5 มิถุนายน 2552 11:15 น.
แมงกุ๊ดจี่
เพราะผูกพันลึกซึ้งตราตรึงจิต
จึงคอยคิดห่วงใยให้เสมอ
ยามอ่อนแออ่อนไหวใจพลั้งเผลอ
คือพวกเธอ...คอยปลอบมอบห่วงใย...
ห่วงเสมอยามเจ็บหนาวเหน็บช้ำ
ห่วงถามย้ำโทร.ถามยามอ่อนไหว
ห่วงแม้นยามร่างกายพ่ายโรคภัย
ห่วงถามไถ่ทุกข์สุขเสมอมา...
ห่วงแม้ยามผิดหวังทั้งเรื่องงาน
ห่วงทุกกาลคุ้มขวัญแก้ปัญหา
ห่วงเรื่องคนรักหลอกบอกลวงตา
ห่วงทุกครา...จริงใจมอบให้กัน...
ห่วงสัมพันธ์พี่น้องร่วมคล้องเกี่ยว
ห่วงสายใยแน่นเหนียวเหนี่ยวผูกพัน
ห่วงสายรักร่วมทักทอเติมต่อฝัน
ห่วงใยกัน...มั่นเสมอ...เธอฉันมี...
จักนำห่วงมาคล้องร่วมน้องพี่
นำห่วงนี้...คล้องใจผูกไมตรี
นำห่วงนี้...สลักกลางหว่างฤดี
นำห่วงนี้...คล้องสายใยไว้นิรันดร์...
อยากขอบคุณความรู้สึกที่มอบให้เสมอ
ตั้งแต่พบเจอกัน...
จวบวันนี้รู้สึกดีดีไม่มีจาง...
4 มิถุนายน 2552 22:02 น.
แมงกุ๊ดจี่
เมื่อทุกอย่างชัดเจนเบี่ยงเบนทิศ
เมื่อดวงจิตเหนื่อยหน่ายพ่ายปัญหา
เมื่อรู้สึก...ภายใน...ใจด้านชา
เมื่อหยุดคว้า...คงจบเลือนลบไป...
ปล่อยจินต์ซ่อนรู้สึกส่วนลึกนั้น
ปล่อยแปรผันล่วงผ่านกับกาลไหว
ปล่อยทุกเรื่องเลือนลางบนทางไกล
ปล่อยอาลัย...อาวรณ์...ก่อนเคยมี...
ปิดฉากรักสวยสดหมดความหมาย
บทสุดท้าย...แน่นหนักด้วยศักดิ์ศรี
เป็นดั่งเหมือน *หมดใจ* สิ้นไมตรี
หลบหลีกหนี...พ้นห่างเส้นทางฝัน...
จักขอเดินโดดเดี่ยวเก็บเกี่ยวหวัง
หากใจพัง...รักเป็นพิษไม่คิดหัน
พร้อมก้าวเดินต่อไปมิไหวหวั่น
จบคืนวัน...เป็นอดีตแม้กรีดเฉือน...
เมื่อทุกอย่างชัดเจนเบี่ยงเบนฝัน
ก่อนรวมใจ...ร่วมกันวันนี้เลือน
เก็บรอยรักรอยฝันหมั่นย้ำเตือน
ทุกสิ่งเหมือนหลอกลวงติดบ่วงใจ...
20 พฤษภาคม 2552 12:16 น.
แมงกุ๊ดจี่
สายฝนโปรยร่วงหล่นใจหม่นหมอง
น้ำตาคนไหลนองเปื้อนสองแก้ม
พลอยฟ้าฝนชีพระทมตรมเกินแย้ม
"ร้างรอยยิ้ม" มาแต่งแต้มทำแจ่มใส...
ฟ้าเจ็บช้ำใครทำหนอจึงพ้อร่ำ
เทกระหน่ำ...ไหลรุดมิหยุดไหว
ฤ ใครเขาใจร้ายกลับกลายไกล
จึงร่ำไห้...คร่ำครวญจิตซวนเซ...
