22 มิถุนายน 2553 19:20 น.
แม่จิตร
ทะ เลมากี่ครั้ง....................หวนคนึง
ลุ่ม ลึกใจคิดถึง..................แต่เจ้า
ปุ่ม อดีตรักยังตรึง..............ตราอยู่ เสมอเอย
ปู แผ่ความโศกเศร้า...........ก่อนนั้นใจสลาย
ทุ รนทุรายเคยถูกทิ้ง...........เหน็บหนาว
สุ สานรักฝังราว.................นรกไหม้
มุ หมายไขว่คว้าดาว............เลยเจ็บ อนรรฆเอย
ดุ สั่งตนบ่ได้.......................ร่ำไห้ถวิลหา
อุ ปมากระต่ายเก้อ...............หมายจันทร์
สา มิภักดิ์ดวงชีวัน................สละได้
นา นาอุปสรรคอัน...............ยากยิ่ง ยอมฤๅ
รี รี่ฟันฝ่าไว้....................สุดท้ายเศร้าหมอง
โก กิลาร่ำร้อง..................เสียงหวาน
วา ระดับอุปทาน................เริ่มแล้ว
ปา กิเลสเหตุมาร................ทุกโศก
เปิด จิตรเห็นธรรมแพร้ว....หยุดเพ้อละเมอหลง
จก ธรรมลงสู่ห้วง................ดวงใจ
จี้ ปล่อยวางอาลัย................ค่ำเช้า
รี้ ใจเร่งชนะใจ.................ตนก่อน เถิดเอย
ไร อดีตอภัยแด่เจ้า...........แค่นี้ปรารถนา
8 มีนาคม 2553 15:30 น.
แม่จิตร
สตรีทั้งหลาย
ต้องทนทุกข์จากผู้ชายหมายกดขี่
ถูกมองเป็นวัตถุเพศเหตุราคี
ทั้งไร้สิทธิ์เสรีที่เท่าเทียม
ทุกวันนี้มีข่าวเธอมากมาย
ถูกทารุณทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม
ฝืนอยู่อย่างปวดใจด้วยใจเจียม
จากเล่ห์เหลี่ยมผู้ชายใจชั่วช้า
ทั้งที่เธอเป็นเพศให้กำเนิด
เป็นบ่อเกิดอบอุ่นมากคุณค่า
เป็นความรักที่เลิศเลอเสมอมา
โลกขาดเธอไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร
ตื่นเถิดเหล่าสตรีร่วมต่อสู้
เลิกจมปลักหดหู่กันอยู่ได้
เธอมีมือมีตีนกลัวไปไย
เถิดร่วมใจกอบกู้สิทธิชน
เห็นไหมว่าฟ้ามีดาวยังพราวแสง
เพียงพวกเธอร่วมแรงทุกแห่งหน
มือจับมือใจสานใจได้รวมพล
เพื่อเริ่มต้นทำสิ่งดีที่ท้าทาย
เพราะเธอต่างมีความคิดอิสระ
ใช่เธอจะยอมแพ้แม้เรื่องง่าย
พิสูจน์คำลบหลู่จากผู้ชาย
แม้ร่างกายบอบบางออกอย่างนั้น
เหมือนเหตุการณ์บุราณนานสมัย
สตรีได้สำเร็จพระอรหันต์
แม้แต่ศึกสงครามไม่คร้ามครัน
ออกสู้รบไม่เคยหวั่นแต่นั้นมา
ตื่นเถิดเหล่าสตรีร่วมต่อสู้
เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีสตรีกล้า
ก่อนชีพเธอจักม้วยมรณา
ประวัติศาสตร์อีกหน้าต้องจารึก
21 กุมภาพันธ์ 2553 21:50 น.
