15 มิถุนายน 2552 18:25 น.
แมงกุ๊ดจี่
ฝากสายลมอิสานเหนือเพื่อไปพัด
หวังเป่าปัดความเหงาที่เศร้าหมอง
หากยามใดอ่อนล้าแหงนหน้ามอง
สายลมเบาของ"เราสอง"บนฟ้านั้น...
แล้วจะเห็นเฆมน้อยล่องลอยปลิว
กำลังพริ้ว...ในอากาศเพื่อวาดฝัน
คือแรงใจ นิยาม ความสัมพันธ์
สู่ทะเลอันดามันอันกว้างไกล...
ขอสายลมและไออุ่นหอมกรุ่นนี้
พัดพรมพี่ได้คลายหายอ่อนไหว
ความห่างเหินกายห่างใช่ห่างใจ
ยังแนบไว้ในลมเบาที่เคล้าคลอ...
ความคิดถึง...ห่วงใยมอบไว้มั่น
เพียงอย่าพรั่น...กับทางที่ห่างพอ
คนอยู่ไกล...คอยหวัง...ตั้งตารอ
ไม่เคยท้อ...ระยะทางที่ห่างกัน...
แม้ห่างจากเหนือสุดขอหยุดไว้
สิ้นสุดใต้หมายปองได้ครองขวัญ
อยากเที่ยวเล่นทะเลฝันอันดามัน...
เพียงสักวัน....เที่ยวหาดสวาทเรา...(เขิลจังวุ้ยส์)
(ไม่มีโอกาสไหนพิเศษเป็นเหตุหร๊อก แค่รู้สึกดี)
แต่รู้สึกว่ามันจะกระง๋องกระแง๋ง...ยังไงไม่รู้เนาะ...
ฝากลมไปทักแล้วเน้อ
11 มิถุนายน 2552 22:56 น.
แมงกุ๊ดจี่
ย้อนรอยไปในอดีตดั่งกรีดเฉือน
ยังย้ำเตือนความเจ็บเคยเหน็บหนาว
เมื่อคิดย้อนจำภาพเก็บ...เจ็บทุกคราว
จิตยิ่งร้าว...กับวันคืน...สะอื้นตรม...
กาลเวลาผันผ่านไปแม้นใจเปลี่ยน
แต่วนเวียนเก็บภาพเก่ามาเศร้าขม
ไม่เคยเลือนเรื่องเลวร้ายมิคลายปม
ชีพระทมจมทุกข์เข็ญปล่อยเป็นไป...
ผ่านสามร้อยหกสิบห้าวันลาร้าง
ถูกคนสร้างรอยบาดแผลยากแก้ไข
กลายเป็นปมขมขื่นผิด...เกาะติดใจ
คอยหวั่นไหว...อยู่เสมอยังเผลอจำ...
เหมือนอยากลืมยิ่งกลับจำย้ำความคิด
คล้ายชีวิต...หลงติดจั่นหวาดหวั่นช้ำ
ไม่เคยเลือนเรื่องเก่าเก่าเฝ้าเตือนย้ำ
รอยกระทำ...ในวันวาน...เคยผ่านมา...
9 มิถุนายน 2552 17:53 น.
แมงกุ๊ดจี่
....๑....
แม้นมิอาจลืมรอยรักสลักมั่น
หรือกาลนั้นผันผ่านเนินนานไหว
มอบรักจริงทั้งดวงปรี่ทรวงใน
เกินขานไข...บอกเล่าความเศร้าตรม...
....๒....
เฝ้าเก็บรอยความฝันที่งันเงียบ
ใจเย็นเยียบ มีเงา ความเหงาขม
คอยคร่ำคิด ห่วงหา ในอารมณ์
กล้ำกลืนข่ม...วิโยคด้วยโศกทรวง...
....๓....
ร้าวรานเกินหยัดยืนคิดฝืนสู้
ให้คงอยู่ท่ามรักอันหนักหน่วง
ยังคิดหวังอยากถามความทั้งปวง
ใจแสนห่วง...คนห่างเมื่อร้างลา...
....๔....
เมื่อรับรู้บางถ้อยยิ่งน้อยจิต
มีสักนิดบ้างไหม? ใคร่ห่วงหา
หรือเป็นเพียงเล่นเล่ห์ข้ามเวลา
ยามถึงคราเบื่อหน่ายเงียบหายไป...
....๕....
เป็นเพียงภาพหว่างฝันอันวิจิตร
ไม่ยึดติด ฤารัก ใยผลักไส
ขอให้ลืม...เรื่องราว ยิ่งร้าวใจ
ควรทิ้งให้เพรงกาลผันผ่านลืม...