ฟ้าและฉันคงไม่ต่างถูกสร้างแผล
ถูกรังแก...เพราะถ้อยคนร้อยเล่ห์
ก่อนฝากรัก ฝากสัญญา มาหันเห
กลับรวนเรลืมเลือนเหมือนไม่มี...
วอนฟ้าฝน...เทลงมาอย่าได้สร่าง
โปรดโปรยพร่างล้างใจให้ฉันที
ให้คละเคล้าน้ำตาคนพร้อมฝนนี้
ล้างเจ็บที่...ทุกข์ทนผ่านฝนเย็น...
เครดิตภาพ : http://media.imeem.com
เครดิตเสียง : http://img81.imageshack.us
18 พฤษภาคม 2552 11:50 น.
แมงกุ๊ดจี่
ฝากถ้อยเป็นกลอนกานต์ผ่านอักษร
หมายเว้าวอน บางใคร ที่ใจฝัน
บ่งบอกนัย "ความคำนึง" ส่งถึงกัน
คำเหล่านั้นหลายหลากออกจากใจ...
เวลาผ่านหมุนเวียนแปรเปลี่ยนผัน
แสน.หมื่น.พัน.ถ้อยคำทำหวั่นไหว
ได้แต่คอย "คิดเผลอ" ละเมอไป
แล้วเมื่อใด? จะสิ้นสุดหยุดเสียที...
"รู้สึกเหนื่อย" หมดแรงจะแกร่งกล้า
หมายจะคว้าเหมือนสิ้นไร้ในชีวี
เหมือนไล่ล่าคอยวิ่งคล้ายยิ่งหนี
ทางเลือกมี...แยกกันตัดปัญหา...
รักไม่รักข้างในใจย่อมรู้
พิศเพ่งดูประมาณตนลองค้นหา
คุ้มกันไหม? เหนื่อยเพลียเสียเวลา
ปรายน้ำตา...กับซากรักปรักหักพัง...
13 พฤษภาคม 2552 10:49 น.
แมงกุ๊ดจี่
เมื่อจำความยามเด็กตัวเล็กนั้น
ปู่ของฉันท่านใจดีมีปราศัย
ดูอ่อนโยนแสนคุ้นรับอุ่นไอ
เป็นครูใหญ่ใครเห็นเป็นนับถือ...
คุณความดีท่านสร้างสว่างไสว
สั่งสอนให้เหล่าชนคนฝึกปรือ
เป็นครูใหญ่สอนสั่งรู้หนังสือ
ท่านนั้นคือ ผู้ให้ไม่หวังผล...
เป็นเรือจ้างส่งศิษย์หลายสิบรุ่น
ท่านเกื้อหนุนรู้จักหนักแน่นทน
ความลำบากเคยผ่านประมานตน
เกิดเป็นคน...สู้ชีวิตอย่าคิดกลัว...
เกียรติยศความดีท่านที่สร้าง
ผู้คนต่าง...เลืองลือนับถือทั่ว
สั่งสอนไว้รู้จักประพฤติตัว
หลีกไกลชั่ว...เป็นศรีในชีวา...
แตวันนี้...เหลือเพียงชื่อระบือไกล
คุณครูใหญ่...คนเพียกเคยเรียกหา
ในวันนี้เหลือความดีท่านสะสมมา
ทรงคุณค่า...คำสอน...อาวรณ์ใจ...
เป็นคุณปู่ ที่น่ารักและเคารพ ท่านมีอายุ 96 ปี
ท่านมีหลานๆ ห้อมล้อมและมีเหลนๆ แต่วันนี้ไม่มีท่านแล้วเหลือเพียงคุณความดี
ที่ท่านสร้างไว้ ท่านเป็นคุณครูใหญ่...ที่ใจดี...(ฟังจากที่พ่อเล่าให้ฟัง)
สูญเสียคุณปู่...และต้องสูญเสียอาจารย์ปู่...
สูญเสียบุคคลสำคัญถึงสองท่านและไม่ได้อยู่ร่วมงานศพ
ของทั้งสองท่านเพราะต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ...