้งรู้ว่าเธอหมดรักแล้ว
เหมือนกับแก้วแตกร้าวราวป่นปี้
ใจเอ๋ยใจก็ยังมั่นภักดี
ทั้งชาตินี้ชาติหน้าจะรักเธอ
ซึ่งฉันเคยตั้งจิตรอธิษฐาน
หลังจากการนั่งสมาธิอยู่เสมอ
ให้คู่กันจนกว่าพบนิพพานอันเลิศเลอ
และให้เจอพบรักกันทุกชาติไป
ฤๅฉันอยู่ในโลกความโศกเศร้า
หลงมอมเมาตัวตนจนร้องไห้
ลืมเถิดหนาข่มอุราถอนอาลัย
รักษาใจด้วยอริยสัจจ์อนัตตา