7 พฤศจิกายน 2554 14:50 น.
แมงกุ๊ดจี่
เนิ่นนานผูกสัมพันธ์คงมั่นจิต
เพียงสักนิดจงเอ่ยเปิดเผยถ้อย
รู้บ้างไหม? คำนึงตราตรึงคอย
ขออย่าปล่อยเพ้อไกลคิดไปเอง...
เพียงคำเดียวปรารถนาตั้งตาหวัง
อยากจะฟังคำหวานร่วมผ่านเพรง
หรืออาจแฝงนัยพจน์เป็นบทเพลง
สื่อบรรเลง...ฝากถึง...อีกหนึ่งใจ...
บางคราวเหมือนจะเอ่ยเฉลยบอก
กระเซ่าหยอกแกล้งอำ...ทำไฉน
หมางเมินมอง...ยั่วแหย่ แท้เฉไฉ
อกหวั่นไหว...ร้าวปวดต้องชวดชม...
ฤา..ห้องใจใครจองหวังครองคู่
จึ่งไม่รู้...ทรวงในของใครขม
ฤา..รอเอ่ยเฉพาะผู้เหมาะสม
ปล่อยน้องตรมผู้เดียวไม่เหลียวแล...
เพียงคำเดียวว่า"รัก"ตระหนักเถิด
สวยพริ้งเพริศ...จำนรรค์มิผันแปร
ทุกรู้สึก...มอบแล้วอย่างแน่วแน่
เปรียบรักแท้...จำหลักลงปักทรวง...
1 พฤศจิกายน 2554 11:16 น.
แมงกุ๊ดจี่
Cr.picture :http://www.nanalady.com
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
มองดูวิวดงดอนเมืองคอนกรีต
ตึกสีซีด...เรียงราย สุดสายตา
คนบ้านนอกพลัดถิ่นจินต์เว่ว้า
ยามท้องฟ้า...เผยชัดแสงอัสดง...
ความแออัดเมืองใหญ่ทำไหวหวาด
คนขี้ขลาดหัวหมุนว้าวุ่นงง
เมื่อพบเมืองศิวิไลพาใจปลง
ไม่ประสงค์...อยู่ต่อพร้อมขอไกล...
เหงาหงอยใจปั่นป่วนในส่วนลึก
อยู่บนตึกชั้นสิบสองเหม่อมองไป
ช่างเหือดแล้งแห้งเหี่ยวไร้เขียวใส
ตึกสูงใหญ่...ปรากฏขึ้นบดบัง...
คิดถึงนักสีทองของทิวทุ่ง
ยามเช้ารุ่ง "สายหมอก" "นกออกรัง"
แสงแดดเช้า ส่องมา เพื่อพาหวัง
ให้คอยตั้ง อยู่อย่างคน...ชนบท...
ปล.
เขียนไว้เมื่อหลายเดือน คราไปเยี่ยมเมืองนนท์