17 ธันวาคม 2549 14:50 น.
แมวคราว
หมวกสักหลาดขาดเก่าเอาสวมหัว
จอบหลังครัวถือเข้าเอาถากถาง
ริดกอหญ้ากลุ่มไม้ริมรายทาง
หยิบคราดวางลากเข้าแล้วเผาไฟ
หลังบ้านพ่อรกเรื้อเหลือเกินแล้ว
ไร้วี่แววคนกรายมาดายให้
ทั้งลูกหลานว่านเครือไม่เหลือใคร
จะใส่ใจดูแลแม้สักคน
ละงานถางวางจอบตรงขอบบ่อ
ใจมันท้อโถมทับจนสับสน
ด้วยรักห่วงรู้แน่แก่ใจตน
พ่อเพียงคนจะหาใครแทนไม่มี
มาหาพ่อแต่ละครั้งเพียงหวังว่า
ได้พบหน้าไร้ทุกข์มีสุขศรี
เห็นพ่อยังยิ้มได้สบายดี
ลูกก็มีความหวังกำลังใจ
แผลพ่อล้มเริ่มเลือนเมื่อเดือนก่อน
หัวเข่าอ่อนลื่นถลาไม่ปราศรัย
พ่อหน้ามืดล้มคะมำคว่ำลงไป
ลูกนี้ใจหายวาบมากราบพลัน
ตำน้ำพริกปลาป่นจนหอมกรุ่น
รินน้ำอุ่นวางให้ใส่ในขัน
แกงหน่อไม้ใส่ย่านางวางลงพลัน
กินคู่กันย่างปลาดุกคงถูกคอ
ทั้งซักผ้าถูบ้านงานหลายอย่าง
ลูกจัดวางเอาใจไว้เพื่อพ่อ
ซักผ้าห่มปลอกหมอนไว้ให้ใช้พอ
ถางหญ้าต่อรอบบ้านเป็นงานเพลิน
ใครจะมาใครจะไปก็ไม่ว่า
เพียงบิดาสุขใจไม่ขัดเขิน
เฝ้าถามตอบปลอบปลุกให้ลุกเดิน
คงไม่เกินกำลังพ่อขอให้ทำ
อาบน้ำพ่อเปลี่ยนเสื้อเมื่อวันใหม่
ผ้าขาวม้าพอใส่หรือเก่าคร่ำ
เก็บมุ้งหมอนซักไว้ใช้ประจำ
ตากแดดซ้ำสะอาดเอี่ยมเตรียมอย่างดี
กินอิ่มแล้วก็พักผ่อนนอนเถิดพ่อ
ระหว่างรออ่อมปลาดุกสุกได้ที่
มื้อต่อไปปรุงให้พ่อไม่รอรี
ฝีมือดีอยู่หรอกพ่อพอได้กิน
ทั้งเป็ดไก่ในเล้าเอามาขาย
มันขยายครอกอยู่ไม่รู้สิ้น
เหลือสองสามตัวใหญ่ไว้เขี่ยดิน
ค่อยคุ้นชินลดภาระนะพ่อเอย
เช้าตักบาตรทำบุญเจือจุนบ้าง
ลูกจัดวางของไว้ให้ไม่อยู่เฉย
ปลากระป๋องอีกมาม่าอย่าละเลย
ได้เสวยกองบุญทุนที่ทำ
ยามลุกเดินค่อยค่อยหน่อยนะพ่อ
ไม้เท้ารอเอาไว้ยันกันถลำ
ฝากลูกอามาช่วยดูอยู่ประจำ
กลัวล้มซ้ำหนสองไม่ต้องการ
หมวกสักหลาดขาดเก่าเอาสวมหัว
ทำสวนครัวต่ออีกหน่อยย่อยอาหาร
พรุ่งนี้กลับกรุงไกรอีกไม่นาน
จะกลับบ้านมากราบพ่อรอเถิดเอย.
15 ธันวาคม 2549 14:27 น.
แมวคราว
ถึงเวลาถ้าพร้อมยอมแตกหัก
มิแบกรักเสียเวลาอย่าได้หวัง
ความจริงใจทุกสิ่งที่จริงจัง
เธอทำพังหลายหนจนยับเยิน
จะไปไหนไปเถิดขอเชิดใส่
ไปให้ไกลเกินกาลนับนานเนิ่น
ที่แล้วมาให้แล้วไปไม่เชื้อเชิญ
อาจบังเอิญสร้างกรรมทำร่วมกัน
เธออาจเป็นเนื้อคู่เขาผู้อื่น
จงอย่าฝืนขืนสร้างร่วมทางฝัน
เที่ยวเร่รักล้อเล่นไม่เว้นวัน
ไล่ไม่ทันฉันเบื่อไล่ไปเถิดเธอ
จะกรวดน้ำคว่ำขันบันดาลให้
กรรมอันใดเคยทำนำเสนอ
จงสิ้นชาติขาดกันฉันและเธอ
อย่าได้เจอกันอีก..ขอหลีกทาง..
15 ธันวาคม 2549 13:39 น.
