8 มิถุนายน 2550 16:56 น.
แมงกุ๊ดจี่
ม่านสายหมอกหลอกตาอย่างบางเบา
คล้ายเลือนเงา...ความรัก...ถักสานฝัน
สัญญาณเหมือนเลือนร้างห่างสัมพันธ์
กาลแปรผัน...หมุนเวียนแปรเปลี่ยนไป...
เปรียบเหมือนมีกำแพงดั่งแกล้งขวาง
หรือใครวาง...เว้นช่อง...ต้องละไว้
ฝันได้เคียงเพียงภาพ...ตราบสิ้นไขย
มิอาจใกล้...ร่วมฝัน...ดั่งสัญญา....
หมอกคลีคลายบางเบาพบเงารัก
เห็นประจักษ์...ความจริง...สิ่งค้นหา
เหมือนซ่อนเร้นเป็นภาพที่ฉาบทา
กาลผ่านมา...กระจ่างใสในห้วงจินต์...
ได้โปรดเถิด!บรรเจิดเกิดรักหวาน
ขอก้าวผ่านเข้าใกล้...ใจถวิล
อยากพบรักสดใส ในดวงวิญญ์
ก่อนจักสิ้น...ลมปราณ...วิญญาณดับ...
3 มิถุนายน 2550 15:51 น.
แมงกุ๊ดจี่
รูปนี้มอบแด่พี่ฤกษ์ คริ ๆ
นิทราฝันฟุ้งเฟื่อง ณ เมืองแมน
เปรียบดั่งแดนโชติช่วงสรวงสวรรค์
เหมือนดั่งวิมานสราญรื่นชื่นชีวัน
แสนสุขสันต์...บ้านกองโตมโหฬาร... นี่คือวิมานของแมงกุ๊ดจี่ ฮี่ ๆๆ
ด้วยรายล้อมพร้อมพรั่งดั่งญาติมิตร
แนบสนิท...ด้วยรัก...สมัครสมาน
คอยเกื้อกูลยามตรมดั่งลมปราณ
มิหักหาญ...ช้ำเติม...เพิ่มทุกข์ตรม... พี่ ๆ เค้าไม่เหมือนตะเองหร๊อก
หลงรักแมงขี้ควายหรือชายชีกอ
งามลออ..จนเอ่ยบอกออกปากชม
เหมือนอุตพิดกลิ่นหอมอยากดอมดม
กลิ่นอาจม...ลอยคลุ้ง...จรุงใจ.... เอิ๊ก ๆ คงชอบกลิ่นละสิถึงตามมา
ชื่นชอบกลิ่นเหม็นแล้วใยแจวหนี
วางท่าที...แกล้งพร่ำ...ทำสาไถย
บอกน้ำท่วมล้นหลากจึงจากไป
หลุดเร็วไว...จากบ่อ...พ่อลีลา... กะว่าจะจับทำปลาร้าซะหน่อย...
ดอกอุตพิด
ลักษณะพืช พืชล้มลุกที่มีหัวใต้ดิน
เจริญงอกงามและออกดอกในฤดูฝน
ใบกลมโตปลายแหลม แต่มีส่วนเว้าลึกทำให้คล้ายกับ
แบ่งใบออกเป็นสามส่วน ก้านใบยาว ดอกออกจากโคน
เป็นสีม่วงแกมน้ำตาลกลิ่นเหม็นคล้ายอาจม เวลาบานยามเย็น
ส่วนที่เป็นพิษ ลำต้น
สารพิษและสารเคมีอื่นๆ calcium oxalate
การเกิดพิษ ถ้ารับประทานเข้าไปจะเกิดอาการไหม้
ที่เพดานปาก ลิ้นและคอ กล่องเสียงจะบวมการเปล่งเสียงจะผิดปกติ
อาเจียน ท้องเสีย
ข้อมูลประกอบ : http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture03&content=47371