แม่จิตร
ชาติที่แล้วฉันทำกรรมอันใด
ชาตินี้ถึงได้มีรักมักผิดหวัง
ถูกทอดทิ้งหดหู่อยู่ลำพัง
ทั้งที่รักจริงใจเสมอมา
ไฉนเลยจะรู้จักรักสุขสม
กลับต้องทุกข์ระทมเจ็บปวดปร่า
ชีวิตที่เหลือมีแต่ดอกน้ำตา
ผลิร่วงลงอย่างช้าช้าอยู่ทุกวัน
จะมีไหมนางแก้วในชาตินี้
มอบรักที่ซื่อสัตย์ไม่แปรผัน
อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ไม่ทิ้งกัน
เป็นรักแท้คงมั่นชั่วชีวา
ก็ได้แต่หวังในห้วงคำนึง
จึ่งอธิษฐานกับพระพุทธไว้ว่า
แม้นชาตินี้ถูกทอดทิ้งทุกข์ทรมา
เกิดชาติหน้าขออย่าอาภัพรัก
18 พฤศจิกายน 2552 09:42 น.
แม่จิตร
ตื่นเถิดนักฝันพฤศจิกา
ดวงดาวศรัทธา
ยังจ้าสาดแสงอำไพ
โปรดเถิดเพื่อนหยุดเสียใจ
กับสิ่งพลาดไป
ในยามชีวิตอับจน
เห็นไหมท้องฟ้ามืดมน
มีดาวเบื้องบน
ลองค้นปรัชญาชีวิต
ไม่เคยมีใครไม่ผิด
เพื่อนคิดสิคิด
พินิจแง่งามความดี
แปรความเหนื่อยล้าหน่ายหนี
เป็นกล้าทวี
ลบใจที่เคยขลาดกลัว
ลบคำพูดคนเขาหัว
ดุจดั่งดอกบัว
อยู่เหนือผืนน้ำโคลนตม
ใช่ยิ่งทำตัวโง่งม
เถิดเร่งสะสม
ประสบการณ์คุณค่ามนุษย์
พอเถิดน้ำตามหาสมุทร
ยั้งใจยื้อยุด
แล้วจุดประกายปัญญา
ตราบเรายังมีชีวา
อุปสรรคนานา
จงกล้าเดินหน้าฝ่าฟัน
มาเถิดเพื่อนรักนักฝัน
เราไปด้วยกัน
สร้างสรรค์สร้างฝันวันนี้
19 ตุลาคม 2552 16:44 น.
แม่จิตร
โสเภณีดีกว่าสัตว์การเมือง
ไม่อวดเขื่องนโยบายหลอกขายฝัน
ไม่โกงกินประเทศชาติอนาถอนันต์
ไม่ปลุกปั่นประชามาประท้วง
ไม่เอื้อผลประโยชน์ให้โคตรเหง้า
ไม่หอนเห่าอยู่ตามสนามหลวง
ไม่วิ่งเต้นหาหลักช่องตักตวง
ไม่จาบจ้วงเบื้องสูงมุ่งภักดี
ไม่สั่งฆ่าตัดตอนบ่อนทำลาย
ไม่แยบยลอุบายเลี่ยงภาษี
ไม่ตอแหลพร่ำบ่นบนเวที
ไม่ก่อหนี้เงินตราประชาชน
ไม่ครอบครองลุกล้ำธรรมชาติ
ไม่เรี่ยราดงบประมาณการฉ้อฉล
ไม่ซ่องสุมพรรคพวกอิทธิพล
ไม่คิดปล้นอารยะอธิปไตย
โสเภณีดีกว่าสัตว์การเมือง
นี่คือเรื่องจริงแท้ทุกยุคทุกสมัย
นักการเมืองเหล่านั้นชอบจัญไร
สืบวิสัยเหี้ยแลนแสนรู้นัก
คิดว่าตนเองเป็นผู้วิเศษ
แท้เป็นเปรตหื่นใคร่กระหายหนัก
โลภโกรธหลงทุกอย่างสร้างภาพลักษณ์
นี่หรือจักควรคู่เป็นผู้นำ
มีปัญญาความรู้อยู่ก็มาก
มือถือสากปากถือศีลสิ่งเพ้อพร่ำ
แพ้กิเลสถ่อยเถื่อนแฝงเงื่อนงำ
ลืมทุกธรรมความดีที่สอนไว้
โสเภณีดีกว่าสัตว์การเมือง
ฉันย้ำเรื่องจริงแท้และเห็นได้
ตราบสูญสิ้นจริยธรรมนำทางไป
แล้วประชาธิปไตยไหนจักมี