แมวคราว
เกิดเป็นหญิงให้เห็นว่าเป็นหญิง
อย่าละทิ้งกริยาอัชฌาสัย
เป็นหญิงครึ่งชายครึ่งอย่าพึงใจ
ใครเขาไม่สรรเสริญเมินอารมณ์
จะกดขี่กีดกันถึงชั้นไหน
บัญญัติไว้ว่าสตรีต้องดีสม
เมื่อบ้านเมืองเบื้องหลังและสังคม
ล้วนทับถมอิตถีมีนอกใน
ข้อกฎหมายโบราณยังขานว่า
ภรรยาดั่งทาสกามรับความใคร่
ถึงสามีข่มขืนให้ขื่นใจ
จะอุทธรณ์ผิดใดมิได้เลย
กดผู้หญิงเอาไว้ไม่เงยหน้า
คนตีตราเขียนกฎหมายเจ้านายเอ๋ย
ล้วนแล้วแต่คร่ำคร่าและช้าเชย
ผู้หญิงเลยเป็นเหยื่อเบื่อบรรยาย
จะตีกรอบกันไปถึงไหนเล่า
ทีเจ้าผัวมัวเมามันน่าหน่าย
ชอบตบตีบีฑาประสาชาย
ดูวุ่นวายครอบครัวเรื่องผัวเมีย
สอนผู้หญิงรักนวลสงวนหนัก
ชายชอบชักคุยเขื่องเรื่องได้เสีย
มุดตามซ่องถองเหล้าแล้วเคล้าเคลีย
ปล่อยให้เมียอุ้มท้องนองน้ำตา
แค่ตัวอย่างยกมาอย่าว่าหญิง
เธอเป็นสิ่งควรถนอมออมรักษา
คือมิ่งมิตรเมียขวัญภรรยา
เป็นมารดาของลูกพันผูกใจ
หญิงก็คนเหมือนกันนั้นของแน่
คือเพศแม่แท้จริงแสนยิ่งใหญ่
ใช่แค่เป็นสัตว์เลี้ยงบนเตียงใคร
มีจิตใจมีความคิดไม่ผิดคน
ฉะนั้นแล้วอย่าดูถูกลูกผู้หญิง
ด้วยใจจริงเปิดไว้ในเบื้องต้น
วีรสตรีมากมายหลายล้านคน
เอาเลือดปนน้ำตาทาแผ่นดิน
จงมองคนให้เป็นคนอย่าสนเพศ
หรือหาเหตุลบหลู่มิรู้สิ้น
ค่านิยมคร่ำคร่าอย่ายลยิน
เลิกตัดสินตีตราวัดค่าคน
มุ่งยึดเอาความดีเป็นที่ตั้ง
เพศมาหลังดอกหนาอย่าสับสน
เถ้ากระดูกเคล้าคละที่ปะปน
แยกมีจนหรือหญิงชายได้ไหมเอย
หากตายแล้วเกิดใหม่ได้ดังว่า
เหล่าบรรดานารีไม่มีเฉย
คงแย่งเกิดเป็นชายด้วยหมายเชย
รักเสบยอยู่สนุกสุขสมใจ
เกิดเป็นหญิงก็เห็นว่าเป็นหญิง
ใช่ละทิ้งกริยาอัชฌาสัย
เพียงเป็นตัวของตัวเองอย่าเกรงใคร
และงามใจเช่นเพศแม่อย่างแท้จริง.
หมายเหตุ..
....กลอนบทแรกคัดมาจากสุภาษิตสอนหญิงครับ...
14 ธันวาคม 2549 12:53 น.
แมวคราว
แดนใดพระบาทเยื้อง............พลันเย็น
เกษมสุขผ่อนทุกข์เข็ญ...........เกื้อให้
พระเอยพระผู้เป็น.................หทัยราษฎร์
ก้มกราบแทบบาทไท้.............เทอดจ้าว...จอมสยาม
เป็นบุญข้าบาทแล้ว................จอมบดินทร์
ได้ร่มพระภูมินทร์..................ห่มเกล้า
เย็นบุญพิรุณริน....................ฉ่ำหล้า
น้ำพระทัยพระผ่านด้าว..........เลิศล้ำ..มหาศาล
เจ็ดสิบเก้าลุผ่านล่วง...............มหาสมัย
ทรงปกครองปวงไทย........อุ่นหล้า
ทศพิธราชธรรมไซร้.........ดุจพ่อ...ไทยเฮย
เชิญเทพทุกม่านฟ้า..........ร่วมซร้อง..สรรเสริญ
ขอพระองค์ทรงเปี่ยมด้วย.........พลานามัย
แข็งแรงพระราชหฤทัย......ผ่องแผ้ว
สถิตย์ห่มดุจร่มไทร..........ขวัญเกล้า ไทยนา
ปกเกศดุจฉัตรแก้ว.........อุ่นเกล้า..นิกรสยาม..
.....ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน...
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
ผู้ใช้นามแฝงแมวคราวและครอบครัว
13 ธันวาคม 2549 09:32 น.