....๖....
แม้นเสียดายคืนวันเคยฝันร่วม
รักล้นท่วมทรวงในใจไม่ปลื้ม
คืนรักให้ไม่อาวรณ์ก่อนเคยยืม
บอกให้ลืม"คนไม้หลักปักเลน"...
....๗....
อยากทำได้อย่างเอ่ย...เคยพร่ำบอก
เกินจะหลอกใจตน...คนจะเห็น
มีบางครั้งหลีกเลี่ยงเพื่อเบี่ยงเบน
คงเป็นเวรหรือกรรมมาจำจอง...
...ขออนุญาตใช้บางคำ มาลำนำความในใจ
อยากจะให้ครบ 10 บท
แต่ว่า...เหมือนยิ่งเผยความอ่อนแอ...
รู้สึกเหมือนเปล่าประโยชน์ที่จะรักใคร...
ปล่อยรู้สึกของใจเป็นไปดั่งต้องการ
ก็แสนจะว่างเปล่า....
ขอบคุณภาพจาก : http://i223.photobucket.com/
ขอบคุณเสียงจาก : http://img182.imageshack.us
5 มิถุนายน 2552 11:15 น.
แมงกุ๊ดจี่
เพราะผูกพันลึกซึ้งตราตรึงจิต
จึงคอยคิดห่วงใยให้เสมอ
ยามอ่อนแออ่อนไหวใจพลั้งเผลอ
คือพวกเธอ...คอยปลอบมอบห่วงใย...
ห่วงเสมอยามเจ็บหนาวเหน็บช้ำ
ห่วงถามย้ำโทร.ถามยามอ่อนไหว
ห่วงแม้นยามร่างกายพ่ายโรคภัย
ห่วงถามไถ่ทุกข์สุขเสมอมา...
ห่วงแม้ยามผิดหวังทั้งเรื่องงาน
ห่วงทุกกาลคุ้มขวัญแก้ปัญหา
ห่วงเรื่องคนรักหลอกบอกลวงตา
ห่วงทุกครา...จริงใจมอบให้กัน...
ห่วงสัมพันธ์พี่น้องร่วมคล้องเกี่ยว
ห่วงสายใยแน่นเหนียวเหนี่ยวผูกพัน
ห่วงสายรักร่วมทักทอเติมต่อฝัน
ห่วงใยกัน...มั่นเสมอ...เธอฉันมี...
จักนำห่วงมาคล้องร่วมน้องพี่
นำห่วงนี้...คล้องใจผูกไมตรี
นำห่วงนี้...สลักกลางหว่างฤดี
นำห่วงนี้...คล้องสายใยไว้นิรันดร์...
อยากขอบคุณความรู้สึกที่มอบให้เสมอ
ตั้งแต่พบเจอกัน...
จวบวันนี้รู้สึกดีดีไม่มีจาง...
4 มิถุนายน 2552 22:02 น.
แมงกุ๊ดจี่
เมื่อทุกอย่างชัดเจนเบี่ยงเบนทิศ
เมื่อดวงจิตเหนื่อยหน่ายพ่ายปัญหา
เมื่อรู้สึก...ภายใน...ใจด้านชา
เมื่อหยุดคว้า...คงจบเลือนลบไป...
ปล่อยจินต์ซ่อนรู้สึกส่วนลึกนั้น
ปล่อยแปรผันล่วงผ่านกับกาลไหว
ปล่อยทุกเรื่องเลือนลางบนทางไกล
ปล่อยอาลัย...อาวรณ์...ก่อนเคยมี...
ปิดฉากรักสวยสดหมดความหมาย
บทสุดท้าย...แน่นหนักด้วยศักดิ์ศรี
เป็นดั่งเหมือน *หมดใจ* สิ้นไมตรี
หลบหลีกหนี...พ้นห่างเส้นทางฝัน...
จักขอเดินโดดเดี่ยวเก็บเกี่ยวหวัง
หากใจพัง...รักเป็นพิษไม่คิดหัน
พร้อมก้าวเดินต่อไปมิไหวหวั่น
จบคืนวัน...เป็นอดีตแม้กรีดเฉือน...
เมื่อทุกอย่างชัดเจนเบี่ยงเบนฝัน
ก่อนรวมใจ...ร่วมกันวันนี้เลือน
เก็บรอยรักรอยฝันหมั่นย้ำเตือน
ทุกสิ่งเหมือนหลอกลวงติดบ่วงใจ...