แมวคราว
เชิญผู้ทอม.....ลงนั่ง...แล้วฟังว่า
เป็นตำรา...สอนใจ..ไม่ลืมหลง
จงเป็นทอม..อย่างฉลาด..และอาจอง
อย่าทนง...ตนนั้น..มันไม่ดี
ทั้งทอมเทศ..ทอมไทย..วัยกำดัด
หมั่นฝึกหัด..ท่วงท่า..เสริมราศรี
เที่ยวเดินกร่าง...ทั่วไป..ในธานี
เขาจะตี...หัวแบะ..นี่แหละกรรม
ควรนอบน้อม..เคารพครู..และผู้ใหญ่
ยกมือไหว้...พับเพียบ..ไม่เหยียบย่ำ
ความอ่อนน้อม..นี้จัก..คอยชักนำ..
คิดพูดทำ...ให้ท่านเห็น..และเอ็นดู
ยามย่างเยื้อง..ยุรยาตร..ให้อาจหาญ
ทั้งหน่วยก้าน...ฝึกให้ดี..อวดอีหนู...
เหวี่ยงสะโพก..โยกบั้นท้าย..ส่ายเหมือนงู
คนไม่รู้....จะชวนชี้..ดี้หรือทอม
อันน้ำปรุง..อบร่ำ..นำมาใส่
อย่ามากไป...จนเกินการ..ความหวานหอม
เลือกเฉพาะ..เหมาะสม..น่าดมดอม
ใช่จะหอม...อย่างน้องดี้...นี้ไม่งาม
อีกเสื้อผ้า..หน้าผม....สมสง่า
สะอาดตา...เอาไว้..ไม่มองข้าม
ซักแล้วรีด..ใช่เดินผ่าน..นงคราญ..จาม..
ปล่อยเกลื้อนลาม...แถวปกเสื้อ...ถึงเนื้อคอ
อีกทั้งเล็บ..เก็บให้สั้น..ต้องหมั่นตัด
ตะไบขัด...คมออกไป..ไม่เหลือหลอ
วาสลีน...ชะโลมไว้...ไม่รีรอ
พร้อมตีต่อ.....ภาคสนาม..สงครามรัก
ดูแลฟัน..เหงือกลิ้น..ไร้กลิ่นปาก
สาวก็อยาก...หอมแท้..แม้ฟันหัก..
ยามพลิกพลิ้ว..ชิวหา..ดูน่ารัก..
นี่คือหลัก...แห่งวิชา..อนามัย
สูบบุหรี่..เป็นที่ทาง...อย่างมีมาด
อย่าเรี่ยราด..รายทาง..สร้างวิสัย
หากรบกวน..คนข้างข้าง..อย่าวางใจ
ขออภัย..เขานิดหนึ่ง...จึงเข้าที
อันสุรา...แปลว่าเหล้า..อย่าเมาหนัก..
รู้หยุดพัก...ดูแลตับ..ปรับเข้าที่
เมารากเขียว..จนเหลือง..เปลืองสิ้นดี
หมดราศี..ตอนเพื่อนหาม..ยามที่เมา
กินดื่มเที่ยว..ให้รู้จัก..ควักตังค์บ้าง..
อย่าเที่ยวสร้าง...ความตระหนี่..อายดี้เขา
แต่อย่าทุ่ม..หมดตัว..จนมัวเมา
ถ้ารักเรา..แน่แท้..ช่วยแชร์กัน
จงเอาใจ..ผู้ดี้...ที่รักยิ่ง
เขาเป็นหญิง...บอบบาง..นางในฝัน
จะหนักเบา..เอาแรง..เข้าแบ่งปัน
ใช่กะฟัน..แล้วทิ้ง..หญิงระทม
อันผู้ทอม..ย่อมจะดี..ตรงมีกึ๋น
อย่าทำมึน..เข้าใกล้ชิด..ทำหนิดหนม
ชอบจ้องสาว..ทะลุผ้า..ถึงหน้านม
อาจระบม...ไปทั้งตัว..เพราะหัวงู
อย่าอวดร่ำ..อวดรวย...ด้วยผยอง
สาวอาจมอง...ผ่านข้าม..ความเลิศหรู
เป็นตัวของ..ตัวเอง..ลองเพ่งดู
เอาดีสู้...เข้าไว้..ไม่รอรี
อันหญิงมั่ว..กามา..อย่ากรายใกล้
แพร่โรคภัย..หลากล้วน..ไม่ควรที่
หญิงงกเงิน..เกินไป..ใช่หญิงดี
เป็นราคี...แก่ชีวิต...จงคิดตรอง
จะดูคน..ดูให้นาน..โบราณว่า
กริยา..ส่อสกุล..พาขุ่นข้อง
อีกปากหวาน..ก้นเปรี้ยว..อย่าเหลียวมอง
อันคู่ครอง..อาจไม่..ใช่คู่ควง..
ผมเขียนมา..ทั้งหมด....จดจำไว้
เพราะใส่ใจ..เท่าที่เห็น..และเป็นห่วง
นายแมวคราว..หวังดี..ไม่มีลวง
แต่ผมง่วง...ไว้คราวหน้า..มาใหม่เอย..